บลจ.กรุงไทย แนะนำกองทุนหุ้นไทย "KTSF" มองเศรษฐกิจไทยในปี 2023 อยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัว

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

KTAM มองเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นไทย โดยประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2023 อยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัว และคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากปี 2022 โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และการบริโภคภายในประเทศที่จะได้รับอานิสงส์จากภาคบริการ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้น จึงได้แนะนำกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (KTSF)

บลจ.กรุงไทย แนะนำกองทุนหุ้นไทย "KTSF" มองเศรษฐกิจไทยในปี 2023 อยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัว

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นไทยในปีนี้ จะยังคงมีความผันผวนสูงจากปัจจัยเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพคล่องที่ลดลงจากการลดการอัดฉีดเม็ดเงินของประเทศต่างๆ เงินเฟ้อที่แม้ชะลอลงแต่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงปัญหาความตึงเครียดจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้า เป็นต้น แต่ก็ยังมีหลายปัจจัยภายในประเทศที่เป็นตัวสนับสนุนซึ่งจะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะจากภาคบริการและภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว บลจ.กรุงไทย แนะนำกองทุนหุ้นไทย "KTSF" มองเศรษฐกิจไทยในปี 2023 อยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัว

"จากภาคบริการและภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนหันมาท่องเที่ยวต่างประเทศและใช้จ่ายอย่างเต็มที่มากขึ้นหลังอั้นมาเกือบ 3 ปี ขณะเดียวกันได้มีการคาดการณ์ทิศทางกระแสเงินไหลเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในปีนี้ หลังจากที่คาดว่าเฟดจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี และจากทิศทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่มีแนวโน้มอ่อนแอลงกว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในภูมิภาคเอเชียที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากการเติบโตของภาคบริการและการลดลงของต้นทุนการผลิตตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่คาดว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ดังนั้น คาดว่าการลงทุนในหุ้นไทยในปีนี้จะมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าปีก่อนหน้า โดยการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จะมีโอกาสให้ผลการดำเนินงานที่มั่นคงสม่ำเสมอ และอาจสามารถทนทานต่อสถานการณ์ต่างๆ เมื่อเผชิญกับวัฏจักรการขึ้นลงของเศรษฐกิจ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนหุ้นขนาดใหญ่จึงอาจคาดหวังผลตอบแทนที่มีผันผวนต่ำกว่าความผันของตลาดหุ้นโดยรวมและการจ่ายเงินปันผลที่ค่อนข้างสม่ำเสมอได้ในระยะยาว เราจึงขอแนะนำกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (KTSF) (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6) เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนให้กับนักลงทุน" นางชวินดา กล่าว

สำหรับกองทุน KTSF มีนโยบายมีกลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุก เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่ดี นอกจากนี้ กองทุน KTSF ได้ตอกย้ำความสำเร็จจากการบริหารจัดการ ด้วยรางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยมปี 2023 ประเภท กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) จากมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกทางด้านการให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์เกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ อีกด้วย

ทั้งนี้ กองทุน KTSF ได้แบ่งพอร์ตการลงทุนเป็น 2 แบบ คือ 1) การจัดพอร์ตลงทุนเป็นส่วนหลัก (Core Portfolio) เน้นลงทุนหุ้นที่มีความมั่นคง มีปัจจัยพื้นฐานดี มี Valuation ที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนจาก Capital gain และเงินปันผลในระยะยาว และ 2) การจัดพอร์ตลงทุนเป็นส่วนเสริม (Satellite Portfolio) ซึ่งเป็นการลงทุนตามธีมการลงทุนในแต่ละช่วงเวลาเพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนระยะสั้น-ปานกลาง โดยกลยุทธ์การลงทุนผสมดังกล่าวเพื่อมุ่งหวังให้กองทุนมีผลตอบแทนสูงกว่าตัวชี้วัดอย่างสม่ำเสมอ และมีความผันผวนน้อยกว่าความผันผวนของผลตอบแทนของตัวชี้วัดในทุกสภาวะตลาด

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn

ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน KTSF ที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาตราสาร ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร ความเสี่ยงทางธุรกิจ และความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ "LUXF" 0.64 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่ากว่า 125 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ในอัตรา 0.64 บาทต่อหน่วย มูลค่ารวม 125,760,000 บาท โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 18 กันยายน 2568 สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่มีนโยบายการลงทุน

BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพ... BBLAM เสนอขาย IPO 'BP17/25(AI)' วันที่ 11-15 ก.ย. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 17/25 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' หรือ BP17/25(AI) ซึ่งเ...

บลจ.กสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตช... บลจ.กสิกรไทย ชู K-VALUE ทางเลือกลงทุนรับปันผลสูง ชี้จังหวะลงทุนหุ้นไทยรับตลาด Upside ในระยะสั้น — บลจ.กสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตชะลอลง คาด GDP ไ...

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ "กองทุนรวม SRI" ยกระดับความโปร่งใส สู่มาตรฐานสากล

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุนรวม SRI* (Sustainable and Responsible Investing...