ฟิตฮับ (Fit Hub) บริษัทสตาร์ทอัพด้านฟิตเนสสัญชาติอินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จในการระดมทุนยอดรวมสูงถึง 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยเปิดทางให้ชาวอินโดนีเซียทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีได้ โดยบริษัทระดมทุนในรอบซีดฟันดิง (Seed Funding) ได้รวม 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2565 จากนักลงทุนซึ่งประกอบด้วยบริษัท โกลบอล ฟาวน์เดอร์ส แคปิตอล (Global Founders Capital), ไทรฮิลล์ แคปิตอล (Trihill Capital) และกู๊ดวอเตอร์ แคปิตอล (Goodwater Capital) หลังจากนั้นในเดือนธันวาคม 2565 ก็สามารถระดมทุนในรอบซีดเอ็กซ์เทนชัน (Seed Extension) ได้อีก 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนซึ่งนำโดยเวฟเมกเกอร์ พาร์ทเนอร์ส (Wavemaker Partners) ร่วมด้วยไทรฮิลล์ แคปิตอล, อีสต์ เวนเจอร์ส (East Ventures), เจนทรี (Gentree) และเบซ แคปิตอล (BAce Capital)
เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะช่วยขยายธุรกิจของฟิตฮับทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านการนำเสนอคอนเทนต์การออกกำลังกายฟรี ตลอดจนธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้านอาหารเพื่อสุขภาพ ชุดและอุปกรณ์ออกกำลังกาย รวมถึงอาหารเสริมต่าง ๆ ทั้งนี้ ฟิตฮับตั้งเป้าที่จะแก้ปัญหาความท้าทายในอินโดนีเซีย อาทิ ค่าสมัครสมาชิกฟิตเนสที่ค่อนข้างสูง และการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพได้อย่างจำกัด ด้วยการเปิดฟิตเนสเพื่อสุขภาพ 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยทางบริษัทกำลังเดินหน้าเฟ้นหาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อมาร่วมทีมงานที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
คุณบี. พอล ซานโตส (B. Paul Santos) หุ้นส่วนผู้จัดการของเวฟเมกเกอร์ พาร์ทเนอร์ส ได้แสดงความเชื่อมั่นที่มีต่อภารกิจของฟิตฮับ โดยกล่าวว่า "ฟิตฮับตั้งเป้าที่จะรับมือกับอัตราโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้นในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ด้วยการช่วยให้ทุกคนเข้าถึงฟิตเนสได้อย่างเท่าเทียมกัน ขณะที่ตำแหน่งในตลาดของฟิตฮับก็มีความโดดเด่นมาก โดยเป็นธุรกิจที่เข้าถึงลูกค้าในท้องถิ่นด้วยการนำเสนอบริการที่มีคุณภาพสูงในราคาย่อมเยากว่าที่อื่นถึง 50% เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาของฟิตฮับ ในขณะที่ทางบริษัทเตรียมรุกเข้าสู่ตลาดระดับภูมิภาคในปีต่อ ๆ ไป"
ฟิตฮับได้พลิกโฉมประสบการณ์ฟิตเนสสู่โลกดิจิทัล และพัฒนาฟิตเนสที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าชนชั้นกลางซึ่งกำลังมองหาบริการด้านสุขภาพที่พรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์คุณภาพดี สิ่งอำนวยความสะดวกที่เข้าถึงได้ง่าย และบรรยากาศการบริการที่เป็นมิตร ในโอกาสนี้ คุณวี. เอียน สุไลมาน (V. Ian Sulaiman) รองประธานฝ่ายการลงทุนของไทรฮิลล์ แคปิตอล ได้เปิดเผยมุมมองที่มีต่อแนวทางของฟิตฮับว่า "ผู้ที่รักการออกกำลังกายต่างชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้สามารถจดจ่ออยู่กับการออกกำลังกาย และสามารถเข้าออกสถานที่ได้ทันทีที่ต้องการ ดังนั้น ความไม่สะดวกสบายต่าง ๆ เช่น การต้องเดินลัดเลาะผ่านห้างสรรพสินค้าก่อนที่จะเข้าไปถึงตัวฟิตเนส จะทำให้ความอยากออกกำลังกายลดน้อยลงไป เพราะต้องวนหาที่จอดรถและเดินเท้าต่ออีก นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ฟิตเนสของฟิตฮับตั้งอยู่ในอาคารเดี่ยวที่เป็นเอกเทศ"
สัมผัสประสบการณ์การดูแลสุขภาพกับฟิตฮับด้วยการดาวน์โหลดแอปฟิตฮับ อินโดนีเซีย (FIT HUB Indonesia) หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.fithub.id เพื่อค้นหาสาขาที่ใกล้ที่สุด
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ฟิตฮับได้ขยายสาขาออกไปถึง 60 สาขา ใน 14 เมืองทั่วประเทศอินโดนีเซีย และดึงดูดสมาชิกแบบจ่ายค่าบริการกว่า 50,000 รายด้วยกัน โดยครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่เพิ่งเข้าฟิตเนสเป็นครั้งแรก สำหรับความสำเร็จของสตาร์ทอัพแห่งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การตั้งราคาที่จับต้องได้เพียง 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนเท่านั้น จึงช่วยลดช่องว่างในตลาดฟิตเนสของอินโดนีเซียซึ่งค่าสมัครสมาชิกฟิตเนสส่วนใหญ่เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ราว 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2050312/10APR_Press_Release_Image_2.jpg
บางจากฯ ร่วมมือกับ Noovoleum เดินหน้าโครงการ Ucollect Box ตู้รับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วแบบอัตโนมัติ เพื่อผลิต SAF
โภชนาการกับการออกกำลังกาย พลังเบื้องหลังที่หลายคนมองข้าม
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยผลสำรวจ Green Impact Gap ชี้องค์กรไทย 52% ใช้ AI เป็นตัวเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ปลดล็อกต้นทุน-เพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน
แคสเปอร์สกี้บล็อกภัยคุกคามบนเว็บพุ่งเป้าผู้ใช้ในไทยมากกว่า 24,000 รายการต่อวัน
SCGP ปิดดีล เข้าถือหุ้นร้อยละ 100 ใน MYPAK เสริมแกร่งบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษในประเทศอินโดนีเซีย
แอกซ่าประกันภัยคว้ารางวัล ACES Green Initiative Award 2025
รายงาน SiteMinder เผยประเทศไทยติดอันดับจุดหมายปลายทางยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวเอเชีย-แปซิฟิกปี 2569
มกอช. เจรจา FTA อาเซียน-แคนาดา สำเร็จบรรลุข้อตกลง
นักเรียนไทยชนะเลิศ กวาด 39 รางวัลจาก ASMOPSS 2025