ทีมนักพัฒนาซอฟต์แวร์มีภาระหน้าที่ที่เหมือนกันคือการส่งมอบซอฟต์แวร์ให้ได้มากขึ้นและเร็วขึ้น โดยไม่ลดทอน คุณภาพและเสถียรภาพ ในปัจจุบันที่มีการใช้ทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น ทุกธุรกิจจึงจำเป็นต้อง เปลี่ยนแปลงเสมือนเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เพื่อก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันได้
ยกตัวอย่างบริษัทแบรนด์สินค้าชุดกีฬา Addidas ที่ปรับการทำงานเทียบเท่าบริษัทซอฟต์แวร์ระดับแถวหน้า ที่ทรงพลัง โดยหลังจากได้ปรับระบบต่างๆ ให้ทำงานบนคลาวด์ ทางบริษัทสามารถลดเวลาการ deploy จากทุก ๆ 6 สัปดาห์เป็น 3 ครั้งต่อวัน โดยเวลาที่ใช้ deploy จริงลดลง จาก 3 วันเหลือเพียง 1 นาที
นี่คือวิสัยทัศน์และเป้าหมายของโลกอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยแอปพลิเคชัน
เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว องค์กรควรจะพัฒนาระบบที่ทำงานบนคลาวด์เพื่อให้ได้ประสิทธิผลด้าน ความเร็วง่ายต่อการปรับขยายขนาด และมีความยืดหยุ่นในการสนองตอบการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม เพื่อการก้าวให้ทันโลกและความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของธุรกิจ องค์กรจำต้องสร้างทีม DevOps ที่ทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพชั้นเลิศและสมบูรณ์แบบ โดยมีความเชี่ยวชาญในกระบวนการส่งมอบซอฟต์แวร์ คลาวด์เบสระดับมืออาชีพ
คำถามสำคัญที่ตามมาก็คือเราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร?
ตัวชี้วัดจุดสูงสุดในสายงาน DevOps
หน่วยงานวิจัยของ Google Cloud ที่ชื่อ DORA ได้ทำการวิจัยเชิงวิชาการอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับขบวนการพัฒนา และส่งมอบซอฟต์แวร์เป็นเวลานานถึง 8 ปี
ในรายงาน State of DevOps ทาง DORA ได้ระบุตัวชี้วัด 4 อย่างที่แสดงถึงความเป็นทีมชั้นเลิศที่ให้ผลลัพธ์ ทางธุรกิจที่เข้มแข็ง
แบบจำลองระดับความสามารถของ DevOps นี้ แสดงถึงคุณภาพและความสามารถที่อยู่เบื้องหลังบริษัทที่ ปรับตัวได้เร็ว มีนวัตกรรมที่สามารถสร้างแอปพลิเคชันและบริการคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว
ลองนึกถึง Netflix, Uber, Amazon
บริษัทเหล่านี้ที่สามารถทำงานได้ในระดับสูงก็เพราะใช้ขบวนการ continuous integration/continuous delivery (CI/CD) ทำให้สามารถ deploy ได้หลายครั้งต่อวันหรือตามต้องการ โดยปกติจะใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมง ในการ deploy ลงบนระบบงานจริง (production) และใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมงในการทำให้ระบบคืนกลับสู่ สภาพเดิม ด้วยอัตราความผิดพลาดของการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่า 15%
อย่างไรก็ตามในรายงานของ DORA ฉบับปี 2022 ทางนักวิจัยได้จัดระดับขีดความสามารถของ DevOps ในบริษัทที่ประเมินไว้แค่ระดับ ต่ำ กลาง และสูงเท่านั้น ไม่มีบริษัทไหนอยู่ในระดับดีเลิศ (Elite)
ความท้าทายในการนำพาบริษัทไปให้ถึงระดับดีเลิศ (Elite)
DORA ได้ตั้งสมมุติฐานว่าผลพวงจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ลดโอกาสที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์เกิดการ เรียนรู้จากคนอื่น ส่งผลให้การพัฒนาและความก้าวหน้าชะงัก และยังมีอีก 2 ตัวแปรที่มี ผลกระทบคือ
ในงานวิจัย State of Cloud Application Development (SoCAD) ของเราพบว่าในขณะที่ 72% ของผู้จัดการ ฝ่าย IT และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ถูกสำรวจคาดว่า ในปี 2023 แอปพลิเคชันที่จะสร้างขึ้นส่วนใหญ่จะทำงาน บนคลาวด์ แต่ทว่ามีเพียง 47% เท่านั้นที่ระบุว่ามีความรู้อย่างถ่องแท้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์นี้
เมื่อถามผู้ถูกสำรวจว่าต้องการที่จะขยายทีมวิศวกรเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์หรือไม่? ผู้ตอบแบบสำรวจ ส่วนใหญ่ (60% - 70%) ตอบว่าต้องการที่จะจ้าง 11 ใน 13 ตำแหน่งงาน ที่กำหนดไว้ในแบบสอบถาม
นี่แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ผู้ที่มีความสามารถ ด้านนี้มีน้อยและเป็นที่ชัดเจนว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของทุกบริษัท
ในเวลาเดียวกันหลาย ๆ ทีมยังขาดผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์ในระดับซับซ้อนอีกด้วย
จากผลสำรวจ สิ่งท้าทายอันดับต้นๆ ที่ผู้นำด้านแอปพลิเคชันบนคลาวด์จะต้องเผชิญคือ
สรุปสั้นๆ คือ คุณต้องทำให้แอปพลิเคชันพร้อมใช้งานได้เร็วขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและทีมงานที่ ขาดแคลนนักพัฒนาฝีมือดีที่มีความเชี่ยวชาญสูง ด้วยสภาพการณ์เช่นนี้ ทำให้ไม่สงสัยเลยว่าทำไมในรายงานปี 2022 ถึงไม่มีบริษัทใดได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับดีเลิศ
แต่ยังมีข่าวดีคือมียังพอมีหนทางในการเปลี่ยนผ่านเพื่อพัฒนา DevOps ให้ไปถึงระดับดีเลิศได้ ไม่ว่าตอนนี้ บริษัทของคุณจะอยู่ในระดับ ต่ำ กลาง หรือสูง
กลายร่างเป็นองค์กรระดับ High Performer ด้วยแพลตฟอร์ม Low-Code ประสิทธิภาพสูง
มีตำนานที่กล่าวขานว่าแพลตฟอร์มที่ใช้หลักการ Low-Code ไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้พัฒนาแอปพลิเคชัน และบริการที่ใช้งานอย่างจริงจังได้ในโลกธุรกิจ หลายคนเชื่อว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้เหมาะสำหรับแอปพลิเคชัน พื้นฐานเท่านั้น ไม่เหมาะกับแอปพลิเคชันที่มีผลต่อ KPI ของหน่วยงาน
แต่ตำนานก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่เล่าต่อกันมาเท่านั้น
แพลตฟอร์ม Low-Code สมรรถนะสูงอย่าง OutSystems มีการพัฒนาล้ำเกินหน้าแพลตฟอร์ม No-Code และ Low-Code รุ่นก่อนหน้ามาอย่างยาวนาน โดยเป็นตัวช่วยนักพัฒนาให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันสำคัญ ที่ทำงานอย่างจริงจังได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุก ๆ ด้านของสถาปัตยกรรมแบบคลาวด์
เราสร้างแพลตฟอร์มบน 3 หลักการที่ทำให้ลูกค้านำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันสำหรับทุกกรณีการใช้งานและปรับปรุงได้ง่ายเมื่อมีความต้องการใหม่ๆ เกิดขึ้น
คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่เข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหว ทำงานในสภาวะแวดล้อมที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด สามารถเชื่อมโยงกับกระบวนการหลักทางธุรกิจ (core business) และมีบทบาทที่สำคัญต่อเส้นทางของ ผู้บริโภคที่เข้ามาสัมผัส brand หรือองค์กรของคุณ (customer journey)
และด้วยความก้าวหน้าของแพลตฟอร์ม OutSystems คุณจะได้รับฟังก์ชันการทำงานที่แตกต่างเหนือใคร และพร้อมใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการที่ทำงานบนคลาวด์
เราได้เปิดตัว OutSystems Developer Cloud (ODC) เมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตร สามารถ deploy แอปพลิเคชันที่รองรับเทคโนโลยีบนคลาวด์ เช่น containerization, microservices, Kubernetes, และ serverless computing ได้
สิ่งเหล่านี้ทำให้แพลตฟอร์มของเราสามารถปรับขยายขนาดได้อย่างเหลือเชื่อ
เนื่องจาก OutSystems ทำให้ความสามารถหลักหลายอย่างของการส่งมอบซอฟต์แวร์ชั้นเลิศเป็นไปโดย อัตโนมัติ คุณจึงสามารถขยายขนาดบริการเหล่านี้ในพอร์ตโฟลิโอแอปพลิเคชันทั้งหมดของคุณ โดยไม่ต้อง ลงแรงทำซ้ำ ๆ
OutSystems สามารถเปลี่ยนคุณให้เป็น DevOps ที่มีความสามารถในระดับดีเลิศ (Elite) ได้อย่างไร!
ดูเหมือนว่า Low-Code จะอยู่คู่กับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ทำงานบนคลาวด์ จากรายงาน OutSystems SoCAD พบว่า 60% ของผู้นำในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์กล่าวว่า Low-Code คือคำตอบสุดท้าย และ 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามประมาณการว่าจะพัฒนาแอปพลิเคชันด้วย แพลตฟอร์ม Low-Code ภายในปี 2025
บทความโดย: นายเติมศักดิ์ วีรขจรพงษ์ รองประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอาท์ซิสเต็มส์ / Termsak (Jimmy) Virakachornpong, Regional Vice President, OutSystems
อาลีบาบา สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนวัตกรรมด้าน AI เปิดตัว Qwen3 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของตระกูลโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) แบบโอเพ่นซอร์สของบริษัทฯ ซีรีส์ Qwen3 ประกอบด้วยหก dense model และสอง Mixture-of-Experts (MoE) model ซึ่งช่วยให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สร้างแอปพลิเคชันยุคใหม่สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แว่นตาอัจฉริยะ ยานยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมายได้อย่างยืดหยุ่นโมเดล Qwen3 ทั้งหมด ปัจจุบันเปิดเป็นโอเพ่นซอร์สทั่วโลก ซึ่งรวมถึง dense models (ขนาดพารามิเตอร์ 0.6B, 1.7B, 4B, 8B, 14B, และ 32B) และ MoE
กรุงศรี จับมือ ผู้ผลิตระบบบัญชี Express นำเสนอบริการ Krungsri Bill Payment Online ให้ SME เข้าถึงเทคโนโลยีการรับชำระเงินได้ง่ายๆ ปลอดภัย ลดต้นทุนด้านไอที
—
กรุงศรี (ธน...
อาลีบาบา คลาวด์ วางตลาดโมเดล เครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐาน รุ่นล่าสุดสำหรับ AIมุ่งเสริมประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งให้กับชุมชน AI ทั่วโลก
—
ธุรกิจด้านเทคโนโลยี...
เอเซอร์หนุนอุตสาหกรรมอีสปอร์ตไทย โตต่อเนื่อง ปั้นนักศึกษาในโครงการ "Esports Internship Program" เปิดโอกาสงานด้านอีสปอร์ตให้กลุ่มคนพิการ
—
เอเซอร์คาดการณ์ว...
Amity Solutions จับมือ Databricks เปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์มสืบค้นข้อมูลด้วยภาษาธรรมชาติ
—
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้เป็นการผสานรวม EkoAI เข้ากับ Databricks ...
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.ศรีปทุม ปั้นนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ สู้ศึกดิจิทัล! ผ่านโครงการ Tech Talk #4
—
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดโครงการอบรมหล...
เรียนรู้ Prompt Engineering ที่ SPU พร้อมก้าวสู่ตลาดงานระดับโลก
—
เรียนรู้ "Prompt Engineer" อาชีพใหม่ไฟแรงในยุค AI กับ อาจารย์เบวล์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ...
ปฏิวัติการเรียนรู้ " โกซอฟท์" บริษัทในกลุ่ม ซีพี ออลล์ MOU ร่วมกับ "DEPA" สร้างเส้นทางสู่สังคมดิจิทัลสำหรับทุกคน
—
บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี...
Amity Solutions คว้ารางวัล "The Sauciest Startup" จากงาน Techsauce Awards 2024
—
คำบรรยายภาพ: Keng Teik Koay ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท และ ทัชพล ...