ทีเอ็มบีธนชาต จับมือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ชูโอกาสใหม่ให้เอสเอ็มอีไทย พร้อมเติบโตในตลาดโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ร่วมมือกับพันธมิตรโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดเสวนาเสริมความรู้แก่เอสเอ็มอี ที่ทำธุรกิจส่งออก-นำเข้าไทย อย่างครบถ้วน ทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลก สถานการณ์การส่งออก-นำเข้า รวมถึงตลาดต่างประเทศที่น่าสนใจในปีนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมเติบโตในตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน

ทีเอ็มบีธนชาต จับมือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ชูโอกาสใหม่ให้เอสเอ็มอีไทย พร้อมเติบโตในตลาดโลก

นางสาวสุกัญญา ตรีเสน่ห์จิต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี กล่าวว่า ธนาคารพร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่งออก-นำเข้าของไทย ซึ่งมักประสบปัญหาการเข้าถึงแหล่งความรู้ในการทำการค้าระหว่างประเทศ ที่มีกฎระเบียบมากมาย การจ่ายและรับเงินกับคู่ค้าระหว่างประเทศมีความซับซ้อน อีกทั้งมีความเสี่ยงต้นทุนเพิ่มจากความผันผวนของค่าเงิน เพื่อให้สามารถค้าขายระหว่างประเทศได้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมมือกับพันธมิตรอย่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ที่ช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนลูกค้าเอสเอ็มอีให้เติบโตพร้อมเดินหน้าสู่การทำตลาดต่างประเทศ ผ่านการจัดงานเสวนา "โอกาสใหม่เอสเอ็มอีไทยสู่ตลาดโลก 2023" ที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เจาะลึกถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลก สถานการณ์การส่งออก โอกาสและตลาดใหม่สำหรับเอสเอ็มอี พร้อมด้วยแนวทางบริหารความเสี่ยง และนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการจากภาครัฐ จากผู้บริหารที่มากประสบการณ์ ทั้งจากทางธนาคารและ DITP ทีเอ็มบีธนชาต จับมือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ชูโอกาสใหม่ให้เอสเอ็มอีไทย พร้อมเติบโตในตลาดโลก

นายนริศ สถาผลเดชา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี กล่าวว่า ปัจจุบันตัวเลขการส่งออกและนำเข้า ดีกว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน คือการส่งออกของไทยปี 2565 ที่เติบโต 17% สะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมาเข้มแข็ง แม้ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนสูง ส่วนปี 2566 การเติบโตของส่งออกคาดว่าจะเป็นแบบชะลอตัว โดยแนะโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย คือ การเลือกเจาะตลาดที่เป็นม้านอกสายตา อย่างอินเดีย และตลาดที่ไม่ใหญ่แต่เริ่มมีความสำคัญ อย่างตะวันออกกลาง รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่น่าสนใจของไทย เนื่องจากมีความนิยมชมชอบสินค้าไทยอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหารที่มีการนำเข้าจากไทยมากถึง 6.2% แต่ยังมีสิ่งที่ต้องระวัง ได้แก่ ต้นทุนที่สูงขึ้น แรงงานขาดแคลนหากเศรษฐกิจเริ่มชะลอลง

ขณะที่ นายพรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง เทรนด์การส่งออกที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ได้แก่ 1) ความตื่นตัวเรื่องความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ผลจากสงคราม ส่งผลให้ทั่วโลกต่างตื่นตัวเรื่องความมั่นคงทางอาหาร จึงเป็นโอกาสของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารอันดับต้น ๆ ของโลก โดยในปี 2565 การส่งออกสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตรของไทยขยายตัวได้ถึง 8.82% 2) แนวโน้มค่าระวางเรือลดลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2565 และมีทิศทางลดลงต่อไปอีกในปี 2566 เนื่องจากอุปทานตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในธุรกิจส่งออกที่ไม่ต้องแย่งตู้คอนเทนเนอร์กันเอง อีกทั้งยังมีผู้ให้บริการเป็นทางเลือกเพิ่มมากขึ้น 3) จีนผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ การบริโภค และการผลิตในจีนจะกลับมาฟื้นตัว ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะผลไม้ อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าแฟชั่น ที่จะเติบโตตาม 4) กระแส BCG (Bio-Circular-Green) ที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นทุน โดยนำวัตถุดิบใกล้ตัวมาต่อยอดเป็นสินค้าส่งออกตามแนวทาง BCG สร้างมูลค่าเพิ่มที่ตรงกับความต้องการของตลาดโลก

นอกจากนี้ ในส่วนของภาครัฐเองก็มีเครื่องมือสนับสนุนผู้ประกอบการ ผ่าน SMEs Pro-active by DITP ที่ช่วยสนับสนุนและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปแสดงสินค้าในต่างประเทศ หรือขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ เพื่อให้เอสเอ็มอีก้าวออกไปทำธุรกิจได้อย่างมั่นคง

ด้านนางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีทีบี แนะนำว่า ในปีนี้ผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างประเทศควรจับตา 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) การชะลอตัวของเศรษฐกิจ 2) ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และทิศทางแนวโน้มดอกเบี้ย 3) การเปิดการท่องเที่ยวของจีน เพราะจะมีผลทำให้ค่าเงินบาทผันผวนค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ประเทศคู่ค้าหลักของไทย เกือบ 40-50% เป็นประเทศในเอเชีย แต่สกุลเงินที่ผู้ประกอบการใช้ซื้อขายกันยังเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ถึง 80% ซึ่งจากสถิติในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีความผันผวนสูงมาก หากผู้ประกอบการตั้งรับไม่ทัน ย่อมมีผลต่อต้นทุนที่สูงขึ้นได้

ทางธนาคาร จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐสำหรับการค้าขายในสัดส่วนที่ลดลง และปิดความเสี่ยงด้วยการใช้เงินสกุลท้องถิ่น (Local Currency) ในการซื้อขายกันมากขึ้น เช่น สกุลเงินของเอเชีย ซึ่งปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินบาท มีความผันผวนน้อยกว่า ทำให้บริหารต้นทุนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการไทยยังมีการใช้สกุลเงินที่หลากหลายสำหรับทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกกับหลายประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต จึงเป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่พัฒนาบัญชีเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศ นั่นคือ ttb multi-currency account หรือบัญชีบริหารหลายสกุลเงิน โดยบัญชีเดียวสามารถรองรับได้มากถึง 11 สกุลเงิน ผู้ประกอบการสามารถซื้อ-ขาย-รับ-จ่ายได้สะดวกทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งทำธุรกรรมเทรดไฟแนนซ์บนแพลตฟอร์ม ttb business one สามารถเข้าถึงได้ทุกอุปกรณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่สนใจผลิตภัณฑ์และบริการด้าน ธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศสำหรับเอสเอ็มอี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าหน้าที่บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจของท่าน (หากท่านเป็นลูกค้าธุรกิจของ ทีทีบี) หรือ ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต โทร. 0 2643 7000 วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 08:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดธนาคาร


ข่าวกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ+สุกัญญา ตรีเสน่ห์จิตวันนี้

IN2IT (อินทูอิท) บริษัท เอเซียแปซิฟิค คอสเมติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ประจำปี 2568

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ประจำปี 2568 ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ โดยมีนางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ดร.พรพันธ์ พรมวัง Regional General Manager บริษัท เอเซียแปซิฟิค คอสเมติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ขึ้นรับมอบประกาศนียบัตรในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark)

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัด... "Thai Music Meetup - Gan Bei" จุดประกายเครือข่ายดนตรีไทย-ไต้หวัน เจรจาธุรกิจกว่า 760 ล้านบาท — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดงาน "Thai Music Me...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัด... "Thai Music Meetup - Gan Bei" จุดประกายเครือข่ายดนตรีไทย-ไต้หวัน เจรจาธุรกิจกว่า 760 ล้านบาท — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดงาน "Thai Music Me...

"พาณิชย์" สุดปลื้ม "บางกอกเจมส์" ครั้งที่ 72 สำเร็จทะลุเป้า สร้างสถิติใหม่ ปลุกเงินสะพัดราว 4,700 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยผลการจัดงาน "Bangkok Gems and Jewelry Fair" หรือ "บางกอกเจมส์" ครั้งที่...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระ... DITP จับมือ 6 พันธมิตรเชื่อมข้อมูลและนำ AI มาเสริมทัพการค้าไทย — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ แถลง Kick off การพัฒนานวัตกรรมดิจิทั...

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระ... DITP เชิดชู 20 ผู้ประกอบการไทย รับมอบตรา T Mark การันตีมาตรฐานสู่ตลาดโลก — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตร...

เมื่อเร็วๆนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนต... กระทรวงการต่างประเทศร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล — เมื่อเร็วๆนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว...