สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้การสนับสนุนนวัตกรรมเครื่องผลิตปุ๋ยหมักเพื่อการจัดการขยะอินทรีย์ และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่คิดค้นโดยคณะนักวิจัยจากศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน และศูนย์เครื่องจักรกลการเกษตรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกในการผลิตปุ๋ยหมักแบบรวดเร็ว สามารถย่อยสลายอินทรีย์วัตถุได้ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ในครัวเรือนและในภาคการเกษตรแล้ว การทำปุ๋ยหมักยังสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการปลูกพืชทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัวหรือพืชอื่นๆ ที่ปลูกในภาคการเกษตร อีกทั้งยังสามารถผลิตปุ๋ยคุณภาพดีราคาถูกนำมาจำหน่ายเป็นรายได้เสริมได้อีกด้วย ขณะนี้มีการส่งเสริมการใช้งานและขยายผลต่อยอด โดยถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรหรือกลุ่มชุมชนที่รวมตัวจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน หน่วยงาน และในสถานศึกษาต่างๆ
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. เป็นองค์กรของรัฐที่สำคัญในการขับเคลื่อนให้การสนับสนุนงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์คิดค้นหรือนวัตกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสามารถถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้สนับสนุนในภาคการผลิตต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกวันนี้ปัญหามลพิษจากขยะล้นเมืองเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำลายสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจากครัวเรือนหรือภาคการผลิต ทำให้นักวิจัยจากหลายสถาบันได้พยายามคิดค้นนวัตกรรมเพื่อช่วยในการกำจัดขยะ โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ สามารถนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ภาคการเกษตร ทำให้สามารถช่วยลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่เกษตรกรไม่ว่าจะเป็นรายครอบครัวหรือการรวมกลุ่มกันในระดับหมู่บ้านหรือชุมชน อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ สามารถใช้นวัตกรรมเครื่องผลิตปุ๋ยหมักนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการผลิตปุ๋ยหมักขึ้นมาใช้เองจากขยะอินทรีย์ หรือวัสดุอินทรีย์ที่ย่อยสลายง่ายประเภทต่างๆ ซึ่งนวัตกรรมเครื่องผลิตปุ๋ยหมัก เป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมกว่า 50 ผลงานที่นำมาแสดงในโอกาสวันสถาปนาครบรอบ 63 ปี ของ วช. ระหว่างวันที่ 25 - 28 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ภายใต้สโลแกน "63 ปี วช. มุ่งสู่สังคมอุดมปัญญา พัฒนาไทยด้วยวิจัยและนวัตกรรม"
ดร.ลักขณา เบ็ญจวรรณ์ นักวิจัยจากศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เปิดเผยว่า ได้ทำการศึกษาร่วมกับศูนย์เครื่องจักรกลการเกษตรแห่งชาติ ในการผลิตโมเดลต้นแบบเครื่องผลิตปุ๋ยหมักจากขยะอินทรีย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรในการผลิตปุ๋ยหมักขึ้นใช้เอง โดยใช้ขยะอินทรีย์ประเภทต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นในครัวเรือน และภาคการเกษตร เช่น ใบไม้แห้ง เศษอาหาร เศษผัก เปลือกผลไม้ รวมถึงมูลสัตว์ โดยเครื่องผลิตปุ๋ยหมักนี้มีกลไกการกวนผสมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการย่อยสลายอินทรียวัตถุโดยจุลินทรีย์กลุ่มที่ใช้อากาศ ซึ่งผู้ใช้งานมีหน้าที่เปิดเครื่องกวนผสมทุกวันๆละ 1-2 นาที และทำการตรวจสอบความชื้นของอินทรียวัตถุที่อยู่ภายในถังหมักให้มีความเหมาะสมอยู่เสมอ( หากพบว่าแฉะเกินไปให้เติมใบไม้แห้ง ถ้าหากแห้งเกินไปให้เติมน้ำ ) เมื่อครบระยะเวลา 7 วัน หรืออินทรียวัตถุภายในถังหมักเปลี่ยนสภาพเป็นสีดำและมีกลิ่นคล้ายดิน ให้นำออกจากเครื่องมาใส่เข่งตั้งทิ้งไว้ เมื่อจับดูปุ๋ยหมักไม่มีความร้อนจึงนำไปใช้งานได้
สำหรับจุดเด่นของเครื่องผลิตปุ๋ยหมักนี้คือ สามารถลดระยะเวลาในการผลิตปุ๋ยหมักซึ่งแต่เดิมต้องใช้ระยะเวลา 1-3 เดือนให้เหลือระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการใหม่ที่สะดวกและรวดเร็ว มีต้นทุนต่ำ จ่ายค่าไฟแค่หลักสิบต่อเดือน ขณะนี้ได้มีการเผยแพร่องค์ความรู้เครื่องผลิตปุ๋ยหมักและมีการนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งในสถานศึกษา โรงเรียนหมู่บ้าน และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 200 แห่ง ใน 45 จังหวัด ทั่วประเทศ อาทิ กลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวชุมชนในตำบลยายชา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ภายใต้โครงการ การนำนวัตกรรมไปจัดการกับวัชพืชและผักตบชวา เพื่อสร้างรายใด้ให้ชุมชน ทำให้เกิดกิจกรรมการทำปุ๋ยหมักด้วยเครื่องผลิตปุ๋ยหมักที่ทาง วช. มอบให้ ปัจจุบันกลุ่มนี้มีการผลิตปุ๋ยหมักและดินผสมพร้อมปลูก เพื่อจำหน่ายในชุมชนสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีข้อดีคือ นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์และช่วยลดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมให้แก่ชุมชนแล้วยังสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน สำหรับผู้ที่สนใจไม่ว่าในนามองค์กร หรือตัวบุคคล สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.ลักขณา เบ็ญจวรรณ์ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตรกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โทร 094-463-5614 E-mail:[email protected]
วช. จุฬา ม.เกษตร และกรมอุตุนิยมวิทยา ร่วมแถลงข่าวแนวโน้มสถานการณ์อากาศและน้ำท่วมในภาคกลาง จากชุดข้อมูล เทคโนโลยี จากงานวิจัยและนวัตกรรม เตรียมรับมือและเฝ้าระวังภัยภัยจากพายุ
เจียไต๋มอบทุน "กองทุนเจียไต๋ - ดร. มนู - ดร. มนัส เจียรวนนท์" แก่นิสิต ม.เกษตร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14
สวทช.-ม.เกษตรฯ จัดงาน "NSTDA-KU Rice Field Day 2025" ปีที่ 2 โชว์ศักยภาพพันธุ์ข้าวนวัตกรรม ผลผลิตสูง 2 ตันต่อไร่ พร้อมรับมือวิกฤติภูมิอากาศ ตอบโจทย์เกษตรยั่งยืน
นักวิชาการชี้ 'ศักยภาพ' ไทยพร้อมลุยเศรษฐกิจหมุนเวียนพลาสติก แต่ติดหล่ม 'ระบบ-พฤติกรรม'...ชู'EPR- PPP Plastics' กลไกขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย
บางจากฯ หนุนทางรอดทะเลไทยในภาวะโลกร้อน ส่งมอบห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหญ้าทะเลแห่งแรกของโลก แก่คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
บางจากฯ เปิด "ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน" โดยภาคเอกชนและพันธมิตร แห่งแรกของประเทศไทย ที่หมู่เกาะหมาก
สวทช. ชู ศูนย์ชีววัสดุประเทศไทย (TBRC) ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (NBT) กลไกขับเคลื่อนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ใช้ประโยชน์ พื้นที่ "ผาแดง" ในงาน IBD2025
STI ยืนยันความเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คว้างานควบคุมการก่อสร้าง "อาคารเรียนและปฏิบัติการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" มูลค่างานก่อสร้างกว่า 440 ล้านบาท
มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ร่วมกับ ม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา จัด "Ultimate Marketing Plan Contest 2025" สร้างนักการตลาดรุ่นใหม่