'สินิตย์' เยือนกัมพูชา ร่วมถกรัฐมนตรีอาเซียน 3 สาขา หนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน มุ่งผลักดันความร่วมมือ 3 สาขาไฮไลท์ ทั้งอาหาร การเกษตรและป่าไม้ พลังงาน และการขนส่ง เดินหน้าจัดทำยุทธศาสตร์ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตั้งเป้าให้สำเร็จในปีหน้า พร้อมชูโมเดล BCG ของไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เป็นหัวหน้าผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมหารือวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ระหว่างคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) และรัฐมนตรีอาเซียน 3 สาขา ได้แก่ รัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ รัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน และรัฐมนตรีด้านการขนส่งอาเซียน ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
นายสินิตย์ กล่าวว่า อาเซียนตระหนักถึงการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ซึ่งเป็นประเด็นคาบเกี่ยวหลายสาขาและต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยมี 3 สาขาที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ สาขาอาหาร การเกษตรและป่าไม้ สาขาพลังงาน และสาขาการขนส่ง จึงนำมาสู่การประชุมเพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนร่วมกันครั้งนี้ โดยผลการหารือมุ่งเน้นเตรียมการจัดทำยุทธศาสตร์อาเซียนเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน (ASEAN Strategy for Carbon Neutrality) ซึ่งจะเป็นการต่อยอดข้อริเริ่มระดับภูมิภาคที่มีอยู่ อาทิ กรอบเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และข้อริเริ่มด้านความยั่งยืนอื่นๆ ภายใต้ประชาคมอาเซียน ทั้งสามเสา โดยอาเซียนตั้งเป้าจะจัดทำยุทธศาสตร์ให้แล้วเสร็จในปี 2566
"อาเซียนจะได้รับประโยชน์จากการมียุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคด้านความยั่งยืน โดยจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ อาทิ การเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนด้านการปล่อยคาร์บอนต่ำ ส่งเสริมนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่มูลค่า และสนับสนุนให้เอกชนสามารถปรับตัวรองรับมาตรการทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต" นายสินิตย์เสริม
ทั้งนี้ อาเซียนแสดงถึงความมุ่งมั่นตามพันธกรณีภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) โดยการประชุมกรอบอนุสัญญาฯ สมัยที่ 26 (COP 26) เมื่อปี 2564 ณ สหราชอาณาจักร ซึ่งไทยได้เน้นย้ำว่า มีเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero emissions) ภายในหรือก่อนปี 2608 ตลอดจนชูโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ที่ไทยนำมาเป็นนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน สร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งรักษาและฟื้นฟูฐานทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ คู่ขนานกับการยกระดับมาตรฐานและระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
MOTHER ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ผ่านโครงการ "รวมพลังห้างท้องถิ่น ลดยิ่งใหญ่ ไทยช่วยไทย"
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยกระดับความร่วมมือ สถาบันอาหาร พัฒนา "อุตสาหกรรมอาหารไทย" ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไม่หยุดนิ่ง
"ทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด" ผลไม้ทองคำ โกยรายได้ทะลุ "หมื่นล้าน" ครองแชมป์สินค้า GI ทำเงินสูงสุดในปี 2568
SME D Bank ร่วมทัพ ก.พาณิชย์ ขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win เสริมแกร่งผู้ประกอบการรายย่อย/โชห่วย ยกระดับด้วยบริการ "พัฒนาคู่เติมทุน"
กรมทรัพย์สินทางปัญญา เสริมเกราะผู้ประกอบการไทย เดินหน้าโครงการ "Trademark Monitor" เฝ้าระวังแบรนด์ไทยถูกต่างชาติฉวยโอกาสนำไปจดเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศป้องกันความเสียหายได้ทันท่วงที
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขานรับนโยบาย รมว.พาณิชย์ เดินหน้าเร่งผลักดันการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า GI รุกเสริมแกร่ง SME ด้วยทรัพย์สินทางปัญญาอย่างยั่งยืน
สภาธุรกิจตลาดทุนไทยหารือนายกรัฐมนตรี ชูข้อเสนอ "Quick - Big Win ตลาดทุนเสริมพลังภาครัฐ"
บอร์ดดุสิตธานีแต่งตั้ง "ชนินทธ์ โทณวณิก" ควบกรุ๊ปซีอีโอ หลัง "ศุภจี สุธรรมพันธุ์"ตอบรับ "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์"