ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม ส่วนผสมระหว่างแอนติบอดีสองชนิด ได้แก่ ทิกซาเกวิแมบ (tixagevimab) และ ซิลกาวิแมบ (cilgavimab) หรือ LAAB ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาแบบมีเงื่อนไขในประเทศไทยให้นำมาใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 ในผู้ใหญ่และวัยรุ่น (ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม) ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง
การอนุมัติยา LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อนำมาใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 เป็นการอนุมัติเพิ่มเติมหลังได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาแบบมีเงื่อนไขในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับใช้เพื่อการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ทั้งในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนและไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าจะทำการจัดหาและทยอยส่งมอบยา LAAB จำนวน 257,500 ยูนิต ให้แก่ประเทศไทย ตามสัญญาการจัดซื้อซึ่งแอสตร้าเซนเนก้า และ กรมควบคุมโรค ได้ร่วมลงนามในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นับเป็นก้าวสำคัญที่ยา LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสมเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติให้นำมาใช้ทั้งสำหรับการป้องกันและการรักษาโควิด-19 ในประเทศไทย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการผ่อนคลายมาตรการการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ประชากรจำนวนมากยังคงมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19 ยา LAAB จึงกลายเป็นทางเลือกที่จำเป็น ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดโรครุนแรงและการเสียชีวิตในผู้ที่ติดเชื้อแล้วได้อีกด้วย"
จากผลลัพธ์ของการทดลองแท็คเคิล (TACKLE) การศึกษาระยะที่ 3 ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่แสดงอาการและได้รับยาภายในช่วง 3 วันแรก พบว่า ยา LAAB สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรครุนแรง หรือเสียชีวิต (จากทุกสาเหตุ) ได้ถึง 88% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (Placebo) (95% ช่วงความเชื่อมั่น [CI] 9, 98) และยังลดความเสี่ยงถึง 67% (95% ช่วงความเชื่อมั่น [CI] 31, 84) ในกลุ่มที่ได้รับยา LAAB ภายใน 5 วันหลังแสดงอาการ1
จากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด2 ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสมสามารถลบล้างฤทธิ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4 และ BA.5 (ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในประเทศไทย) และสายพันธุ์อื่นๆ ที่มี ณ ปัจจุบัน
LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติใช้ในประเทศญี่ปุ่นและในสหภาพยุโรปทั้งสำหรับการป้องกันและการรักษาโควิด-19 แบบมีอาการ และได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาในสหราชอาณาจักรเพื่อใช้สำหรับการป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า ยังได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาเพื่อนำมาใช้ในการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกา (อนุมัติการใช้ในกรณีฉุกเฉิน) และได้มีการส่งมอบไปยังประเทศอื่นๆ หลายประเทศทั่วโลก
LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า
LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า เดิมรู้จักกันในชื่อ AZD7442 มาจากบีเซลล์ที่ได้รับการบริจาคจากผู้ที่เคยป่วยจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งถูกค้นพบโดยศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิวท์ และได้อนุญาตให้แอสตร้าเซนเนก้านำมาพัฒนาต่อเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2563 โมโนโคลนอลแอนติบอดีของมนุษย์ 2 ตัวนี้จะมีความจำเพาะที่ต่างกัน เพื่อจับกับโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ SARS-CoV-2 ในคนละจุด3 และถูกพัฒนาต่อโดย แอสตร้าเซนเนก้า เพื่อขยายระยะเวลาครึ่งชีวิต(half-life) เพื่อเพิ่มความยืนยาวของแอนติบอดี และปรับให้มีการจับกันของ Fc Receptor และ Complement ชนิด C1q ที่ลดลง4 โดยการขยาย half-life นั้น สามารถเพิ่มความยืนยาวของแอนติบอดี้ได้มากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับแอนติบอดี้ทั่วไป5-7จากข้อมูลของการทดลองในระยะที่ 3 แสดงให้เห็นว่าระดับของแอนติบอดีที่สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส (neutralizing antibody) คงอยู่ได้เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน6 และการปรับให้มีการจับของ Fc Receptor ที่ลดลงนั้นสามารถลดความเสี่ยงต่อภาวะ antibody-dependent enhancement (ADE) ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่แอนติบอดี้ของเชื้อไวรัสเข้าไปกระตุ้นแทนที่จะยับยั้งการติดเชื้อ8
ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช เชิญชวนร่วมงาน "Find your Personal PINK ชมพูที่ใช่ในแบบคุณ" ร่วมค้นหาวิธีป้องกันและรักษามะเร็งเต้านม
แอสตร้าเซนเนก้า ผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญนานาชาติในงานประชุม Asia COPD & SEA Summit 2025 เผยนวัตกรรม "Triple Therapy" และ "Biologics"
กรมควบคุมโรค แอสตร้าเซนเนก้า และภาคีเครือข่ายพันธมิตรระดับประเทศเดินแผนเชิงรุก ส่งมอบ "ชุดตรวจคัดกรองไต" นำร่องจังหวัดปทุมธานี
มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ร่วมกับ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ผนึกภาคีเครือข่าย ชวนคนรุ่นใหม่ผลิตสื่อออนไลน์ สร้างภูมิคุ้มกันข่าวลวง เสริมความเชื่อมั่นในวัคซีน
มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ร่วมกับ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ผนึกภาคีเครือข่าย ชวนคนรุ่นใหม่ผลิตสื่อออนไลน์ สร้างภูมิคุ้มกันข่าวลวง เสริมความเชื่อมั่นในวัคซีน
แอสตร้าเซนเนก้า และ สมาคมอายุรศาสตร์ผู้ป่วยนอกแห่งประเทศไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจสนับสนุน "โครงการพัฒนาความรู้และการฝึกอบรมแพทย์" เสริมทักษะบุคลากรรุ่นใหม่ พร้อมรับมือความท้าทายด้านสุขภาพโรค NCDs
สมาคมแพทย์โรคหัวใจฯ ร่วมกับกระทรว สาธารณสุข และแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ
แอสตร้าเซนเนก้า เผยความสำเร็จในการใช้ AI คัดกรองมะเร็งปอดจากภาพเอกซเรย์ เสริมความมั่นคงด้านสุขภาพที่ยั่งยืน
แอสตร้าเซนเนก้า คว้ารางวัล Top Employer 2025 ฉลองความสำเร็จต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน