นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ อาทิเช่น การเปิดประเทศของจีน ที่เป็นตัวช่วยเร่งภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการมีแนวโน้มฟื้นตัว หรือเรื่องของเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดและมีแนวโน้มลดลง รวมถึงการเลือกตั้งในประเทศที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้ จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ลงทุนหุ้นไทยต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน
บริษัทจึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย ทริกเกอร์ ฟันด์ 8 (KT-TRIG8) เสนอขายเพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 27 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2566 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยตั้งเป้าหมายทริกเกอร์ 5% ภายในระยะเวลา 6 เดือน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นไทยที่มีศักยภาพเติบโตสูง
สำหรับ KT-TRIG8 มีนโยบายการลงทุนโดยกระจายเงินลงทุนของกองทุนในตลาดหุ้นไทย ตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด หรือให้ความเห็นชอบให้ลงทุนได้ โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ อีกทั้งกองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ทั้งนี้ กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุน โดยพิจารณาจากระดับราคาหุ้นที่จะเข้าลงทุนเพื่อมุ่งหวังให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด (ดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: SET TRI) โดยเน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีราคาตามมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม
ในเบื้องต้นกองทุน KT-TRIG8 จะเน้นในลงทุนธีมหุ้นที่มีโอกาสเติบโต และได้รับประโยชน์จากหลายๆ ด้าน ได้แก่ การบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง (Domestic Consumption), การเปิดประเทศ (Re-Opening), เงินเฟ้อที่ชะลอตัว และต้นทุนการผลิตที่เริ่มลดลง (Commodity-Related), นโยบายภาครัฐและการเลือกตั้งในประเทศ (Government Measures), หุ้นที่ให้ผลตอบแทนในช่วงฤดูร้อน (Summer - time Winner) และหุ้นที่ผลกำไรลดลงผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และราคาปรับต่ำเป็น Laggard (Laggard+Bottom out)
สำหรับเงื่อนไขการทริกเกอร์แบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีที่ 1) หาก ณ วันทำการใดก็ตามเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.5555 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสด หรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ณ วันทำการใด หรือกรณีที่ 2) หาก ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดบางส่วน หรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนได้ไม่ต่ำกว่าอัตราที่บริษัทจัดการกำหนด ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งตาม (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี บริษัทจัดการจะพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 105.00 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท)
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน 6 เดือนนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำการขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตามที่บริษัทจัดการกำหนด และหาก ณ วันใดก็ตามที่กองทุนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดการกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการเลิกกองทุนตามเหตุการณ์ดังกล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน KT-TRIG8 ที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร และความเสี่ยงจากการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง
คำเตือน มูลค่าหน่วยลงทุนเป้าหมาย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินในอนาคต / ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงเวลา 6 เดือนได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
เสนอขายครั้งแรก 2-8 พฤษภาคม 2568 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM พร้อมเสนอขายกองทุน Thai ESGX ใหม่ จำนวน 3 กองทุน ซึ่งต่างก็มีสไตล์การลงทุนแตกต่างกัน โดยเริ่มจากกองทุนแรก "BMDIV-TESGX" เป็นแบบ Low Fee Low Beta มีปันผล ลงทุนหุ้นยั่งยืนไม่เกิน 70% ที่สำคัญ หุ้นที่เลือกมีสภาพคล่องและจ่ายเงินปันผล หรือมีความเคลื่อนไหวของราคาตาม SET Index ในระดับต่ำ และเก็บค่าธรรมเนียมต่ำสุดใน 3 กองทุน ส่วนกองทุนที่สอง "BM70-TESGX" เป็นแบบลงทุนหุ้นบริษัทเติบโต สถานะการเงินดี ไม่เกิน 70%
บลจ.อีสท์สปริง ตั้งThai ESGX กองผสม-กองหุ้นไทยปันผลดี ด้าน ESG เสริมพอร์ต พร้อมรับสิทธิประโยชน์ภาษี IPO 2-8 พ.ค. 68 นี้
—
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน Tha...
"อเบอร์ดีน" เปิดตัวกองทุน ThaiESGX ชูปรับพอร์ตลงทุนเหมาะทุกสภาวะตลาด
—
บลจ.อเบอร์ดีน เปิดตัว "ABALL-TESGX" กองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ ลงทุนแบบผสมในหุ้นและต...
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุน TThai70ESGX และ TThaiESGX ช่วยลูกค้าบริหารภาษี - ลดหย่อนสูงสุด 800,000 บาท
—
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้น 70 ไทยเพื่อความยั่ง...
KTAM ร่วมส่งเสริมการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปล่อย 3 กองทุน "Thai ESGX" IPO 2 - 8 พ.ค.นี้
—
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จั...
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX เปิดทางเลือกลงทุนแบบ Extra
—
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX...
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เปิดตัวกองทุน KKP BL THAI ESGX รับโอกาสสร้างผลตอบแทนจากหุ้นและตราสารหนี้ไทยกลุ่มยั่งยืน เปิดเสนอขายครั้งแรก 2 - 8 พฤษภาคม นี้
—
บริษัทหลักท...
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "ES-GQG-UH" ลงทุนหุ้นคุณภาพดีทั่วโลก IPO 24-30 เม.ย. 68 นี้
—
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "อีสท์สปริง Global Quality...
บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดตัว 2 กองทุนใหม่ Thai ESGX รับโอกาสจากหุ้นไทยปันผลสูง ลงทุนยั่งยืนพร้อมคืนภาษี
—
บลจ.กสิกรไทย ปักหมุดต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เตรียมเปิดเ...
บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กส...