งานสัมมนาของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ในหัวข้อ '2023 Thailand Economic and Bank Outlook' กล่าวว่า ภาคธนาคารไทยน่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในปี 2566 จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงและการเติบโตของสินเชื่อ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น
ดร. สมประวิณ มันประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB: BBB/Stable) กล่าวในการบรรยายว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่เคยประเมินไว้ เศรษฐกิจจีนน่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งหลังกลับมาเปิดประเทศ SCB EIC คาดว่าธนาคารกลางรายใหญ่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงเป็นเวลาต่อเนื่อง จากการที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 เป็น 3.9% จากเดิม 3.4% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมากของภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ
คุณจินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฟิทช์คาดว่าธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2566 เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงและสินเชื่อที่เติบโตสูงขึ้น ในขณะที่ธนาคารไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่อเนื่องจากการที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทยอยหมดอายุลงและการที่ธนาคารทยอยลดสัดส่วนสินเชื่อที่ได้รับการปรับโครงสร้าง อย่างไรก็ตามธนาคารไทยยังคงมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เช่นในด้าน เงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่นับเป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1) และอัตราส่วนสำรองต่อหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยมีค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 15.3% และ 171% ตามลำดับ ณ สิ้นปี 2565
นอกจากนี้ฟิทช์ยังคาดว่าฐานะสภาพคล่องของธนาคารไทยจะยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากธนาคารไทยส่วนใหญ่มีการระดมเงินจากเงินฝากโดยไม่ได้มีการพึ่งพาการระดมเงินจากตลาดทุนหรือจากต่างประเทศในระดับที่มีนัยสำคัญ ทั้งนี้อัตราส่วนของปริมาณสินทรัพย์สภาพคล่องทั้งสิ้นต่อประมาณการกระแสเงินสดไหลออกสุทธิ (Liquidity Coverage Ratio) เฉลี่ยของอุตสาหกรรมยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 192% ณ สิ้นปี 2565 ทั้งนี้ฟิทช์เพิ่งมีการปรับประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) เป็น 4.0% จาก 3.8% จากการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศของจีน
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.25% มาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี เพื่อให้ภาวะการเงินลดความตึงตัว สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ กนง. ประเมินไว้และสามารถรองรับความไม่แน่นอนข้างหน้าได้อย่างเหมาะสม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด
ธนาคารไทยพาณิชย์ส่งมอบปริมาณโลหิต 73 ล้านซีซีให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย พร้อมเปิดโครงการ "ไทยพาณิชย์รวมใจไทยให้โลหิต" ประจำปี 2568
—
ธนาคารไทยพา...
"PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่
—
"PAPPLE Series Hua Hin 24" กอล์ฟการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ รวมสุดยอดโปร LPGA และโปรกอล์ฟชั้นนำของไทยกว่า ...
ธนาคารไทยพาณิชย์ คว้า 5 รางวัลสำคัญด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในปี 2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำองค์กรยั่งยืน
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำภาพลักษณ...
'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' แต่งตั้ง Underwriters เตรียมเสนอขายหุ้น IPO
—
รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา (กลาง) ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (ม...
'บมจ.โรงพยาบาลนครธน' จัดโรดโชว์นักลงทุนรายย่อย ผ่านระบบออนไลน์ 29 พ.ย.นี้
—
เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่จะได้รับปัจจัยบวกจากเทรนด์การใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพเละแนว...
ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมถอดบทเรียนองค์กรผู้นำด้านการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล พร้อมคว้ารางวัลระดับโลกจาก Coursera
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมถอดบทเรียนองค์กรผู้นำด้าน...
ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี ...
ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับกองทัพอากาศจัดเตรียมถุงยังชีพ “น้ำใจไทยพาณิชย์” 2,000 ถุง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกองทัพ...