ในปัจจุบันนี้ การพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ครอบคลุม ยั่งยืน และเท่าเทียม ถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้ก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงและมีสภาพเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ โดยข้อมูลจากรายงานของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) พบว่า ประชากรหนุ่มสาวในประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตค่อนข้างสูง โดยร้อยละ 99 ของประชากรอายุระหว่าง 15 ถึง 24 ปี ล้วนแล้วแต่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีจำนวนประชากรจำนวนมากที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่มากเพียงพอสำหรับทักษะดิจิทัล ทั้งระดับพื้นฐาน ระดับกลาง และระดับสูง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาและการสนับสนุนอีกพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมทักษะทางดิจิทัลและไอซีทีในกลุ่มผู้หญิงในประเทศ เพื่อสนับสนุนให้พวกเขาได้ค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิตทั้งด้านการศึกษาและหน้าที่การงานที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น
ภายในงาน International Girls in ICT Day ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดขึ้น ภายใต้ธีม "Digital Skills for Life!" หัวเว่ย ประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำด้านไอซีทีและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในระดับโลก ได้ประกาศจุดยืนเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางด้านดิจิทัลให้แก่บุคลากรทุกเพศทุกวัย พร้อมกับแนวทางเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงในยุคดิจิทัล ผ่านทางการจัดกิจกรรมฝึกอบรม งานสัมมนา และการถ่ายทอดทักษะความรู้ด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประเทศไทยนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถสร้างความเท่าเทียมทางเพศในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เป็นอย่างดี โดยจากรายงานพบว่ามีผู้หญิงที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตคิดเป็นร้อยละ 84 ซึ่งนับได้ว่าเป็นอัตราส่วนที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในขณะเดียวกัน องค์กรภาครัฐต่างๆ ในไทย ต่างก็ผลักดันเรื่องอัตราการเข้าถึงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในกลุ่มผู้หญิงและเยาวชนในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมไปถึงการวางกลยุทธ์การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านดิจิทัล เพื่อทำให้เกิดอีโคซิสเต็มส์ด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และช่วยสนับสนุนให้เยาวชนสามารถเข้าถึงดิจิทัลได้สะดวกขึ้นเป็นอย่างมาก โครงการต่างๆ เหล่านี้เป็นไปเพื่อช่วยผลักดันให้ทั้งผู้หญิงและเยาวชนไทยสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงในสายอาชีพด้าน STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) ยังคงมีบทบาทค่อนข้างน้อยในประเทศไทย โดยพบว่ามีผู้หญิงที่อยู่ในสายอาชีพนี้เพียงร้อยละ 43 เท่านั้น แม้สัดส่วนดังกล่าวจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระดับโลก แต่ก็ยังเป็นเหตุผลที่เราควรเร่งสนับสนุนให้ผู้หญิงหันมาเลือกอาชีพด้าน STEM และไอซีทีมากขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ ซึ่งการอบรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นภายในงานครั้งนี้จะช่วยเปิดโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและสตรีในไทย ให้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีไอซีทีและมองเห็นแนวทางที่จะก้าวเดินต่อไปในสายอาชีพนี้ โดยหัวเว่ยเชื่อมั่นว่าการส่งเสริมให้เยาวชนและสตรีหันมาสนใจอาชีพสาย STEM จะช่วยลดปัญหาด้านความไม่เท่าเทียมในโลกดิจิทัล เพื่อสร้างสังคมที่ทั้งความหลากหลายและครอบคลุมบุคลากรทุกรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นการปูทางไปสู่การสร้างพลเมืองดิจิทัลแห่งศตวรรษที่ 21 ที่มีคุณภาพสำหรับประเทศ
นายวรกาน ลิขิตเดชาศักดิ์ เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีเครือข่ายโทรคมนาคม บริษัท หัวเว่ย (เทคโนโลยี่) ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวถึงประเด็นบุคลากรหญิงในวงการไอซีทีของไทยว่า "หัวเว่ยพร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคอัจฉริยะที่ทุกคนเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ ภายใต้กิจกรรม Girls in ICT Day ในปีนี้ โดยหัวเว่ยได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านไอซีทีในหลากรูปแบบและหลายหัวข้อเพื่อตอบโจทย์ในด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อด้านการพัฒนาโครงข่าย 5G การพัฒนาระบบคลาวด์ การลงมือปฏิบัติจริง รวมไปถึงการเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมและนิทรรศการต่าง ๆ เพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่เหล่าเยาวชนและสตรี พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ITU ในการจัดกิจกรรมและโครงการฝึกอบรมเพื่อจุดประกายให้เหล่าเยาวชนหญิงสนใจศึกษาต่อในสาขา STEM มากขึ้น พร้อมทั้งตั้งให้หัวเว่ยเป็นพันธมิตรหลักในการสนับสนุนแนวคิดริเริ่มใหม่ ๆ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาทักษะด้านไอซีทีให้กับเยาวชนทั่วประเทศ"
การส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ของสหประชาชาติ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความพยายามร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านต่างๆ เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม ในการร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อผลักดันวาระสำคัญเช่นนี้ หัวเว่ย จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและสตรีได้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีไอซีที รวมทั้งสามารถนำไปต่อยอดทางด้านอาชีพในอนาคตได้ ทั้งนี้ ในยุคดิจิทัล มุมมองและความมีส่วนร่วมของผู้หญิงจะสร้างความหลากหลาย และเป็นกุญแจไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงเสรีภาพและความมั่นคงอีกด้วย ซึ่งหัวเว่ย คาดหวังว่าแนวทางของหัวเว่ยในด้านการจัดอบรมด้านดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ และการบ่มเพาะผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที จะช่วยปิดช่องว่างด้านทักษะและความรู้ไอซีที พร้อมทั้งส่งเสริมความเท่าเทียมทางด้านดิจิทัลและเสริมศักยภาพด้านไอซีทีของเยาวชนและผู้หญิงในประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต ตามพันธกิจ "เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย" (Grow in Thailand, Contribute to Thailand) และการช่วยให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลในอาเซียนอย่างมีศักยภาพ
หัวเว่ยและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ร่วมลงนามในปฏิญญาความร่วมมือส่งเสริมการพัฒนาและสนับสนุนความเท่าเทียมทางดิจิทัล
นายกรัฐมนตรีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 5 ชูบทบาทไทยขับเคลื่อนอาเซียนสู่อนาคตดิจิทัล
หัวเว่ยมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล เชื่อมต่อสู่ยุคดิจิทัล
หัวเว่ยลงนามร่วมพันธกิจระดับโลกของ ITU มุ่งช่วย 120 ล้านคนชนบทเชื่อมต่อโลกดิจิทัลได้
กสทช. ร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) จัดงาน ITU Regional Office for Asia and the Pacific Opening Ceremony of New Premises ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2565
หัวเว่ยร่วมงานประชุมโทรคมนาคมระดับภูมิภาค Asia-Pacific Spectrum Management ครั้งที่ 8
หัวเว่ยจับมือสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) จัดงาน "Walk into ICT Industry" ร่วมบ่มเพาะบุคลากรด้านไอซีที