SABINA ประเมินปัจจัยท้าทายที่มีผลกระทบ เผยมีแนวโน้มในทางที่ดีและคลายความกังวลไปได้มาก ทั้งราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ อัตราเงินเฟ้อ แนวโน้มดอกเบี้ย รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่ขยับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ขณะที่ปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ดันรายได้ OEM เพิ่มขึ้น พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อควบคุมต้นทุนการนำเข้า และส่งออกให้เกิดสมดุล มั่นใจยอดขายในไตรมาสสุดท้ายเติบโตต่อเนื่องตามแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก หลังห้างสรรพสินค้าทยอยเปิดสาขาเพิ่ม กระตุ้นกำลังซื้อผ่านหน้าร้าน รับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของปริมาณนักท่องเที่ยว พร้อมปั๊มรายได้ช่องทางออนไลน์โค้งสุดท้ายปลายปีผ่านเมกะแคมเปญวันคนโสด 11.11
                                                                                                                                        นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ "ซาบีน่า" เปิดเผยว่า หลังจากติดตามปัจจัยท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในไตรมาสที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น รวมไปถึงการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จนถึงขณะนี้เชื่อว่า ปัจจัยท้าทายดังกล่าวมีแนวโน้มคลี่คลายเป็นลำดับ และไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนผลิต ต้นทุนขาย รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งปรับขึ้นน้อยกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกัน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงกลางปี 2565 จำนวนพนักงานของบริษัทฯ ลดลงกว่า 1,200 คน ทำให้ต้นทุนค่าแรงต่อเดือนลดลง 13.12% เมื่อเทียบค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-7% ทำให้ SABINA ไม่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้แต่อย่างใด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวว่า ขณะที่ปัจจัยที่จับตาดูเป็นพิเศษในขณะนี้ คือ เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวน โดยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี แตะระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำหรับ SABINA เพราะนับตั้งแต่โควิดคลี่คลายและเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว บริษัทฯ ได้รับออเดอร์ในช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) จากลูกค้าในยุโรปและสหราชอาณาจักรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รายได้จากการอ่อนค่าของเงินบาทเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน SABINA มีสินค้าที่ต้องนำเข้า ทั้งในรูปแบบของการจ้างผลิตจากโรงงานคู่ค้า รวมถึงการนำเข้าวัตถุดิบบางอย่าง ทำให้บริษัทฯ มีการปรับแผนกลยุทธ์ในการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งในแง่มุมการนำเข้าและส่งออกให้เกิดความสมดุล และเกิดผลเชิงบวกกับบริษัทฯ มากที่สุด
สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น SABINA ยังเชื่อว่า บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยจะกลับมาคึกคักตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างชัดเจนและอาจจะดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทยอยเปิดสาขาเพิ่มขึ้นในช่วงสุดท้ายของปี ซึ่งมีผลทำให้กำลังซื้อผ่านช่องทางรีเทลของ SABINA ทั้งเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงซาบีน่า ช็อป ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ขณะที่ช่องทางออนไลน์ในช่วงปลายปี ยังมีเมกะแคมเปญวันคนโสด 11.11 ซึ่งเป็นมหกรรมการช็อปปิ้งออนไลน์ครั้งใหญ่ที่สุดของปีรออยู่ ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนยอดขายได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ SABINA ทำยอดขายสูงสุดในกลุ่มสินค้าแฟชั่นทั้งในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้วในเมกะแคมเปญ 9.9
"ไตรมาสที่ 3 เรามียอดขายจากแคมเปญ 9.9 ตุนไว้แล้ว ทำให้ยอดขายปีนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วเติบโตเพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมปีที่แล้ว ยังมีเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ห้างสรรพสินค้าบางแห่งต้องปิดการให้บริการ ส่วนปีนี้มีเรื่องของฤดูฝน ที่ฝนตกยาวนานและต่อเนื่องทำให้กิจกรรมบางอย่างต้องหยุดชะงักไปบ้าง ถือเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่เราก็มีแผนสำรองด้วยการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นมาทดแทน ทำให้เรายังมั่นใจว่า เป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ 20% โดยช่องทางหลักๆ ทั้งช่องทางค้าปลีก (Retail) ช่องทางออนไลน์ (NSR) รวมถึงช่องทางรับผลิต (OEM) จะเติบโตเพิ่มขึ้นทุกช่องทาง" นางสาวดวงดาวกล่าว
                            
                            SVT ออกบูธ งาน Franchise SME Expo 2024 ชูศักยภาพ 1 ในผู้นำธุรกิจ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
                        
                            ONSENS เปิดตัว "PAK Massage" ร้านสะดวกนวด Flagship Store แห่งแรก เล็งขยาย 4 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2569
                        
                            "สิงห์ เอสเตท" จับมือ "กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล" มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแก่ลูกค้า CENFINITY และลูกบ้านสิงห์ เอสเตท
                        
                            เซ็นทรัล รีเทล จับมือ บัตรเครดิต กรุงศรี มอบเครดิตเงินคืนสุดคุ้ม ตลอดเดือน พ.ย. 68
                        
                            ปัญญ์ปุริปักธงสู่ Global Brand เปิด Flagship Store สิงคโปร์ ทุ่มงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ขยาย 50 สาขาทั่วโลก ตั้งเป้ารายได้แตะ 3,000 ล้านบาทภายในปี 2029
                        
                            เครื่องครัว MEYER (ไมย์เออร์) จับมือ ห้างเซ็นทรัล สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ดึงคาแรคเตอร์การ์ตูนดัง ระดับไอคอนิกของโลก
                        
                            SABINA ร่วมมือพันธมิตร สานต่อแคมเปญ "เย็บเต้ารวมใจ สู้ภัยมะเร็งเต้านม" ปีที่ 19
                        
                            บางกอกออนเทรนด์ ย่านสุดปัง! ดังทุกฟีด
                        
                            บัตรเครดิตแพลทินัมกสิกรไทย อัปเกรดใหม่เป็น "บัตรเครดิต KBank PLUSTINUM*" พลัสสิทธิพิเศษใหม่ ให้ลูกค้าใช้จ่ายได้ทุกวันแบบไม่ต้องรอดีลพิเศษ