งานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo หรือ CIIE) ครั้งที่ 5 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน ที่นครเซี่ยงไฮ้ เตรียมให้การต้อนรับบริษัทยักษ์ใหญ่จากทั่วโลก
สำนักงานจัดงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีนและกรมศุลกากรจีน เปิดเผยว่า บริษัทกว่า 280 แห่งที่ติดอันดับ 500 องค์กรชั้นนำของโลกและบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมจะเข้าร่วมงานนี้ โดยเกือบ 90% ในจำนวนนี้กลับมาร่วมงานอีกครั้งหลังจากที่เคยร่วมงานเมื่อปีที่แล้ว
นับตั้งแต่ปี 2561 งานนี้ได้ทำหน้าที่เป็นช่องทางที่เปิดกว้างสำหรับการลงทุนและการจัดซื้อระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวเพื่อเปิดตลาดจีนสู่เวทีโลก
"การส่งเสริมการเปิดกว้างที่มีมาตรฐานสูง" ได้รับการเน้นย้ำในรายงานที่นำเสนอในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ซึ่งระบุว่า จีนควร "ขยายการเปิดกว้างอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงกฎระเบียบ ข้อบังคับ การกำกับดูแล และมาตรฐาน"
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ผู้จัดแสดงสินค้าในงาน 4 ครั้งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการใหม่มากกว่า 1,500 รายการ และมีการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นมูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านดอลลาร์
ผลิตภัณฑ์ไฮเทคจำนวนมากจะเปิดตัวในงานนี้ รวมถึง "ออปติมัส" (Optimus) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของบริษัทเทสลา (Tesla) ซึ่งใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิชันอันทรงพลังและสอดประสานกับรถยนต์ รวมถึงเครื่องพิมพ์ 3 มิติเรซินไวแสง (photosensitive resin) ของบริษัท เอวอร์นิค อิสดัสทรีส์ เอจี (Evonik Industries AG) ซึ่งเหมาะสำหรับการผลิตวัสดุที่ทนทานและทนต่อแรงกระแทก
ตลาดผู้บริโภคกำลังเฟื่องฟู
งานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีนเปิดโอกาสให้บริษัททั่วโลกเข้าถึงตลาดจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและกำลังซื้อที่มากขึ้นของผู้บริโภคชาวจีน
ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า ในปี 2564 จีดีพีต่อหัวของจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 81,000 หยวน (11,203 ดอลลาร์) และรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงต่อหัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2555
ขณะเดียวกัน ประชากรจีนจำนวนมากยังขยับขึ้นมาสู่ชนชั้นที่มีรายได้ปานกลาง โดยมีผู้มีรายได้ปานกลางมากกว่า 400 ล้านคนในปี 2565 เมื่อเทียบกับ 100 ล้านคนในทศวรรษที่แล้ว
กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกถึงศักยภาพของตลาดจีน ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่หรือบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กก็สามารถเข้าถึงได้
มูลค่าการค้าสินค้าและบริการของจีนขยายตัวจาก 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2555 แตะระดับ 6.9 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2564 ซึ่งรั้งอันดับ 1 ของโลก
ในช่วงเวลาเดียวกัน เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ไหลเข้าจีนและมีการใช้จ่ายจริงยังเพิ่มขึ้นเกือบ 63% และบริษัทมากกว่า 47,000 แห่งได้ก่อตั้งขึ้นด้วยเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (ไม่รวมธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทประกัน) เพิ่มขึ้น 23.5% จากปีก่อนหน้า
การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จีนได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจด้วยการยกระดับบริการด้านการกำกับดูแลตลาด โดยรายงานความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลกปี 2563 ระบุว่า จีนอยู่ในอันดับ 31 จากทั้งหมด 190 ประเทศและดินแดน กระโดดขึ้นจากอันดับ 78 ในปี 2561
ในปี 2562 จีนได้ออกระเบียบว่าด้วยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการฉบับแรกที่แจกแจงความสัมพันธ์ระหว่างการคุ้มครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ระเบียบดังกล่าวระบุว่า นักลงทุนและบริษัทในประเทศได้รับการคุ้มครองอยู่แล้ว ส่วนชาวต่างชาติและบริษัทต่างประเทศสามารถยื่นเรื่องจดสิทธิบัตรหรือเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้องจากสำนักงานบริหารทรัพย์สินทางปัญญาของจีนได้ หากปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
ในปี 2564 เมืองที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้ว 6 เมืองได้รับเลือกให้เป็นผู้นำในการพัฒนาศูนย์การบริโภคระหว่างประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกแนวทางใหม่ในปี 2565 เพื่อบรรเทาความตึงเครียดของธุรกิจขนาดเล็กและปกป้องสิทธิ์ตามกฎหมายของบริษัทต่าง ๆ
การเปิดกว้างที่มีมาตรฐานสูง
นับตั้งแต่กฎหมายการลงทุนของต่างชาติมีผลบังคับใช้ในปี 2563 จีนได้ใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและส่งเสริมการเปิดประเทศในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายการเข้าสู่ตลาดสำหรับการค้าภาคบริการและการลงทุน ตลอดจนการเพิ่มสัดส่วนการค้าสินค้าปลอดภาษี
ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า จนถึงขณะนี้ จีนได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี 19 ฉบับร่วมกับ 26 ประเทศและดินแดน และปริมาณการค้าระหว่างจีนกับคู่ค้าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีคิดเป็นสัดส่วนราว 35% ของการค้าต่างประเทศทั้งหมดของจีน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 จีนได้ประกาศรายการข้อจำกัดและข้อห้าม (Negative List) สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยเป็นเอกสารที่ระบุรายชื่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ถูกห้ามหรือจำกัดการลงทุนจากภาคเอกชน
เอกสารฉบับล่าสุดซึ่งเผยแพร่ในปี 2564 ได้ลดจำนวนข้อจำกัดจาก 33 เหลือ 31 มาตรการ และลดข้อจำกัดสำหรับเขตการค้าเสรีจาก 30 เหลือ 27 มาตรการ ซึ่งถือเป็นความพยายามส่วนหนึ่งของจีนที่จะอำนวยความสะดวกให้มีการเปิดกว้างในระดับที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ
"ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากตลาดและทรัพยากรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อขยายการค้าต่างประเทศและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ในการเปิดกว้างสู่โลกภายนอก" นายเฉิน เจียนอัน (Chen Jian'an) รองประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN)
ทั้งนี้ การจัดงานสำคัญอย่างงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีนแสดงให้เห็นถึงความคิดริเริ่มของจีนในการเปิดตลาดจีนสู่เวทีโลก เขากล่าวเสริม
https://news.cgtn.com/news/2022-11-03/CGTN-China-embraces-better-business-environment-with-higher-standard-opening-up-1eEWZKjTi7e/index.html
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1937615/image_5009787_51154162.jpg
Boiler World Expo เตรียมจัดงานที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2025
แม็คโคร ชวนร่วมงาน "HoReCa 2025" เวทีธุรกิจอาหารระดับประเทศ ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 30 ต.ค.-2 พ.ย. 68 ที่อิมแพค เมืองทองธานี
กวิน อินเตอร์เทรด เตรียมจัดงานแสดงสินค้าและบริการทางด้านลิขสิทธิ์ครั้งแรกในไทยและอาเซียน
CHAO โชว์ศักยภาพ Modern Thai Snack ในงาน Anuga 2025 ประเทศเยอรมนี ตอกย้ำความมุ่งมั่นยกระดับขนมขบเคี้ยวไทยดังไกลในตลาดโลก
สุดยอดเทรดโชว์โลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับโลก
"KJL" ร่วมออกบูธในงานแสดงเทคโนโลยีการผลิตระดับโลก "Manufacturing World Osaka 2025"
COCOCO อวดโฉมนวัตกรรมน้ำมะพร้าวออร์แกนิค จากไทย สู่เวทีโลก "Anuga 2025" เยอรมนี
SAPPE ยก Mogu Mogu สู่เวทีโลกในงาน Anuga 2025 เยอรมนี เปิดตัวแคมเปญ "Life's too Short, You Gotta Chew" ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ไทยระดับโลก
'Fi Asia 2025 & Vitafoods Asia 2025' สำเร็จล้นหลาม แรงกระเพื่อมยิ่งใหญ่ดันนวัตกรรม "ส่วนผสมอาหาร - เสริมอาหารไทย" โดดเด่นบนเวทีโลก