"ที.ที. เซรามิค" ผู้ผลิตกระเบื้องพอร์ซเลน รายใหญ่ของไทย อีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญลดต้นทุนนำเข้า ยุคเงินบาทอ่อนค่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กระแส!! ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ โดยอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 16 ปี ทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ไปแล้วนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าฯ ที่ต้องแบกรับต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น แต่สำหรับผู้ที่กำลังมองหากระเบื้องพอร์ซเลน ในการตกแต่งบ้าน การนำเข้ากระเบื้อง หรือเลือกซื้อสินค้าจากต่างประเทศ นับว่าเป็นปัญหาที่วุ่นวายในวิกฤติเงินบาทอ่อนค่าในเวลานี้ บริษัท ที.ที. เซรามิค จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องพอร์ซเลน รายใหญ่ภายในประเทศของไทย ภายใต้แบรนด์ "เซอเกรส" ขอเสนอทางเลือกให้ผู้บริโภคเลือกใช้สินค้าคุณภาพ "กระเบื้องพอร์ซเลน" สามารถรองรับการใช้งานทั้งในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ มีกำลังการผลิตกว่า 4.2 ล้านตรม.ต่อปี การันตีคุณภาพ โดยได้รับการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการใช้ตราสัญลักษณ์ Made in Thailand (MiT) ในกลุ่มสินค้ากระเบื้องพอร์ซเลน

"ที.ที. เซรามิค" ผู้ผลิตกระเบื้องพอร์ซเลน รายใหญ่ของไทย อีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญลดต้นทุนนำเข้า ยุคเงินบาทอ่อนค่า

ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่ากระเบื้องของ UMI Group ทุกแผ่น เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีแหล่งผลิตที่ชัดเจน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้หน่วยงานของภาครัฐ-เอกชน และประชาชนในประเทศ หันมาสนับสนุนสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงยังสร้างโอกาสในการขยายการค้าไปยังประเทศที่มีความนิยมในสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยอีกด้วย หากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ "กระเบื้องพอร์ซเลน" สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line@ : @umitiles โทร 02-248-7007 หรือ www.umipro.com


ข่าวเงินบาทอ่อนค่า+ที.ที. เซรามิควันนี้

กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ ระบุ เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยหลัง กนง. ประกาศลดดอกเบี้ย คาดการณ์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2569

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปี การปรับลดครั้งนี้ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อเดือนมกราคม 2566 ในการแถลงของ กนง. ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2569 และปี 2570 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากครึ่งแรกของปี 2568 โดยการบริโภคภาคเอกชนชะลอลง และภาคส่งออกเริ่มรับรู้ถึงผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ภาคการท่อง