การทำสาธารณกุศลในภูมิภาคเอเชีย (Asian Philanthropy) กำลังอยู่ในช่วงความเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนผ่านความมั่งคั่งส่วนบุคคลไปสู่เจ้าของความมั่งคั่งรุ่นใหม่ ซึ่งจะพิจารณาผลกระทบด้านสังคมในการบริหารสินทรัพย์และธุรกิจของพวกเขา ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่นี้ต้องการทำสาธารณกุศล โดยมีเป้าหมายแบบผสมผสานความมั่งคั่งกับการทำสาธารณกุศลที่ได้ผลตอบแทนรวดเร็วแบบ Moonshot โดยหวังที่จะจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
สิงคโปร์ - Credit Suisse Philanthropists Connect จัดขึ้นเป็นปีที่ 11 ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเครดิต สวิส ในการสนับสนุนการทำสาธารณกุศลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปีนี้งานดังกล่าวจัดขึ้นที่โรงแรมราฟเฟิลส์ ประเทศสิงคโปร์ โดยได้รับเกียรติจากมาดามฮาลิมา ยาขอบ (Halimah Yacob) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ และแขกกว่า 150 คนจากทั่วโลก รวมถึงผู้นำทางความคิดระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญในงานด้านสาธารณกุศลและการไม่แสวงผลกำไรเข้าร่วมงาน
งานปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นในหัวข้อ "From Bringing Wealth to Purpose To Bringing Purpose to Wealth" ย้ำให้เห็นถึงการเปลี่ยนกรอบความคิดในกลุ่มนักกิจกรรมสาธารณกุศลรุ่นใหม่ที่มองว่าการทำสาธารณกุศลเป็นพันธกิจที่สำคัญ โดยนักกิจกรรมสาธารณกุศลรุ่นใหม่เหล่านี้พยายามบูรณาการวัตถุประสงค์เข้ากับการบริหารความมั่งคั่งให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และแสวงหาวิธีที่จะร่วมกันสร้างทางออกด้านสังคมด้วยการผสมมุมมองด้านการสร้างผลกระทบต่อสังคมเข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศ ยกระดับกิจกรรมสาธารณกุศลให้ครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้น
Benjamin Cavalli, Head of Wealth Management Asia Pacific และ APAC Sustainability Leader ของเครดิต สวิส กล่าวว่า "เราคาดว่าปริมาณความมั่งคั่งที่ใหญ่ที่สุดจะถูกเปลี่ยนผ่านไปยังคนรุ่นต่อไปในช่วงทศวรรษหน้า แม้ว่าพลังของกิจกรรมสาธารณกุศลจะเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นต่างๆ แต่เป้าหมายพื้นฐานของการสนับสนุนกลุ่มต่าง ๆ ในสังคมที่มีความต้องการด้านการเงินมากที่สุดก็ยังคงเหมือนเดิม เราเฝ้าคอยที่จะได้เห็นว่างาน Philanthropists Connect รวมไปถึงเอกสาร และโปรแกรม NextGen ของเรา จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในผลกระทบและความยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญได้อย่างไร"
เอกสารหัวข้อ "A Generation of Change-Makers" ซึ่งร่วมเขียนโดย Credit Suisse และ Asian Venture Philanthropy Network (AVPN) ได้มีการนำเสนอภายในงาน เอกสารดังกล่าวได้เจาะลึกถึงแนวโน้มด้านการสาธารณกุศลใหม่ ๆ ทั่วทั้งเอเชีย
นายกวิน ว่องกุศลกิจ กรรมการ กลุ่มมิตรผล ได้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อสำคัญ ๆ จากเอกสารดังกล่าว และได้กล่าวถึงวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนคือ การใช้ความคิดนี้เป็นแนวปฏิบัติทางธุรกิจ "การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ ซึ่งไม่ใช่แค่การตัดกำไรส่วนหนึ่งของเราให้ไป แต่เป็นการมองในแง่ของรูปแบบธุรกิจของเรา ซึ่งสามารถสร้างสิ่งดีๆ ตามมาได้มากมาย" เขากล่าว
นายกวินกล่าวเสริมว่า "เราไม่ได้อยากทำแค่แจกของ แต่ในฐานะที่เป็นเสมือนครอบครัว เราอยากจะให้ในรูปแบบที่สามารถส่งต่อการให้นี้ไปได้เรื่อย ๆ ซึ่งหมายความว่า เรามองหาความต่อเนื่องในทุก ๆ สิ่งที่เราสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน มูลนิธิ หรือแนวทางปฏิบัติด้านธุรกิจของเราเอง และเราก็ตั้งใจว่าเราจะอยู่ในแวดวงใกล้กับชุมชนของเรา"
สรุปข้อมูลสำคัญจากเอกสารแจกมีดังต่อไปนี้
แนวโน้มสาธารณกุศลเชิงกลยุทธ์ในเอเชียแปซิฟิก
- ภูมิภาคเอเชียมีความมั่งคั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้สถานการณ์ความไม่เท่าเทียมกันและปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ก่อนแล้วทวีความรุนแรงมากขึ้นก็ตาม คาดว่าจำนวนนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra-High Net Worth Individual) จะเพิ่มขึ้นถึง 38% ในอีกห้าปีข้างหน้า และประมาณ 35% ของความมั่งคั่งจะเปลี่ยนผ่านไปยังคนรุ่นใหม่ในอีก 5-7 ปีข้างหน้า
- นักกิจกรรมสาธารณกุศลรุ่นใหม่มีความคิดที่จะทำให้การทำสาธารณกุศลมีผลมากขึ้น ผ่านการใช้เครื่องมือการลงทุนทางสังคมเชิงกลยุทธ์ควบคู่ไปกับการให้เงินทุนเพื่อสร้างผลกระทบที่ดีและยาวนานยิ่งขึ้น
- นักกิจกรรมสาธารณกุศลตระหนักถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน
ข้อมูลเชิงลึกของกรณีศึกษาเกี่ยวกับสาธารณกุศล
- การร่วมสร้างโซลูชันเพื่อผลกระทบในระยะยาว
- นักกิจกรรมสาธารณกุศลมีความสนใจมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมในการออกแบบและกำหนดโครงสร้างของการแก้ปัญหาทางสังคม
- การมีส่วนร่วมมากกว่าแค่การบริจาคเงิน
- นักกิจกรรมสาธารณกุศลเริ่มแบ่งปันต้นทุนทางสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งความเชี่ยวชาญและเครือข่าย เพื่อสานต่อสิ่งที่พวกเขาสนใจ ด้วยการแบ่งปันทักษะและคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรผู้รับสามารถสร้างเสริมศักยภาพ เติบโต และสร้างผลการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น
- การนำมุมมองระบบนิเวศมาใช้
- นักกิจกรรมสาธารณกุศลเริ่มพิจารณาถึงวิธีจัดการกับต้นเหตุของความท้าทายทางสังคมและเศรษฐกิจต่อต้านกับการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
- ตอบสนองต่อความต้องการที่กำลังเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ และพัฒนาระบบนิเวศในวงกว้าง
- นักกิจกรรมสาธารณกุศลที่ประสบความสำเร็จจะต้องเข้าใจถึงความต้องการในพื้นที่โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นและการเปลี่ยนแปลงรวมทั้งพัฒนาการด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังต้องเข้าใจถึงส่วนรวมเพื่อจะได้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและโรคระบาดส่งผลต่อชุมชนที่พวกเขาต้องการช่วยเหลืออย่างไร
- การควบคุมระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ๆ
- เมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ นักกิจกรรมสาธารณกุศลมีแนวความคิดที่จะให้ทุนสนับสนุนความคิดนอกกรอบที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่า ด้วยความหวังว่าจะทำให้เกิดแนวทางที่สามารถขยายผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ พวกเขามีการใช้เงินเป็นต้นทุนความเสี่ยงในสาธารณกุศลมากขึ้นเพื่อสร้างทางออกใหม่ ๆ ให้กับปัญหาที่มีอยู่ คู่ขนานไปกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคม
สามารถอ่านเอกสาร "A Generation of Change-Makers" ได้ที่ http://credit-suisse.com/media/assets/apac/docs/phil-connect-2022-avpn-whitepaper.pdf
.
SAM ส่งมอบโอกาสท้ายปีลดใหญ่ทรัพย์ NPA มากกว่า 50% ร่วมงาน "เทศกาลการเงิน-การลงทุน ครั้งที่ 16 Thailand Smart Money 2025" เซ็นทรัลลาดพร้าว 5-7 ธ.ค. 68
ธปท.แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ ร่วมบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
SAM งัดแคมเปญเด็ด "ลดใหญ่ ส่งท้ายปี" ขนทรัพย์ NPA กว่า 600 รายการ มูลค่ากว่า 3,000 ลบ. ลดสูงสุดมากกว่า 50%
SAM ออกมาตรการพักชำระเงินต้น-ลดดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน 5 จังหวัดทางภาคใต้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
SAM เปิดประมูลที่ดินแปลงใหญ่เมืองปทุมฯ เกือบ 60 ไร่ พร้อมทรัพย์เพื่อลงทุนและที่อยู่อาศัยทำเลทอง มูลค่ารวมกว่า 580 ลบ.
SAM" เปิดบทบาทใหม่ "SAM Social AMC" ขานรับนโยบายเร่งด่วนภาครัฐ "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้"
NCB หนุนมาตรการรัฐ โครงการ 'ปิดหนี้ไว ไปต่อได้' เสริม 'ข้อมูลเครดิต' รหัสไขประตูแก่ลูกหนี้ AMC สู่โอกาสทางการเงิน
BAM จับมือ ORN เดินหน้ากลยุทธ์ NPA Partnership เสริมแกร่งธุรกิจ หมุนเร็วแบ่งกำไร ขยายฐานลูกค้าภาคเหนือ
SAM ประกาศแต่งตั้ง "สุวรรณี เจษฎาศักดิ์" รองผู้ว่าการ ธปท. นั่งประธานบอร์ดคนใหม่