สำหรับเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการและพฤติกรรม เด็กออทิสติก เด็กสมาธิสั้น ในช่วงวัย 3 - 6 ขวบ ซึ่งมักทำให้ผู้ปกครองกังวลว่าการเข้าเรียนร่วมกับเพื่อน ๆ จะถูกรังแก หรือถูกครูดุ อีกทั้งอาจแยกตัวไม่เข้ากิจกรรม จนทำให้การเรียนในโรงเรียนอนุบาลปกติไม่ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้เพิ่มเติม หากผู้ปกครองสงสัยหรือกังวลใจว่าเจ้าตัวเล็กจะมีปัญหาพฤติกรรมหรือพัฒนาการที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าเรียน ควรพาไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจเช็กอย่างละเอียด
พญ.มัณฑนา ชลานันต์ กุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรม ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันเจ้าตัวเล็กมีปัญหาด้านพัฒนาการและพฤติกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่มีภาวะซน สมาธิสั้นและกลุ่มอาการออทิสติก รวมถึงพัฒนาการล่าช้าในด้านต่าง ๆ จากข้อมูลในประเทศไทยระบุว่า พบกลุ่มอาการออทิสติกที่อายุไม่เกิน 5 ปีในสัดส่วน 1 คนต่อเด็ก 161 คน เด็กที่มีปัญหาด้านพัฒนาการควรได้รับการกระตุ้นให้มีพัฒนาการสมวัยภายใน 5 ขวบปีแรก เพราะเป็นช่วงที่สมองมีอัตราการเติบโตมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นการเตรียมทักษะที่จำเป็นขั้นต้นเพื่อเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษา ซึ่งจัดเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานและมีการเรียนรู้ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
วิธีการรักษาเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการในวัย 5 ขวบปีแรก ทำได้โดยการฝึกกระตุ้นพัฒนาการและปรับพฤติกรรมโดยผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน เช่น เด็กกลุ่มอาการออทิสติกจะได้รับการทำจิตวิทยาสังคมบำบัด (Psychosocial Therapy) เพื่อปรับอาการที่เป็นสาเหตุหลัก โดยจากการศึกษาในต่างประเทศพบว่า การฝึกกระตุ้นพัฒนาการและปรับพฤติกรรมควรทำอย่างเข้มข้นและสม่ำเสมอเป็นระยะเวลายาวนานจึงจะสามารถพัฒนาทักษะแต่ละด้านของเด็กได้ นอกจากนี้ยังพบประโยชน์ของการเล่นกลางแจ้งในเด็กกลุ่มอาการออทิสติก โดยพบว่าช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงอาทิตย์ ช่วยเพิ่มกระบวนการความคิดและพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม อีกทั้งเพิ่มทักษะการรับรู้ของร่างกายและเพิ่มสมาธิ ทำให้เด็กกลุ่มอาการออทิสติกรับรู้ได้ว่าตนมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
โปรแกรม Hospital Kindergarten Group โปรแกรมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กที่ต้องการการช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มนี้มีเป้าหมายให้เด็กปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และพัฒนาทักษะการช่วยเหลือตนเอง ตลอดจนทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ทั้งนี้เพื่อคืนเด็กกลับสู่ภาวะปกติตามธรรมชาติได้มากที่สุด และสามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนปกติได้ในที่สุด โดยคลินิกพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกรุงเทพ มีความพร้อมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการและพฤติกรรมด้านต่าง ๆ ภาวะสมาธิสั้น กลุ่มอาการออทิสติก เพื่อกระตุ้นพัฒนาการ ทักษะการช่วยเหลือตัวเอง ทักษะทางสังคม การจัดการกับปัญหาอารมณ์ ทั้งยังช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจตัวตนของเด็กและวิธีการดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ลดความเครียดของผู้ปกครองในการดูแลเด็กพิเศษที่บ้าน และสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครองในการส่งต่อเด็กเข้าสู่การเรียนร่วมในโรงเรียน โดยการจัดการเรียนรู้เป็นกลุ่ม ดูแลเด็กในวัย 3 - 6 ขวบที่มีปัญหาพัฒนาการและพฤติกรรม ออทิสติก สมาธิสั้น กลุ่มละ 5 คน ต่อคุณครู 2 คน ในกรณีที่มีข้อจำกัดในด้านอารมณ์ กุมารแพทย์และทีมจะพิจารณาให้การดูแลเป็นพิเศษแบบตัวต่อตัว ซึ่งลักษณะกิจกรรมประกอบไปด้วย
Outdoor Activity กิจกรรมนอกห้องเรียนที่เปิดกว้างความคิดของเด็ก ๆ เพื่อให้สัมผัสถึงความสุขในการใช้ชีวิตและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
Individual Training กิจกรรมฝึกทักษะการสื่อสาร การเล่น และกิจกรรมบำบัดแบบตัวต่อตัว จำนวน 4 ครั้ง / คอร์ส เพื่อเพิ่มทักษะที่จำเป็นให้กับเด็กแต่ละคน โดยผู้ชำนาญการเฉพาะทางในแต่ละด้าน
Special Skill Training กิจกรรมศิลปะ ดนตรี ทำอาหาร และฝึกการผ่อนคลาย (Art / Music / Cooking / Relaxation Therapy) ช่วยให้เด็กค้นพบวิธีผ่อนคลายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการอารมณ์ที่หลากหลายของตนเอง
ADL (Activity of Daily Living) Training กิจกรรมกลุ่มที่จะช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ อยากช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น โดยมีครูผู้ชำนาญการ คอยให้การสนับสนุนเพื่อช่วยให้เด็กแต่งตัว เข้าห้องน้ำ บอกความต้องการ และกินข้าวได้ด้วยตนเอง
Social Skill Training กิจกรรม Morning Talk ตอนเช้าและกิจกรรมกลุ่มตลอดทั้งวันกับผู้ชำนาญการปรับพฤติกรรม ช่วยให้เด็ก ๆ ซึมซับทักษะการรอคอย การแบ่งปัน การเคารพกติกา การเห็นอกเห็นใจกัน การสื่อสาร และการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีส่วนร่วมในสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
Pre - Academic Skill Training กิจกรรม Early Childhood Education ที่เลือกให้เหมาะกับเด็กแต่ละคน ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาทักษะการอ่านและการคำนวณเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาชั้นปฐมวัย
เมื่อจบโปรแกรมการรักษาเจ้าตัวเล็กจะต้องพบแพทย์เพื่อเข้ารับการประเมินพัฒนาการและวางแผนการรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสามารถควบคุมตนเองและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถดึงศักยภาพที่เจ้าตัวเล็กมีออกมาต่อยอดเพื่อให้เด็กเติบโตอย่างสมบูรณ์ในอนาคตสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร. 02 -755-1212 หรือ แอดไลน์ @bangkokhospital
นายอาชวิน จันจำรัส ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบางใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 และตัวแทนนักเรียนรับมอบอุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรี และวัสดุอุปกรณ์ปรับปรุงพัฒนาศักยภาพนักเรียนและโรงเรียนจากบริษัทจีไอซี ไพรเวท จำกัด ประเทศสิงคโปร์ นำโดยนางสาวหว่อง ไอ เชียท กรรมการผู้จัดการ และ มร.เกลนนอน เจีย ฉีฉวน รองประธานด้านการบริหารจัดการธุรกิจองค์กรและความมั่นคงในสถานที่ทำงาน ภายใต้การประสานงานของมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) โอกาสนี้ ตัวแทนนัก
ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมเยาวชนด้านการศึกษาและกีฬา
—
ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพทางการศึกษาและสุขภาวะของเยาวชนไทย ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินโครงการ "ส่ง...
KFC จับมือ ชินจัง ร่วมแบ่งปันรอยยิ้ม แจกของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ พร้อมแปลงโฉมหน้าร้าน ชวนแฟนคลับชินจังเช็คอินถ่ายรูปสุดเก๋!
—
- KFC (เคเอฟซี) ร่วมสร้างความสุข...
Prangthip Kindergarten where your kids can PLEARN (Play + Learn)
—
โรงเรียนอนุบาลปรางทิพย์ หลักสูตร Extra English Program มุ่งเน้นพัฒนาเด็กด้วยกิจกรรมที่ห...
ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ปันรัก ปันเครื่องเขียน ให้กับน้องๆ มูลนิธิเด็ก โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็กสานรัก
—
บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด นำโดย นิตย...
Funding Societies จัดกิจกรรมโครงการ CSR ส่งมอบความสุขและสร้างรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ ที่ โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็ก สานรัก
—
Funding Societies แพลตฟอร์มการเงิน...
บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมีฯ จัดโครงการสวนสวยกินได้ปีที่ 8 เดินหน้าส่งเสริมความรู้ด้านการเกษตร และการใช้ปุ๋ยเคมีที่ถูกต้องให้กับเยาวชนไทย
—
นายทาเคชิ โยโคโมริ (ที...
ปลุกพลังพ่อแม่ เสริมสร้างพัฒนาการรอบด้านให้ลูกน้อย เติบโตสมวัย ด้วยโครงการ My Parents, My Heroes
—
การเตรียมความพร้อมตั้งแต่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์ เพื่อให้คุณ...
เตรียมความพร้อมสู่วัยเรียน เสริมทักษะการเล่นเพื่อพัฒนาการที่ดีให้ลูกน้อย
—
เลือกโรงเรียนให้ลูกอย่างไรดี? ปัญหานี้คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเกิดความกังวลใจ เพรา...