บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) โชว์ผลงานไตรมาส 1/66 มาตามนัด! กวาดรายได้ 154.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.74% เหตุรับรู้รายได้หลักจากการจำหน่ายอุปกรณ์และให้บริการติดตั้ง และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากภาคเอกชน จากกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าใหม่และลดการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ ฟากบิ๊กบอส "สมชาย อ่วมกระทุ่ม" แย้มแนวโน้มผลงานไตรมาส 2 เติบโตต่อเนื่อง เหตุตุนงานในมือมากกว่า 400 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน บอร์ด ไฟเขียวควักเงิน 38.5 ลบ. ลุยโครงการ "ซื้อหุ้นคืน" ไม่เกิน 11 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5% ระหว่าง 15 พ.ค.-12 ต.ค.66 หวังเพิ่มสภาพคล่อง สร้างความมั่นใจผู้ถือหุ้น
นายสมชาย อ่วมกระทุ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม จำกัด (มหาชน) (ITNS) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 154.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.95 ล้านบาท หรือ 56.74% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 98.61 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 10.68 ล้านบาท
"ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากบริษัทฯ รับรู้รายได้หลักจากการจำหน่ายอุปกรณ์และให้บริการติดตั้ง 124.64 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 80.64% รายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย 28.75 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18.60% และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการให้เช่าอุปกรณ์ 1.09 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.71% ของรายได้รวม"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITNS กล่าวอีกว่า โดยในช่วงไตรมาสแรกบริษัทฯ มีสัดส่วนลูกค้าภาครัฐ 20.38% และภาคเอกชน 79.62% เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ จึงวางกลยุทธ์ขยายงานไปยังกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนรายใหม่ เพื่อกระจายฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคต
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) 400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ ไปจนถึงปี 2570 พร้อมกันนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดทยอยรู้ผลภายในเร็วๆ นี้อีกด้วย ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้น (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินภายในวงเงินไม่เกิน 38.50 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 11 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 5 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และมีการกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ถึง วันที่ 12 ตุลาคม 2566
"โครงการซื้อหุ้นครั้งนี้เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อัตรากำไรสุทธิ (EPS) และเพิ่มมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น เพื่อเป็นการบริหารสถานะการเงินโดยรวมของบริษัทให้เกิดประโยชน์ นอกจากนั้นภายหลังซื้อหุ้นคืน ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนกลับไปจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล รวมถึงอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings per Share) จะสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ถือหุ้นลดลงจึงทำให้ผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะได้รับเพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทฯ จะมีสินทรัพย์สภาพคล่องอีกด้วย"
"ฮอนด้า วันเมคเรซ แชมเปี้ยนส์ อวอร์ดส์ 2025" มอบแชมป์ประจำปีสุดยิ่งใหญ่ "ประพจน์-ทัศไนย" ครองบัลลังก์โอเวอร์ออลล์ "หทัย-ปิยะวดี-สิรภพ" ผงาด ฮอนด้าคลับ
"HANN" จับธุรกิจแพทย์เฉพาะด้าน เตรียมเปิดคลินิกสุขภาพผู้ชาย แห่งแรกของอีสาน
มูลนิธิ อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ เตือนความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากสภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติ
"JAS" คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด "พรีเมียร์ลีก" ประเทศเวียดนาม ปิดดีลใหญ่ลงนามความร่วมมือ "FPT Play" ต่อยอดสร้างรายได้จากคอนเทนต์กีฬาระดับโลกระยะยาว
ผู้บริหารกลุ่ม KTIS เปิดหลายปัจจัยบวกหนุนผลการดำเนินงานปี 2569
Amazing Thailand Souped Up Grand Prix ตอกย้ำตำนานงานแดร็กไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดปีที่ 18 ปิดฉากสุดเดือด 132 คันซัดเต็มพิกัด คนดูล้นสนามกว่า 1.6 หมื่นคน
"ดี เจอร์ราร์ด" เตรียมโชว์ไฟลุกบุกหาดพัทยา "JAS-Monomax" ยกขบวนความบันเทิงอัดแน่น 27 ธ.ค. นี้!!
ออริจิ้น โฮเทล จับมือ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ พัฒนาโรงแรมกลุ่ม ออริจิ้น โฮเทล
เคทีซี จับมือ ยูเนี่ยนเพย์ เปิดโปรแรงรับไฮซีซั่น กระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปี