บลจ.กสิกรไทย เดินเกมรุกตั้งเป้าโต 1.55 ล้านล้าน ชูกลยุทธ์สู่แบรนด์กองทุนอันดับ 1 ในใจผู้ลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายปี 66 เติบโตไปอยู่ที่ 1.55 ล้านล้านบาท พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์มุ่งสู่การเป็นธุรกิจที่ครองใจลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ภายใต้แนวคิด Top of Mind Investment House ควบคู่กับการบูรณาการด้าน ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แนะผู้ลงทุนก้าวข้ามความผันผวนชวนกระจายลงทุนตามเทรนด์โลก

บลจ.กสิกรไทย เดินเกมรุกตั้งเป้าโต 1.55 ล้านล้าน ชูกลยุทธ์สู่แบรนด์กองทุนอันดับ 1 ในใจผู้ลงทุน

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมผู้บริหารของบลจ.กสิกรไทย ร่วมแถลงแผนกลยุทธ์ปี 2566 มุ่งสู่การเป็นธุรกิจที่ครองใจลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ภายใต้แนวคิด Top of Mind Investment House ควบคู่กับการบูรณาการด้าน ESG เพื่อช่วยยกระดับตลาดทุนไทย และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมีความมั่งคั่งจากการลงทุนในกองทุนรวม อีกทั้งยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายปี 2566 เติบโตไปอยู่ที่ 1.55 ล้านล้านบาท

นายอดิศรกล่าวต่อไปว่า แผนกลยุทธ์ปี 2566 ของบลจ.กสิกรไทย ได้ให้ความสำคัญใน 5 ด้าน โดยเริ่มต้นจาก 1) มุ่งสร้างผลตอบแทน ด้วยการต่อยอดและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ 2) สร้างความน่าเชื่อถือ ผ่านการให้คำแนะนำที่เหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์อย่างตรงไปตรงมา 3) ดูแลคู่ค้าอย่างเข้าใจ พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ตามโจทย์ของคู่ค้าแต่ละราย เพื่อนำไปเสนอขายให้ตรงใจผู้ลงทุน 4) บริหารพอร์ตให้กับผู้ลงทุนสถาบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์และสภาพคล่องให้กับลูกค้าผู้ลงทุนสถาบัน และ 5) ตัวช่วยวางแผนเกษียณ นำเสนอตัวเลือกที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายเกษียณให้แก่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งนี้ กลยุทธ์ดังกล่าวจะทำควบคู่กับการบูรณาการด้าน ESG และครอบคลุมลูกค้าทั้ง 3 ธุรกิจ ทั้งธุรกิจกองทุนรวม ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล และธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมถึงตัวแทนผู้จัดจำหน่าย ซึ่งเป็นคู่ค้าที่สำคัญของบลจ.กสิกรไทย

"สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยังมีแนวโน้มที่จะชะลอตัว ตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีความผันผวนสูง ในขณะที่ตลาดได้สะท้อนความคาดหวังต่อสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงไปแล้ว ทำให้ในระยะถัดไปคาดว่าจะเริ่มเห็นโอกาสการกลับมาของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียนำโดยประเทศจีน ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าฝั่งสหรัฐฯและยุโรป อันมีปัจจัยสนับสนุนจากการทยอยเปิดประเทศ การบริโภคจำนวนมหาศาล และความก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ส่วนประเทศเวียดนามยังคงมีความน่าสนใจจากระดับการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) และปัจจัยภายในประเทศทั้งการบริโภค การส่งออก และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ อีกทั้งในระยะยาว เวียดนามยังมีโอกาสที่จะได้รับการปรับสถานะจากตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market) เป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งจะทำให้มีฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาได้อีกมาก

สำหรับประเทศไทยมีทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกมากขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม และเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติ โดยมองเป้าหมายดัชนีปลายปีอยู่ที่ระดับ 1800 จุด ด้านตลาดตราสารหนี้ไทยปัจจุบันได้สะท้อนถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตที่ระดับประมาณ 2.00-2.25% แล้ว มองว่าการลงทุนในตราสารหนี้ไทยยังมีความน่าสนใจและอยู่ในระดับที่สามารถเข้าลงทุนได้" นายอดิศรกล่าว

จากสภาวะตลาดปัจจุบันที่ยังสะท้อนความน่าสนใจของตลาดตราสารหนี้ ในขณะที่เริ่มเห็นทิศทางการกลับมาของตลาดหุ้นทั่วโลก บลจ.กสิกรไทย จึงอยากแนะนำให้ผู้ลงทุนใช้หลักกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงสินทรัพย์เดียว และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด โดยลงทุนผ่านกองทุนผสม ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายที่เน้นกระจายการลงทุน ได้แก่ K-GINCOME, K-PLAN2, K-PLAN3 สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนเป็นรายกองเพื่อเพิ่มสัดส่วนให้กับพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเอง ก็สามารถลงทุนในกองทุนที่สอดรับกับมุมมองข้างต้นได้เช่นกัน ซึ่งประกอบไปด้วย กองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ K-CHANGE, K-CHINA กองทุนหุ้นไทย ได้แก่ K-STAR กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ K-SF ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนผ่านการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Average : DCA) ผ่าน App K-My Funds เพื่อเป็นการฝึกวินัยทางการเงินและส่งเสริมให้เกิดความมั่งคั่งในอนาคต

นายอดิศรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย มีจำนวนผู้ลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัลทั้ง K-PLUS และ K-My Funds เป็นจำนวน 357,086 ราย คิดเป็นสัดส่วน 43% จากจำนวนผู้ลงทุนทั้งหมด และสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ในทุกช่องทางรวมเป็นจำนวน 136,842 ราย ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 1.41 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวม 9.93 แสนล้านบาท ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2.34 แสนล้านบาท และธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล 1.88 แสนล้านบาท โดยยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม (ข้อมูลจาก บลจ.กสิกรไทย ณ 31 ธ.ค. 65)


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุน TEMxCH เป็น 2,000 ล้านบาท ชี้ลูกค้ายังต้องการลงทุนเพิ่ม รับภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เริ่มชัด

บลจ.ทิสโก้ประกาศเพิ่มทุน กองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า (TEMxCH) เป็นจำนวนเงินทุนโครงการทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท เพราะลูกค้ายังต้องการลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว ประกอบกับการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เริ่มชัดเจน นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ได้ประกาศเพิ่มจำนวนเงินทุน

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM แนะนำโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือเงินฝากในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ผ่านกองทุน "KTSV" — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไท...

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM แนะกระจายสินทรัพย์รับมือเศรษฐกิจผันผวน ผ่านกลุ่มกองทุนผสม "KTWC Series" — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย ...

จัดใหญ่ รับ Fund Back มูลค่าสูงสุด 5,000 ... SCBAM ส่งแคมเปญเสริมแกร่งพอร์ตเกษียณ — จัดใหญ่ รับ Fund Back มูลค่าสูงสุด 5,000 บาท(*) สำหรับผู้ที่โอนย้ายกองทุน RMF มาที่ SCBAM ตั้งแต่วันนี้ 30 ก.ย. 68...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็กซ์สปร... XAM ร่วมเวที Hubbis Wealth Management Forum 2025 ชูแนวคิด Investment Advisory ยุคใหม่ — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็กซ์สปริง จำกัด (XSpring Asset M...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำก... บลจ.กสิกรไทย เปิดคลาส "กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง"หลักประกันใหม่ที่แรงงานไทยควรรู้ — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ร่วมกับกรมสวัส...