เคแบงก์ เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกเงินที่สร้างความเสียหายกับประชาชนกว่า 31,000 ล้านบาท เร่งให้ความรู้และวางมาตรการป้องกันผ่านแคมเปญ #อัปเดตสติป้องกันสตางค์

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เคแบงก์ เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกเงินที่สร้างความเสียหายกับประชาชนกว่า 31,000 ล้านบาท เร่งให้ความรู้และวางมาตรการป้องกันภัยคุกคามทางการเงิน ผ่านแคมเปญ #อัปเดตสติป้องกันสตางค์ พร้อมเชิญชวนประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นแนวร่วมเผยแพร่ข้อมูล ช่วยสร้างสังคมรู้ทันภัยมิจฉาชีพหลอกเอาเงินที่ใช้วิธีแนบเนียนมากยิ่งขึ้น ออกคลิป เตือนภัย 3 กลโกงที่ยังมีเหยื่อโดนหลอกต่อเนื่อง พลาดท่าเสียทั้งเงิน และมีคดีติดตัว ได้แก่ (1) มิจฉาชีพหลอกให้โหลดแอปพลิเคชันดูดเงิน (2) มิจฉาชีพหลอกเป็นนายหน้าเงินกู้ (3) มิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชีม้า พร้อมจัดทำสื่อ #สารานุโกง อัปเดตกลโกงใหม่ๆ ของมิจฉาชีพ บนเว็บไซต์ https://kbank.co/41NmBTW ให้หน่วยงานต่างๆ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี!

เคแบงก์ เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกเงินที่สร้างความเสียหายกับประชาชนกว่า 31,000 ล้านบาท เร่งให้ความรู้และวางมาตรการป้องกันผ่านแคมเปญ #อัปเดตสติป้องกันสตางค์

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า "จากสถานการณ์หลอกลวงเอาเงินจากผู้ตกเป็นเหยื่อด้วยวิธีของมิจฉาชีพที่แนบเนียนขึ้น และมีเทคนิคที่หลากหลาย ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้เสียหายจากการตกเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายจากกลโกงของมิจฉาชีพที่กำลังระบาดหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติการแจ้งความออนไลน์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ถึง เดือนมีนาคม 2566 มีมูลค่าความเสียหายโดยรวมทั่วประเทศกว่า 31,000 ล้านบาท เช่น การหลอกทางโทรศัพท์และการหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน มีความเสียหายสูงถึง 3,600 ล้านบาท การหลอกให้กู้เงิน เสียหายกว่า 1,100 ล้านบาท และมีจำนวนเงินที่ขออายัดจากบัญชีม้า กว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเล็งเห็นว่าการป้องกันภัยคุกคามทางการเงินเป็นวาระสำคัญของชาติที่ต้องร่วมมือกันในทุกภาคส่วน โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือ "คน" มิจฉาชีพอาศัยจุดอ่อนของคนที่มีความกลัว ความอยากได้ และความไม่รู้ หลอกลวงประชาชนโดยใช้วิธีต่าง ๆ และมีมุกกลโกงใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ธนาคารจึงได้จัดทำแคมเปญ #อัปเดตสติป้องกันสตางค์ เพื่อให้ความรู้กับลูกค้าและบุคคลทั่วไป และอยากเชิญชวนทุกคนมาให้ความรู้กับสังคมร่วมกัน เพื่อสร้างเกราะป้องกันภัยคุกคามทางการเงินให้กับประชาชน" เคแบงก์ เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกเงินที่สร้างความเสียหายกับประชาชนกว่า 31,000 ล้านบาท เร่งให้ความรู้และวางมาตรการป้องกันผ่านแคมเปญ #อัปเดตสติป้องกันสตางค์

ทั้งนี้ แคมเปญ #อัปเดตสติป้องกันสตางค์ เป็นแคมเปญต่อเนื่องจากแคมเปญ #ใช้สติป้องกันสตางค์ ที่ธนาคารกสิกรไทย ริเริ่มตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เพื่อรณรงค์ให้ข้อมูลและความรู้กับประชาชนถึงภัยกลโกงของมิจฉาชีพ ในปีนี้ธนาคารเดินหน้าต่อออกคลิปเตือนภัย 3 กลโกงที่มีเหยื่อโดนหลอกอย่างต่อเนื่อง พลาดท่าเสียทั้งเงิน และมีคดีติดตัว ได้แก่ (1) มิจฉาชีพหลอกให้โหลดแอปพลิเคชันดูดเงิน (2) มิจฉาชีพหลอกว่าเป็นนายหน้าเงินกู้ และ (3) มิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชีม้า เห็นได้ว่ากรณีเหล่านี้ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายมาก ซึ่งหลายคนอาจจะเคยประสบด้วยตัวเอง คนใกล้ตัว หรือได้ยินจากข่าว แต่ก็มีผู้ตกเป็นเหยื่ออยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยเทคนิคกลโกงของมิจฉาชีพมีวิธีพูดโน้มน้าวใจให้คนเชื่อ หากคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวมาก่อน อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะช่วยกันเตือนคนใกล้ตัว พนักงาน ญาติพี่น้อง ให้รู้เท่าทันภัยเหล่านี้ และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ธนาคารกสิกรไทย จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้และเตือนภัยเหล่านี้ และธนาคารยินดีที่จะมอบสื่อต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นด้วยความปรารถนาดีให้กับหน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน ที่สนใจ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อให้ความรู้กับพนักงานหรือประชาชนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถดาวน์โหลดคลิป #อัปเดตสติป้องกันสตางค์ และสื่อ #สารานุโกง ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลกลโกงของมิจฉาชีพล่าสุดพร้อมวิธีป้องกันได้ที่ https://kbank.co/41NmBTW


ข่าวo:editor+เคแบงก์วันนี้

แสนสิริ จับมือ Whoscall "รู้ทันมิจ ชีวิตปลอดภัย" มอบโค้ดป้องกันภัยไซเบอร์ มูลค่ากว่า 7 ลบ. ให้ลูกบ้านและชุมชน พร้อมสร้าง "คอมมูนิตี้ปลอดภัย" อย่างแท้จริง

ชลีรัตน์ ต่อจรัส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และพาร์ทเนอร์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "แสนสิริให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายมาโดยตลอด โดยเฉพาะ 'ความปลอดภัย' ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตในระยะยาว ความร่วมมือกับ Whoscall คือ การต่อยอดภารกิจด้านความปลอดภัย ให้ครอบคลุมภัยใกล้ตัวในโลกดิจิทัลที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ผ่านเพียงหน้าจอมือถือ เพราะเราเชื่อว่า 'คอมมูนิตี้ที่น่าอยู่' เริ่มต้นจากความอุ่นใจที่มั่นคงในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เรื่องของ 'ที่อยู่อาศัย' แต่คือ 'คุณภาพชีวิตที่ดี