อาร์ตไพรซ์ จ่อเปิดตัว AI สำหรับสืบค้นข้อมูลตลาดงานศิลปะ "อินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต (Artprice by Artmarket) เตรียมเปิดตัวอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในชื่อ อินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) (Intuitive Artmarket(R)) อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท โดยเป็นเครื่องมือสร้างคำแนะนำที่มีความเกี่ยวข้องสูงและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดโลกของงานศิลปะและตลาดงานศิลปะได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ปัจจุบัน เซอร์เวอร์ กรุ๊ป (Serveur Group) ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการก่อตั้งอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดโดยมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียง 45.78% (ไม่รวมตระกูลเออร์มันน์) นอกจากนี้ เซอร์เวอร์ กรุ๊ป ยังเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอินเทอร์เน็ต กราฟิกคอมพิวเตอร์ การรู้จำแบบ และฐานข้อมูลระดับมืออาชีพในยุโรปมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 (ข้อมูลจากนิตยสารไทม์ ปี 2544) ดังนั้น บริษัทจึงมีวัฒนธรรมทางดิจิทัลและวิทยาศาสตร์ที่หยั่งรากลึกและก้าวหน้าอย่างมาก

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2072231/Abodeofchaos.jpg 

สงวนลิขสิทธิ์ เธียร์รี เออร์มันน์ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย La Demeure du Chaos / Abodeofchaos - Organ Museum of Contemporary Art

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม (Artprice by Artmarket.com) และเซอร์เวอร์ กรุ๊ป ได้ร่วมกันพัฒนาอัลกอริทึมที่เป็นกรรมสิทธิ์หลายพันรายการที่ทั้งทรงพลังและมีความเกี่ยวข้องกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งช่วยให้การประยุกต์ใช้ AI ของตัวเองเป็นไปอย่างเคร่งครัดตามกฎระเบียบที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สินทางปัญญา

วิวัฒนาการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนของเซอร์เวอร์ กรุ๊ป รวมถึงการที่อาร์ตไพรซ์เข้าซื้อกิจการบริษัทนวัตกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2542 เช่น ไซโลจิก (Xylogic) บริษัทสัญชาติสวิสที่เกิดจากการรวมตัวของเหล่านักวิทยาศาสตร์ผู้ทรงเกียรติมากมาย (จากองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป หรือ เซิร์น, องค์การอนามัยโลก และอื่น ๆ) เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต ความเคลื่อนไหวนี้ (และอื่น ๆ) เรียกได้ว่ามาก่อนกาลอย่างแท้จริง และได้กลายเป็นรากฐานของเราในการก้าวไปสู่การใช้งาน AI เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและพลวัตของตลาดงานศิลปะ

อีกเรื่องสำคัญที่พึงระลึกไว้ก็คือ อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ได้รับรางวัล "บริษัทแห่งนวัตกรรม" (Innovative Company) ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสสองครั้งติดต่อกัน (ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดที่มีการกำกับดูแล) โดยรางวัลนี้มีการกำหนดคุณสมบัติอย่างเข้มงวด และมอบโดยธนาคารเพื่อการลงทุนภาครัฐของฝรั่งเศส (Banque Publique d'Investissement หรือ bpifrance)

ในส่วนของบริบททางกฎหมายในปัจจุบันนั้น เราตระหนักดีว่านอกเหนือจากกฎหมายเกี่ยวกับระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) แล้ว กฎหมายปัญญาประดิษฐ์แห่งสหภาพยุโรป (EU AI Act) ที่มีการยื่นเสนอไปแล้ว รวมถึงกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ทั้งหมด ได้ทำให้การใช้งาน AI ในยุโรป (และอาจจะทั่วโลกไม่นานหลังจากนี้) ต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย

ปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญคือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถนำเสนอผลลัพธ์จากการค้นหาด้วย AI โดยไม่ละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา โดยต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า ผลลัพธ์จากการค้นหาด้วย AI เป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลอัลกอริทึมของข้อมูลหลายพันล้านรายการที่มีอยู่แล้ว

ปัญหาต่อมาคือการสืบค้นให้แน่ใจว่าใครเป็นเจ้าของข้อมูลเหล่านั้น เพื่อจ่ายค่าสิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องและนำผลงานไปใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ การกำหนดวิธีการชำระเงินให้สอดคล้องกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศนั้น ๆ ก็เป็นอุปสรรค (ไม่น้อย) เช่นเดียวกัน

คุณเธียร์รี เออร์มันน์ (thierry Ehrmann) ผู้ก่อตั้งอาร์ตไพรซ์และซีอีโอของอาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม ระบุว่า ความสามารถของอินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) จะช่วยให้อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต สามารถนำพาลูกค้าและสมาชิก 7.2 ล้านคนก้าวจาก "การค้นพบไปสู่การเปิดเผยข้อมูล..."

"...อัลกอริทึมของเราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลล็อก ข้อความ และงานศิลปะหลายร้อยล้านรายการจากฐานข้อมูลของอาร์ตไพรซ์ โดยสามารถระบุสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ทางศิลปะของศิลปิน จักรวาลของศิลปินแต่ละคน แรงบันดาลใจ สื่อที่ใช้ ธีมหลัก รูปลักษณะและปริมาณของานศิลปะ ฯลฯ จากนั้นค้นหาข้อมูลที่สอดคล้องกันภายในฐานข้อมูลของเราที่มีศิลปินมากถึง 810,000 ราย พร้อมชีวประวัติและข้อมูลที่ผ่านการรับรองแล้ว กล่าวคือ ระบบจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยโครงข่ายประสาทเทียมของปัญญาประดิษฐ์ของเรา นั่นคือ อินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการจำแนกด้วยตาอีกต่อไป"

โครงข่ายประสาทเทียม (Artificial Neural Network หรือ ANN) เป็นส่วนย่อยของแมชชีนเลิร์นนิง และเป็นหัวใจของอัลกอริทึมการเรียนรู้เชิงลึก โดยชื่อและโครงสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจากสมองของมนุษย์ เนื่องจากมีการเลียนแบบลักษณะที่เซลล์ประสาทและซินแนปส์ (synapse) ส่งสัญญาณถึงกันผ่านใยประสาท (axon)

โครงข่ายประสาทเทียมแบบยิงกระตุ้น (Spiking Neural Network หรือ SNN) ของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม อาศัยการป้อนข้อมูลเพื่อสอนให้เรียนรู้และเพิ่มความแม่นยำขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออัลกอริทึมการเรียนรู้เหล่านี้ได้รับการปรับให้มีความแม่นยำสูงแล้ว ก็จะกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ และอัลกอริทึม AI เหล่านี้จะช่วยให้อินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) สามารถจัดประเภทและเรียงข้อมูลมัลติมีเดียได้ด้วยความเร็วสูงมาก

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถระบุภาพความละเอียดสูง หรือแม้กระทั่งภาพพิมพ์เก่าแก่ได้ภายในไม่กี่วินาที ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิจิตรศิลป์ที่มีชื่อเสียงยังต้องใช้เวลาหลายสิบนาทีในการระบุภาพด้วยตัวเอง

หากมองภาพในมุมกว้างมากขึ้น เราต่างรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นการลองผิดลองถูกและการฝ่าฟันอุปสรรคของหนึ่งในโครงข่ายประสาทเทียมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่างอัลกอริทึมการเสิร์ชของกูเกิล (ซึ่งอาร์ตไพรซ์ได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ต่อเนื่องทุกวันมาตั้งแต่ปี 2542) และนับตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา อาร์ตไพรซ์ อิงค์ (Artprice Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทสาขาในสหรัฐอเมริกาของอาร์ตมาร์เก็ต ได้เฝ้าติดตามพัฒนาการของ บาร์ด (Bard) ซึ่งเป็นแชตบอตต้นแบบของกูเกิลที่พัฒนาขึ้นด้วยโมเดลภาษา LaMDA โดยคุณซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอของกูเกิล ตระหนักดีถึงโอกาสและความเสี่ยงของโครงการนี้ และมีข่าวว่าได้ประกาศ "สัญญานเตือนภัยสีแดง" ทั่วทั้งบริษัทเกี่ยวกับการพัฒนาครั้งนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ กูเกิลซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดโลกมากถึง 93% ก็เป็นห้องทดลองที่ดีที่สุดสำหรับการศึกษา AI เนื่องจากมีมิติทางเศรษฐกิจขนาดมหึมาอยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจาก AI อื่น ๆ ที่ความเสี่ยง (และผลกำไรทางเศรษฐกิจ) ยังมีความไม่แน่นอน

ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต กำลังสร้างโครงข่ายประสาทเทียมแบบยิงกระตุ้น (SNN) ที่สามารถ "พิเคราะห์" ได้แตกต่างจากมนุษย์ โดยปราศจากอคติจากอารมณ์หรือ "ความผิดปกติ" แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยเหลือผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและตลาดศิลปะ รวมถึงสถาบันศิลปะ นักสะสม และผู้รักงานศิลปะ

ดังนั้น นอกเหนือจากความสามารถทางเทคนิคและวิทยาศาสตร์แล้ว ข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ก็คือ ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ซึ่งบริษัทได้ผลิตและส่งมอบมาตลอด 25 ปีในฐานะผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดงานศิลปะ ความสามารถของเราไม่เพียงรับประกันความสอดคล้องและความเกี่ยวข้องกันของผลลัพธ์เมื่อผู้ใช้ค้นหาเท่านั้น แต่ยังเอาชนะปัญหาด้านลิขสิทธิ์จำนวนมากที่กล่าวถึงข้างต้น เนื่องจากข้อมูลของเราคือข้อมูลของเราอย่างแท้จริง

อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม เป็นผู้ให้บริการข้อมูลตลาดที่สำคัญที่สุดในตลาดงานศิลปะระดับโลก โดยฝ่ายอาร์ตไพรซ์มีฐานข้อมูลที่ครอบคลุมมากที่สุดเกี่ยวกับราคางานศิลปะและดัชนีตลาดงานศิลปะ ซึ่งประกอบด้วยดัชนีกว่า 30 ล้านรายการ และข้อมูลการซื้อขายผลงานของศิลปินกว่า 810,000 ราย

อาร์ตไพรซ์ อิเมเจส (Artprice Images(R)) เปิดโอกาสให้เข้าถึงคลังข้อมูลตลาดงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่จำกัด พร้อมด้วยคอลเลกชันเอกสารและแคตตาล็อกการประมูล ก่อเกิดเป็นห้องสมุดจริงและห้องสมุดดิจิทัลที่ประกอบด้วยภาพถ่าย (หรือภาพพิมพ์) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2243 จนถึงปัจจุบัน รวมมากกว่า 180 ล้านชิ้น ซึ่งทั้งหมดผ่านการตรวจสอบและได้รับความเห็นจากนักประวัติศาสตร์ศิลปะแล้ว ดังนั้น ในภาคส่วนเศรษฐกิจที่เฉพาะเจาะจงนี้ จึงไม่มีบริษัทใดในโลกที่มีข้อมูลคุณภาพและเป็นเอกสิทธิ์มากเท่านี้ โดยมีเอกสารต้นฉบับเป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญยิ่งและทรงคุณค่าอย่างยากที่จะหาใครเทียบได้

นอกจากนี้ อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ยังปรับปรุงฐานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ข้อมูลจากบริษัทประมูล 6,500 แห่ง รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดงานศิลปะให้แก่สื่อและเอเจนซี่ด้านสื่อทั่วโลกราว 7,200 แห่ง ซึ่งแหล่งข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและมีความต่อเนื่องไม่สิ้นสุดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจว่า อินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) จะนำหน้าคู่แข่งไปไกลอย่างแน่นอน

ปัจจุบัน มีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่สามารถกล่าวได้ว่าใช้ AI ที่เป็นเอกสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งถือเป็นวิธีเดียวในการปฏิบัติตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่แตกต่างกันในไปในแต่ละประเทศทั่วโลก ซึ่งนับวันจะยิ่งกว้างขวางและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ และมาพร้อมกับกระบวนการทางกฎหมายอันยุ่งยากที่กินเวลานานหลายปี

อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ได้ลงทะเบียนทดสอบเบตากับไมโครซอฟท์ (Microsoft(R)) เพื่อทดลองใช้งานเสิร์ชเอนจิ้น บิง (Bing(R)) ที่ใช้ AI ชื่อว่า จีพีที-4 (GPT-4) ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้ ต่างจากแชตจีพีที (ChatGPT) (แบบไม่รวมปลั๊กอิน) ที่มีฐานข้อมูลจำกัดถึงแค่ปี 2564 เท่านั้น

ความเป็นไปได้ที่นำเสนอโดยเครื่องมือนี้มีมากมายมหาศาล ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก โดยในขณะนี้ ไมโครซอฟท์ บิง แชต (Microsoft(R) Bing Chat) ดึงดูดผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนต่อวัน ที่สำคัญคือมาพร้อมกับพันธสัญญา "AI ที่มีความรับผิดชอบ" ด้วยการเคารพลิขสิทธิ์และสิทธิ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข้อเท็จจริงที่ว่าไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดรับสมาชิกแบบชำระเงิน 240 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับใช้งานเครื่องมือ AI ของบริษัท เป็นการยืนยันถึงความเป็นไปได้ของโมเดลเศรษฐกิจนี้สำหรับอาร์ตไพรซ์และอินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) ซึ่งเป็น AI ของบริษัทเอง

หลังจากทำการทดสอบเบตาด้วยการค้นหาข้อมูลหลายพันครั้งโดยใช้คำที่เกี่ยวข้องกับศิลปินและตลาดงานศิลปะ อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ได้สังเกตเห็นว่าคำตอบที่ได้รับจากจีพีที-4 ของบิงนั้น มักอ้างอิงลิงก์จากอาร์ตไพรซ์ดอตคอมและอาร์ตมาร์เก็ตดอตคอมเป็นแหล่งที่มาของข้อมูล ทั้งนี้ บิงของไมโครซอฟท์ทำงานร่วมกับโอเพนเอไอ (OpenAI) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ส่งเสริมการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ

เราได้เห็นกันแล้วว่า การพัฒนาและการใช้งาน "AI ที่มีความรับผิดชอบ" กำลังเป็นหนึ่งในข้อกังวลหลักของกลุ่มประเทศ G7 (ประกาศเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566) เช่นเดียวกับการบังคับใช้ "กฎระเบียบโลก" ว่าด้วย AI ภายในกรอบเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ในส่วนของกฎหมายลิขสิทธิ์เกี่ยวกับ AI นั้น คุณมาร์เกรเธ เวสทาเกอร์ (Margrethe Vestager) กรรมาธิการด้านการแข่งขันของสหภาพยุโรป กล่าวว่า สหภาพยุโรป "ควรบรรลุข้อตกลงทางการเมืองโดยเร็วที่สุดภายในปีนี้" (สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566) ซึ่งถือว่าเป็นผลดีอย่างมากต่ออาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม

นอกจากนี้ เรายังได้เห็นปฏิกิริยาของรัฐบาลอิตาลีที่มีต่อแชตจีพีที ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเข้มงวดในอิตาลี โดยแสดงให้เห็นถึงอุปสรรคอีกประการหนึ่งที่นักพัฒนา AI ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะมีอำนาจทางการเงินหรือความสามารถในการล็อบบีมากแค่ไหนก็ตาม

ความจริงแล้ว ในโลกของ AI นั้น ความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินทางปัญญามีโอกาสเกิดขึ้นสูงมาก ยกตัวอย่างเช่น สเตบิลิตี เอไอ (Stability AI) ผู้สร้างปัญญาประดิษฐ์สังเคราะห์ภาพจากการป้อนข้อความ ซึ่งกำลังถูกฟ้องร้องข้อหาดึงภาพหลายล้านภาพจากฐานข้อมูลของเกตตี อิเมเจส (Getty Images) ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

อย่างไรก็ดี AI ของอาร์ตมาร์เก็ต นั่นคือ อินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) ทำงานเฉพาะในขอบเขตของคอนเทนต์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเท่านั้น ดังนั้นจึงได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยคอนเทนต์ที่เป็นกรรมสิทธิ์เหล่านี้เป็นเหมืองข้อมูลที่แทบจะไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งสร้างขึ้นตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา และครอบคลุมกิจกรรมในตลาดศิลปะมากกว่า 4 ศตวรรษ ผลที่ได้คืออุปสรรคที่กล่าวถึงข้างต้นและข้อห้ามที่อาจเกิดขึ้นไม่อาจทำอะไรเราได้ เพราะเราไม่จำเป็นต้องค้นหาข้อมูลหรือคำตอบจากที่อื่น เมื่อคนทำงานหรือคนรักงานศิลปะและ/หรือตลาดศิลปะ ทำการค้นหาข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงอย่างมาก

ดังนั้น ข้อเท็จจริงนี้จึงไม่ใช่แค่รับประกันความยั่งยืนของโมเดลเศรษฐกิจของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ตเท่านั้น แต่ยังรับประกันความอุ่นใจของผู้ถือหุ้นของเรา และรับประกันการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตของธุรกิจของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม ด้วยผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การใช้เทคโนโลยี AI จะช่วยเพิ่มรายได้ของอาร์ตมาร์เก็ตดอตคอมและลดต้นทุนการดำเนินงานในท้ายที่สุด โดยอินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) จะให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องและเฉพาะเจาะจงอย่างแท้จริงสำหรับลูกค้าแต่ละรายในตลาดศิลปะ ช่วยให้สามารถเพิ่มพูนความรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับตลาดงานศิลปะ และโดยพฤตินัยแล้ว จะทำให้เกิดการสมัครรับข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอมมีรายรับที่เกิดขึ้นซ้ำต่อปีเพิ่มมากขึ้น

อินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) จะให้คำตอบอย่างแม่นยำและรวดเร็วเมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูล จึงช่วยประหยัดเวลาและลดการใช้พลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของอาร์ตมาร์เก็ต โดยโซลูชันด้านพลังงานที่เชื่อถือได้ อ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ และมีความยั่งยืนของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ตนั้น ได้แสดงผลสำเร็จให้เป็นที่ประจักษ์แล้วในรายงานความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของเรา ซึ่งเป็นสักขีพยานถึงผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลที่มีต่อระบบนิเวศ

ยุโรปเป็นผู้นำด้านกฎหมายดิจิทัล และกำลังร่าง "กฎหมายปัญญาประดิษฐ์" ซึ่งอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต กำลังมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าวด้วยการทำงานร่วมกับนักกฎหมายและที่ปรึกษา โดยกฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายในการกำหนดข้อบังคับโดยคำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ลิขสิทธิ์ และการอ้างอิงแหล่งที่มาอย่างละเอียดถี่ถ้วน

บรรดานักวิเคราะห์การเงินชาวแองโกล-แซกซอน (Anglo-Saxon) ซึ่งนำหน้ายุโรปในด้านนี้อยู่หนึ่งก้าว ระบุว่า โมเดลเศรษฐกิจเพียงรูปแบบเดียวที่ไม่ทำให้หน่วยเศรษฐกิจ (ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่) ต้องวุ่นวายอยู่กับกระบวนการทางกฎหมายแบบไม่จบไม่สิ้น คือโมเดลเศรษฐกิจอิง AI ซึ่งข้อมูลมีบทบาทสำคัญ และแต่ละหน่วยเศรษฐกิจครอบครองทรัพย์สินทางปัญญาเต็มรูปแบบในส่วนบิ๊กดาต้าทั้งหมด (รวมถึงการทำเหมืองข้อมูล) และสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนั้นในทุกอัลกอริทึม ฐานข้อมูล แมชชีนเลิร์นนิง และโครงข่ายประสาทเทียม

กล่าวโดยสรุปคือ AI จะมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลโดยไม่มีความเสี่ยงทางอุตสาหกรรมหรือกฎหมายที่น่าหนักใจ เมื่อหน่วยเศรษฐกิจเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเต็มรูปแบบในทุกขั้นตอนของ AI ในตลาดที่ข้อมูลมูลค่าเพิ่มที่มีต้นทุนสูงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับอินทูอิทีฟ อาร์ตมาร์เก็ต(R) ที่พัฒนาโดยอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม

ปัจจุบัน นักวิจัยจำนวนมากกำลังพยายามค้นหาว่า AI มีต้นกำเนิดมาจากไหน

ในบรรดาคำตอบที่เป็นไปได้มากมายสำหรับข้อสงสัยนี้ อาร์ตไพรซ์รู้สึกทึ่งกับบทความหนึ่งที่ปรากฏบนเว็บไซต์ "เดอะ คอนเวอร์เซชัน" (The Conversation) ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมบทความที่มีความเข้มข้นทางวิชาการและความสามารถในการเขียน โดยบทความดังกล่าวมีชื่อว่า "เบลส ปาสคาล และจุดเริ่มต้นของปัญญาประดิษฐ์" (Blaise Pascal and the beginnings of artificial intelligence) ซึ่งให้คำตอบที่สมเหตุสมผลว่า เบลส ปาสคาล (พ.ศ. 2166-2205) เป็นผู้คิดค้นสองนวัตกรรมสำคัญที่ทำให้ปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันเป็นความจริงขึ้นมาได้ โดยเขาได้พัฒนาเครื่องคิดเลขเชิงกลเครื่องแรกในประวัติศาสตร์ และเขาได้พัฒนาพื้นฐานแรกของการคำนวณความน่าจะเป็น

คุณเธียร์รี เออร์มันน์ (ดูชีวประวัติได้ที่ Who's Who In France: https://imgpublic.artprice.com/img/wp/sites/11/2023/04/2023_2_Biographie-thierry-Ehrmann_WhosWhoInFrance.pdf) ผู้ก่อตั้งอาร์ตไพรซ์และซีอีโอของอาร์ตมาร์เก็ต เปิดเผยแนวคิดเกี่ยวกับ AI ที่เรียบง่ายมาก นั่นคือ "ไม่มีปัญญาประดิษฐ์ หากปราศจากปัญญาของมนุษย์"

รูปภาพ: https://imgpublic.artprice.com/img/wp/sites/11/2023/05/AbodeofChaos-thierry-Ehrmann-IMG-3606.jpg 

สงวนลิขสิทธิ์ 2530-256 6 เธียร์รี เออร์มันน์ www.artprice.com - www.artmarket.com

  • อย่าลังเลที่จะติดต่อฝ่ายเศรษฐมิติของเรา เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสถิติและการศึกษาวิจัยส่วนตัว: [email protected] 
  • ทดลองบริการของเรา (ฟรี): https://www.artprice.com/demo 
  • สมัครสมาชิกบริการของเรา: https://www.artprice.com/subscription 

เกี่ยวกับอาร์ตมาร์เก็ต

อาร์ตมาร์เก็ตดอตคอม ( Artmarket.com) มีชื่ออยู่ใน Eurolist โดย Euronext Paris, SRD long only และ Euroclear: 7478 - Bloomberg: PRC - Reuters: ARTF

สำรวจอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ผ่านวิดีโอ: www.artprice.com/video 

อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 โดยซีอีโอ เธียร์รี เออร์มันน์ อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ได้รับการกำกับดูแลโดยกรุ๊ป เซอร์เวอร์ (Groupe Serveur) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2530

ดูชีวประวัติที่ผ่านการรับรองใน Who's who(C): 
Biographie-thierry-Ehrmann_WhosWhoInFrance.pdf 

อาร์ตมาร์เก็ตเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดงานศิลปะ โดยหนึ่งในโครงสร้างขององค์กรคือฝ่ายอาร์ตไพรซ์ ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการสะสม การจัดการ และการแสวงหาประโยชน์จากข้อมูลตลาดงานศิลปะทั้งในประวัติศาสตร์และปัจจุบันในคลังข้อมูลที่ประกอบด้วยดัชนีและผลการประมูลกว่า 30 ล้านรายการ ครอบคลุมศิลปินกว่า 803,000 ราย

อาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตลาดงานศิลปะ ตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานให้ตัวเองผ่านตลาดที่เป็นมาตรฐานระดับโลก เพื่อที่จะเป็นแพลตฟอร์ม NFT งานวิจิตรศิลป์ชั้นนำของโลก

อาร์ตไพรซ์ อิเมเจส (Artprice Images(R)) ช่วยให้เข้าถึงคลังภาพตลาดงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีภาพดิจิทัลไม่น้อยกว่า 180 ล้านรายการจากภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์จากผลงานศิลปะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2243 จนถึงปัจจุบัน พร้อมความเห็นจากนักประวัติศาสตร์งานศิลปะของเรา

อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์สะสมข้อมูลถาวรจากบริษัทประมูล 7,200 แห่ง และสร้างข้อมูลตลาดงานศิลปะที่สำคัญสำหรับสื่อและเอเจนซี่ด้านสื่อมากมาย (สิ่งพิมพ์เผยแพร่ 7,200 ชิ้น) โดยผู้ใช้ 7.2 ล้านราย (สมาชิกเข้าสู่ระบบ + โซเชียลมีเดีย) เข้าถึงโฆษณาที่โพสต์โดยสมาชิกอื่น ๆ เกิดเป็นเครือข่ายที่ปัจจุบันนับเป็นตลาดมาตรฐานระดับโลก Global Standardized Marketplace(R) ในการซื้อและขายงานศิลปะด้วยราคาคงที่หรือราคาประมูล (กำกับดูแลการประมูลตามวรรคที่ 2 และ 3 ของมาตรา L 321.3 ของประมวลกฎหมายแพ่งแห่งฝรั่งเศส)

อาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ได้รับรางวัล "บริษัทแห่งนวัตกรรม" โดยธนาคารเพื่อการลงทุนภาครัฐของฝรั่งเศสถึงสองครั้ง ซึ่งเป็นรางวัลที่สนับสนุนบริษัทที่ดำเนินโครงการเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดงานศิลปะ

รายงานตลาดงานศิลปะโลกของอาร์ตไพรซ์ บาย อาร์ตมาร์เก็ต "ตลาดงานศิลปะในปี 2565" เผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2566: 
https://www.artprice.com/artprice-reports/the-art-market-in-2022 

อาร์ตไพรซ์เผยแพร่รายงานตลาดงานศิลปะร่วมสมัยพิเศษปี 2565:
https://www.artprice.com/artprice-reports/the-contemporary-art-market-report-2022 

รายงานครึ่งปี 2565 ของอาร์ตไพรซ์: ตลาดงานศิลป์ทางฝั่งตะวันตกกลับมาเติบโตดีอีกครั้ง:
https://www.artprice.com/artprice-reports/global-art-market-in-h1-2022-by-artprice-com 

ดัชนีข่าวประชาสัมพันธ์ที่โพสต์โดยอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์:
https://serveur.serveur.com/artmarket/press-release/en/ 

ติดตามข่าวสารตลาดงานศิลปะทั้งหมดแบบเรียลไทม์กับอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์:

www.facebook.com/artpricedotcom/ (ผู้ติดตามมากกว่า 6.2 ล้านคน)

twitter.com/artmarketdotcom 

twitter.com/artpricedotcom

สำรวจการเล่นแร่แปรธาตุและจักรวาลของอาร์ตมาร์เก็ตและฝ่ายอาร์ตไพรซ์ได้ที่ https://www.artprice.com/video ทั้งนี้ อาร์ตมาร์เก็ตมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยชื่อดัง Organe Contemporary Art Museum "The Abode of Chaos" (คำนิยมจากเดอะนิวยอร์กไทมส์): https://issuu.com/demeureduchaos/docs/demeureduchaos-abodeofchaos-opus-ix-1999-2013 

  • L'Obs - The Museum of the Future: https://youtu.be/29LXBPJrs-o
  • www.facebook.com/la.demeure.du.chaos.theabodeofchaos999 (ผู้ติดตามมากกว่า 4 ล้านคน)
  • https://vimeo.com/124643720 

ติดต่ออาร์ตมาร์เก็ตดอตคอมและฝ่ายอาร์ตไพรซ์: เธียร์รี เออร์มันน์ อีเมล: [email protected] 

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1009603/Art_Market_logo.jpg 


ข่าวปัญญาประดิษฐ์+อาร์ตมาร์เก็ตวันนี้

HPE จับมือ NVIDIA เดินหน้ายกระดับการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านนวัตกรรม "AI Factory" ที่ปลอดภัย

โซลูชันใหม่สำหรับเมืองอัจฉริยะ (Smart City), AI ส่วนตัว และกระบวนการนำส่งข้อมูล (Data pipelines) ช่วยรับมือกับความท้าทายที่สำคัญของ AI ในด้านอธิปไตยของข้อมูล (Data Sovereignty), ความปลอดภัย, ไซโลข้อมูล และกลยุทธ์ที่มีการจำแนกแยกย่อย NVIDIA GTC DC 2025 HPE (NYSE: HPE) ได้ประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ NVIDIA AI Computing by HPE ที่ได้รับการเพิ่มขอบเขตการทำงานเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้งาน และครอบคลุมทั้งงานส่วนของภาครัฐ อุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนกับ 2 กองทุน RMF "KT-Technology RMF และ KT-GESG RMF" IPO 28 ต.ค.-5 พ.ย. นี้ — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลั...

ความสะดวกรวดเร็วของ AI มาพร้อมกับความเสี่... เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) แนะแนวทางธรรมาภิบาลในยุค AI ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด — ความสะดวกรวดเร็วของ AI มาพร้อมกับความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น และความจำเป...

สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ ... BDI ปลุกพลังผู้ประกอบการไทยใช้ Big Data และ AI ขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่านโครงการ Connect the Dots 2025 — สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เดินหน้าเ...

OPPO แบรนด์อุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ... OPPO โชว์ศักยภาพของ AI บนอุปกรณ์ชั้นนำของอุตสาหกรรม ในงาน Snapdragon Summit 2025 — OPPO แบรนด์อุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ได้เปิดเผยความก้าวหน้าครั้งสำค...