STECH โชว์ผลงาน Q1/66 กำไร 24.23 ลบ. ปี 66 ตั้งบริษัทย่อยขายลวดเหล็ก หวังปั๊มรายได้ New High สู่ 2,250 ลบ.

16 May 2023

บมจ.สยามเทคนิคคอนกรีต หรือ STECH พอใจแผนบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพ ไตรมาส 1/2566 โชว์กำไร 24.23 ล้านบาท ล่าสุด ประกาศจัดตั้งบริษัทย่อย "สยามสตีลไวร์ เทรดดิ้ง" ปักธงขายลวดเหล็ก เพื่อเพิ่มช่องทางธุรกิจและเพิ่มรายได้ใหม่ให้บริษัท พร้อมตั้งเป้าทำรายได้นิวไฮปีนี้ที่ระดับ 2,250 ล้านบาท คอนเฟิร์มด้วย Backlog ที่มีอยู่แล้ว 1,200 ล้านบาท

STECH โชว์ผลงาน Q1/66 กำไร 24.23 ลบ. ปี 66 ตั้งบริษัทย่อยขายลวดเหล็ก หวังปั๊มรายได้ New High สู่ 2,250 ลบ.

นายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 433.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.96 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากธุรกิจขายและบริการคิดเป็น 15.90% เพิ่มขึ้นจาก 14.36% จากปี 2565 สาเหตุหลักมาจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 23.86 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากในปี 2565 โครงการก่อสร้างสายส่งระบบ 115KV สถานีไฟฟ้าสกลนคร 2 จ.สกลนคร-สถานีไฟฟ้าศรีสงคราม จ.นครพนม ได้รับรู้รายได้ส่วนใหญ่ไปแล้วนั้น มีงานเพิ่มเติมบางส่วนซึ่งจบลงในไตรมาส 1/2566

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการบริหารจัดการด้านการตลาด ได้แก่ บริษัท สยามสตีลไวร์ เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งจะดำเนินธุรกิจด้านการจำหน่ายลวดเหล็ก คาดว่าจะขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ขยายช่องทางธุรกิจ เพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ

สำหรับปี 2566 STECH คาดว่า รายได้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ที่ระดับ 2,250 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ฟื้นตัว และสามารถบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ และปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวม 1,200 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามงานที่ได้ยื่นเสนอราคาไปแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานในกลุ่มเสาเข็มที่ประมาณ 500 ล้านบาท หรือราว 40% ของมูลค่างานทั้งหมด และพร้อมเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต