ผลสำรวจอโกด้าเผย สิงคโปร์ติด 1 ใน 10 อันดับแรกของจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก

1. เนื่องจากเป็นศูนย์รวมประชากรที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม สิงคโปร์จึงมีอาหารหลากหลายและดีที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยมีให้บริการตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะกับงบประมาณของนักท่องเที่ยวทุกคน สิงคโปร์มีทั้งอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่างลักซาและปูพริกที่จำหน่ายในศูนย์อาหารอย่าง Newton Food Center หรือ Lau Pa Sat ไปจนถึงอาหารอินเดีย จีน มาเลเซีย ตะวันออกกลาง และอื่น ๆ อีกมากมาย
2. สถาปัตยกรรมสุดเก๋ สิงคโปร์เป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ที่สุดในภูมิภาค นับแต่สถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างในย่านธุรกิจที่พลุกพล่าน ไปจนถึงสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่เกิดขึ้นในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งผสมผสานประวัติศาสตร์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอันสวยงามมีชีวิตชีวาจากพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ตึกแถวที่อนุรักษ์ไว้ในย่านไชน่าทาวน์หรือ Joo Chiat ซึ่งเป็นย่านที่มีสไตล์อาร์ตเดโคของ Tiong Bahru หรือความโอ่อ่าอลังการแบบโคโลเนียลของบ้านสีขาวดำในสิงคโปร์ที่กระจายอยู่ทั่วเกาะ รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งและรับประทานอาหารอย่าง Dempsey Hill สถานที่เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงสิงคโปร์ที่โอบกอดอดีตและอ้าแขนรับอนาคตไปพร้อม ๆ กัน
3. ย่านที่คึกคักมีชีวิตชีวา สิงคโปร์รุ่มรวยไปด้วยย่านที่คึกคักมีชีวิตชีวาและแหล่งวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นย่าน ลิตเติ้ลอินเดีย ไชน่าทาวน์ และ ถนนอาหรับ อันเป็นที่ชื่นชอบของผู้มาเยือน การท่องเที่ยวในย่านสุดแจ่มเหล่านี้จะพาเราไปพบกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากมาย

• ลิตเติ้ลอินเดีย: ย่านที่คึกคักมีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ และเป็นย่านของชาวอินเดียซึ่งเต็มไปด้วยร้านขายเครื่องเทศ ร้านขายดอกไม้อันโด่งดัง วัดเก่าแก่ และร้านอาหารมากมายที่ชวนให้ท้องร้อง
• ไชน่าทาวน์: ย่านวัฒนธรรมแห่งนี้ผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไชน่าทาวน์มีกิจกรรมให้ทำได้ตลอดตั้งแต่พลบค่ำจนถึงรุ่งเช้า นับแต่การเที่ยวชมแลนด์มาร์กดั้งเดิม สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไปจนถึงการลิ้มรสอาหารในศูนย์อาหารไปจนถึงร้านอาหารมิชลินสตาร์และบาร์ทันสมัยมากมาย
• ถนนอาหรับ: ถนนนอาหรับเป็นย่านฮิปสเตอร์ของสิงคโปร์ที่นำประเพณีเก่าแก่และวิถีชีวิตร่วมสมัยมาผสมผสานกันอย่างลงตัว สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนนครเมกกะที่เป็นศูนย์รวมของอาหารตะวันออกกลาง โดยมีอาหารมากมายให้บริการ เช่น อาหารโมร็อกโก อาหารเลบานอน อาหารเปอร์เซีย และอาหารตุรกี

4. ประวัติศาสตร์อันภาคภูมิ แม้จะมีอายุเพียง 57 ปี แต่ประวัติศาสตร์อันยาวนานของสิงคโปร์ก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศนำเสนอเรื่องราวของผู้คนและวัฒนธรรมอันเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งนี้ สถานที่ทางวัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์เปอรานากัน พิพิธภัณฑ์อารยธรรมเอเชีย และ วัดพระเขี้ยวแก้ว ตลอดจนพิพิธภัณฑ์สงครามและอนุสรณ์สถานที่โรงงานฟอร์ดหรือ Battle box ที่ Fort Canning ทั้งหมดล้วนให้บรรยากาศในอดีต นอกจากนี้ยังมีสถานที่สุดแปลกอย่าง Haw Par Villa ที่นำเสนอการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และความเชื่อทางศาสนาของชาวจีนที่ปรากฎบนรูปปั้น 1,000 รูปและภาพสามมิติขนาดยักษ์ 150 ภาพ
5. ศิลปะ สำหรับผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ รักงานศิลปะ และการแสดงออก สิงคโปร์มีห้องแสดงงานศิลปะที่มีชีวิตชีวาซึ่งมีการนำเสนอผลงานจากศิลปินทั้งในและต่างประเทศตลอดทั้งปี โดยมีศูนย์กลางศิลปะและพื้นที่ทางวัฒนธรรมแห่งชาติ เช่น หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์ และ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ ไปจนถึงบูติก แกลเลอรี เช่น Degiosart Gallery และ Art Blue Studio
6. กิจกรรมผจญภัยกลางแจ้ง วันหยุดสุดสัปดาห์จะไม่มีทางน่าเบื่อ เพราะไลอ้อนซิตี้แห่งนี้เฟื่องฟูไปด้วยกิจกรรมสันทนาการ สำหรับการผจญภัยกลางแจ้งนั้น อีสต์โคสท์พาร์ค มีกิจกรรมมากมาย จากชายหาดที่ทอดยาว 15 กิโลเมตร นักปั่นจักรยานตัวยงสามารถเพลิดเพลินกับการปั่นจักรยานรับลมได้อย่างสดชื่น หรือจะเล่นโรลเลอร์เบลดในสวนสาธารณะก็ได้เช่นกัน กิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ เคเบิลสกี กีฬาทางน้ำ เล่นสเก็ตที่ Xtreme SkatePark สเก็ตพาร์คระดับโลก ปิกนิกที่ชายหาด หรือผ่อนคลายที่ร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย
7. หมู่เกาะที่งดงาม แน่นอนว่านอกจากเกาะเซ็นโตซ่าที่ได้รับความนิยมตลอดกาลแล้ว คนสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชม เกาะลาซารัส ซึ่งเป็นทะเลสาบรูปตัวซีที่มีหาดทรายขาวสะอาดและน้ำสีฟ้าใสราวคริสตัล ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งใกล้และไกลให้มาเพลิดเพลินไปกับชายหาดพร้อมกับเที่ยวชมบริเวณใกล้เคียงอย่าง เกาะเซนต์จอห์น ซึ่งถ้าโชคดีก็อาจได้เห็นโลมาว่าน้ำเล่นกับคลื่นอีกด้วย
8. สวนต่าง ๆ ในสิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งสวนเพราะมีถนนกว้างขวางที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้ตั้งแต่ถนนที่ออกจากสนามบิน สิ่งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ในการเป็นเมืองสีเขียว นักท่องเที่ยวสามารถหลบหลีกความวุ่นวายในตัวเมืองไปแวะเยี่ยมชม การ์เดนส์บายเดอะเบย์ ซึ่งมีพันธุ์ไม้นานาชนิดที่หายากในสิงคโปร์ ผู้เยี่ยมชมจะได้รับทั้งความรู้และตื่นตาไปกับความงดงามของสวนแห่งนี้ สุดท้าย อย่าลืมแวะไปที่จุดชมวิว Supertree Observatory เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครจากมุมสูง
9. การเดินป่า สิงคโปร์ยังมีอุทยานแห่งชาติและเขตสงวนที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้สิงคโปร์ในฐานะเมืองแห่งสวน เราสามารถไปสูดอากาศบริสุทธิ์และดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วยการเดินป่าที่ เซ้าท์เทิร์น ริจส์ เส้นทางเดินป่า 10 กิโลเมตรแห่งนี้ เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่ยาวที่สุดในสิงคโปร์ที่เชื่อมต่อ สวนเมาท์เฟเบอร์ พาร์ค, สวนทีล็อก บลังกาห์ ฮิลล์ พาร์ค, สะพานเฮนเดอร์สัน เวฟ, สวนสาธารณะฮอร์ทพาร์ค, สวนเคนท์ ริจส์ และ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติลาบราดอร์ ซึ่งได้รับความนิยมมาโดยตลอด
10. สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง การมาเยือนสิงคโปร์จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ช้อปปิ้งคลายเครียด อย่าลืมแวะชมร้านค้าของดีไซเนอร์ในมารีน่าเบย์แซนด์และถนนออร์ชาร์ด รวมถึงร้านบูติกต่าง ๆ ที่เรียงรายอยู่ตามถนนใน Joo Chiat หรือไชน่าทาวน์ หรือไปตลาดสุดคึกคักที่บูกิสหรือลิตเติ้ลอินเดีย ซึ่งขายทุกอย่างตั้งแต่สินค้าเทคโนโลยีไปจนถึงชา เสื้อผ้า เซรามิก ดอกไม้ และของขวัญสำหรับนักท่องเที่ยว

จัดทริปเที่ยวสิงคโปร์พร้อมจองที่พักในราคาสุดคุ้มได้เลยที่ www.agoda.com/singaporeimagine2 ใช้โค้ดส่วนลด VISITSG8 เพื่ออัปเกรดการเข้าพักให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น โดยใช้กับการจองได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2566

อโกด้ายังร่วมมือกับ Mount Faber Leisure Group กระเช้าลอยฟ้าแห่งเดียวในสิงคโปร์ที่เชื่อมเกาะหลักของสิงคโปร์กับเซ็นโตซ่า ชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเซ็นโตซ่าสามารถเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ส่วนลด 30% สำหรับตั๋วโดยสารกระเช้าลอยฟ้า (ไป-กลับ) พร้อมอัปเกรดตั๋วเป็นขึ้นได้แบบไม่จำกัดฟรี (Unlimited Rides) และส่วนลดสำหรับบริการเพิ่มเติมต่าง ๆ ของโรงแรม ระยะเวลาการจองของแคมเปญโปรโมชั่นนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ถึง 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 และเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ถึง 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

• ข่าวสถานที่ท่องเที่ยว
• ข่าวท่องเที่ยว
• ข่าวสิงคโปร์
• ข่าวช้อปปิ้ง
• ข่าวสกายไลน์