บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 3,920 ล้านบาท เทียบกับการขาดทุน 5,310 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวมทั้งสิ้น 32,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 582 จากไตรมาส 3 ของปี 2564 โดยเป็นรายได้การขนส่งผู้โดยสารและสินค้า 30,890 ล้านบาท อันเป็นผลจากการเพิ่มความถี่เที่ยวบินจากช่วง 6 เดือนแรกของปี ได้แก่ เส้นทางลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต เจนไน เบงกาลูรู นิวเดลี มุมไบ ละฮอร์ การาจี อิสลามาบัด ฮานอย โฮจิมินห์ พนมเปญ จาการ์ตา ธากา เดนปาซาร์ ไทเป สิงคโปร์ โคเปนเฮเกน มิวนิก และซูริค และกลับไปทำการบินในเส้นทางเดิมก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แก่ เส้นทาง ปีนัง โตเกียว (ฮาเนดะ) และบรัสเซลส์ ประกอบกับอัตราบรรทุกผู้โดยสารรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากเป็นร้อยละ 77.0 เทียบกับร้อยละ 9.9 ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ในขณะเดียวกันบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายจ่ายรวมทั้งสิ้น 28,940 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 186 จากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ผันแปรตามปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณขนส่งตามจำนวนเส้นทางบินและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นค่าใช้จ่ายน้ำมันถึงร้อยละ 44 ซึ่งเป็นผลจากการที่ราคาน้ำมันเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อนถึง 80% ทั้งนี้ ผู้สอบบัญชีได้รายงานผลการสอบทาน แบบให้ข้อสรุปแบบไม่มีเงื่อนไข เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าแผนฟื้นฟู
ในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงินจำนวน 3,672 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งมีการปรับปรุงดอกเบี้ยจ่ายตามแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 2,160 ล้านบาท และแม้จะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้และการขายทรัพย์สินในส่วนของรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว แต่บริษัทฯ ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากการตีมูลค่าทางบัญชีอันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นค่าใช้จ่ายรวม 5,212 ล้านบาท และมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิจำนวน 4,780 ล้านบาท เป็นส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 4,785 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ และบริษัทย่อยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าทั้งในส่วนของเครื่องบินและอื่นๆ เป็นกำไรจำนวน 6,181 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 3,100 ล้านบาท ทั้งนี้ EBITDA สำหรับบริษัทฯ มากกว่า 20,000 ล้านบาทในรอบ 12 เดือนคือเงื่อนไขหนึ่งในการออกจากแผนฟื้นฟู
ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 183,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 22,070 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 265,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 33,318 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและบริษัทย่อยติดลบ 82,499 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอดการขายตั๋วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วประกอบกับ EBITDA กว่าเดือนละ 2,000 ล้านบาททำให้เงินสดคงเหลือของบริษัทเพิ่มจาก 6,017 ล้านบาท ณ 31 มีนาคม 2565 เป็น 13,474 ล้านบาท ณ 30 มิถุนายน 2565 และ 23,308 ล้านบาท เมื่อสิ้นไตรมาส 3 ของปี 2565
การฟื้นตัวของการเดินทางอย่างต่อเนื่องทำให้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เที่ยวบินของบริษัทฯ มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยร้อยละ 80.4 และเมื่อรวมผู้โดยสารต่างประเทศของสายการบินไทยสมายล์ด้วยแล้ว บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผู้โดยสารต่างประเทศรวมเฉลี่ยต่อวันจำนวน 21,557 คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของจำนวนผู้โดยสารต่างประเทศทั้งหมดที่เดินทางเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิ มีส่วนแบ่งปริมาณการขนส่งสินค้าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28 ส่งผลให้รายได้รวมจากกิจกรรมการขนส่งปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับ 10,000 ล้านบาท และยังคงมีอัตราการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 ในระดับที่สูงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเพิ่มความถี่เที่ยวบินและเปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่เพิ่มเติมในเส้นทาง สตอกโฮล์ม ไทเป โตเกียว (ฮาเนดะ) ฟุกุโอกะ ซัปโปโร นิวเดลี มุมไบ ไฮเดอราบัด กัลกัตตา เจดดาห์ สิงคโปร์ เมลเบิร์น กวางโจว และคุนหมิง เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเร่งขยายขนาดฝูงบินทั้งโดยการนำเครื่องบินในฝูงบินของบริษัทฯ กลับมาให้บริการและจัดหาเครื่องบินใหม่เข้ามาประจำการด้วยวิธีเช่าดำเนินการให้เพียงพอต่อแผนเส้นทางบินและจำนวนเที่ยวบิน และเพื่อบรรลุเป้าหมายการหารายได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ
สายการบินไทยแอร์เอเชีย (เที่ยวบินรหัส FD) ยังครองแชมป์บิน "ตรงเวลาที่สุดในไทย" ด้วยสถิติความตรงต่อเวลาร้อยละ 82.52 โดยติดอันดับ 3 ในกลุ่มสายการบินเอเชียแปซิฟิก และติดอันดับ 7 ในกลุ่มสายการบินราคาประหยัดระดับโลก จากการประกาศผลสำรวจความตรงต่อเวลาตลอดปี 2566 (The On-time Performance Review 2023) โดย Cirium สถาบันวิเคราะห์ธุรกิจการบินชั้นนำของโลก นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริการ สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นช่วงการฟื้นตัวธุรกิจที่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทาย
ดีพร้อม - บางจากฯ ผนึก 5 พันธมิตรธุรกิจ ดันน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF ส่งเสริมธุรกิจการบินแห่งอนาคต สู่เป้าหมาย Net Zero
—
ดีพร้อม จับมือบางจากฯ ...
ธุรกิจการบิน SPU ร่วมมือ EVA Air เปิดอบรมพิเศษ เสริมทักษะนักศึกษาสู่เส้นทางอุตสาหกรรมด้านการบินระดับสากล
—
สาขาวิชาธุรกิจการบิน วิทยาลัยการท่องเที่ยวและกา...
พิธีประดับปีก สาขาการจัดการธุรกิจการบิน ม.หอการค้าไทย รุ่นที่ 10
—
สาขาการจัดการธุรกิจการบิน คณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จั...
เรียนรู้จากตัวจริง! ธุรกิจการบิน SPU ทัวร์คลังสินค้า "บางกอกแอร์เวย์ส" เจาะลึกโลจิสติกส์การบิน เสริมความพร้อมสู่อุตสาหกรรมในอนาคต
—
วิทยาลัยการท่องเที่ยวแ...
เสริมความแกร่ง! ธุรกิจการบิน ม.ศรีปทุม เปิดเวทีบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญ ติดปีกให้นักศึกษาสู่ตลาดอุตสาหกรรมการบิน
—
สาขาวิชาธุรกิจการบิน วิทยาลัยการท่องเ...
SPU Airlines พร้อมบิน! เปิดประตูต้อนรับพันธมิตรคณะผู้แทนจากญี่ปุ่น เยี่ยมชมห้องปฎิบัติการจำลองเครื่องบิน มุ่งสู่ความร่วมมือระดับนานาชาติ
—
มหาวิทยาลัยศรีป...
CoTH SPU อบรมเข้ม! ผู้นำเที่ยวมืออาชีพ เน้นปฐมพยาบาล-ความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว
—
วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่...
SOFT POWER! DEK ธุรกิจการบิน CoTH SPU คว้ารางวัลประกวด นางนพมาศวัดหัวกระบือ 2566
—
มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอแสดงความยินดีกับ น้องพลอย นางสาวกชกร พลชู นักศึกษา...