ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) ของบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE ที่ 'A-' (หรืออยู่ในระดับ "แข็งแกร่ง") แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
การประกาศคงอันดับเครดิตของ THRE สะท้อนถึงโครงสร้างบริษัทประกันภัยที่ยังแข็งแรง (Favorable Company Profile) ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง และระดับความเสี่ยงทางด้านการลงทุนและสภาพคล่องที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้การจัดอันดับในครั้งได้พิจารณาถึงผลประกอบการที่ค่อนข้างอ่อนแอในปี 2565 เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส และการคาดการณ์ของฟิทช์ว่ารายได้ของบริษัทจะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2566 เป็นต้นไป
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง: THRE มีระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมาย (Risk-based capital ratio) ณ สิ้นเดือน กันยายน 2565 ที่ปรับดีขึ้นอยู่ที่ 334% จาก 275% ณ สิ้นปี 2564 และสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 140% ทั้งนี้จากการประมาณการของฟิทช์ระดับเงินกองทุนของบริษัทซึ่งประเมินจากแบบจำลอง Prism Factor-Based Capital Model (Prism FBM) ของฟิทช์นั้นอยู่ในระดับ "แข็งแกร่งมากที่สุด" ('Extremely Strong') ในปี 2565 ถึงแม้ว่าผลประกอบการของบริษัทยังคงอ่อนแอ เนื่องจากค่าสินไหมทดแทนของเบี้ยประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับประกันโควิท-19 ที่สูงจากการแพร่ระบาดใหญ่ในช่วงต้นปี 2565 อย่างไรก็ตามอัตราส่วนเบี้ยประกันภัยรับสุทธิต่อส่วนทุน ยังคงอยู่ในระดับที่ประมาณ 1 เท่า ณ สิ้นเดือน กันยายนน 2565 ซึ่งยังคงอยู่ระดับที่ยอมรับได้สำหรับช่วงอันดับเครดิต ณ ระดับปัจจุบันของบริษัท
อัตรากำไรที่ฟื้นตัวในปี 2566: ฟิทช์คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะปรับตัวขึ้นมามีเสถียรภาพมากขึ้นในปี 2566 เนื่องจากกรมธรรม์ประกันโควิด-19 ที่จะสิ้นสุดลง และสภาวะตลาดที่แข็งตัวขึ้น (Hard Market) ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Combined Ratio) ของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 97%-102% ในปี 2566 จากประมาณ 112% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 โดยค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2562-2564 เท่ากับ 107%
ฟิทช์คาดว่า THRE จะมีเกณฑ์และเงื่อนไขการรับประกันภัยที่รัดกุมมากขึ้น และปรับปรุงการบริหารการใช้การประกันภัยต่อช่วงเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้อัตราการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นและจำกัดอัตราการขาดทุน ทั้งนี้ฟิทช์คาดว่าอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) จะฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 4-6% (mid-single digit) โดยไม่รวมผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเสนอขายหุ้นของบริษัทลูกแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนอันดับเครดิต ณ ระดับปัจจุบันของบริษัท
โครงสร้างบริษัทที่แข็งแรง: ฟิทช์ประเมินโครงสร้างบริษัทของ THRE อยู่ในระดับแข็งแรง เนื่องจากบริษัทมีโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีบรรษัทภิบาลที่ดี เมื่อเทียบกับบริษัทประกันภัยอื่นภายในประเทศไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่ THRE เป็นบริษัทประกันภัยต่อรายเดียวในประเทศและมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่มั่นคงที่ระดับ 30%-40% ของเบี้ยประกันภัยต่อภายในประเทศ และมีประเภทผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมทั้งความสามารถในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้ความแข็งแกร่งของโครงสร้างธุรกิจได้ถูกลดทอนลงไปบ้างด้วยขนาดของธุรกิจที่ค่อนข้างเล็กสำหรับธุรกิจประกันต่อและผลประกอบการที่ผันผวน ดังนั้นฟิทช์จึงให้อันดับคะแนนด้านโครงสร้างบริษัทที่ระดับ 'a-' ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาปัจจัยเครดิตของฟิทช์ (credit factor scoring guideline)
กลยุทธ์การลงทุนที่ระมัดระวังและการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง:บริษัทมีกลยุทธ์การลงทุนและบริหารสินทรัพย์ที่ระมัดระวัง โดยสัดส่วนการลงทุนมากกว่า 75% อยู่ในเงินฝากและตราสารหนี้ โดยบริษัทมีอัตราส่วนสินทรัพย์เสี่ยง (risky asset ratio) อยู่ที่ระดับ 41% ณ สิ้นเดือน กันยายน 2565 ซึ่งจะอยู่ในช่วงอันดับเครดิตที่ 'A' - 'AA'
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าบริษัทมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของบริษัท ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของบริษัทก็ตาม
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ ESG หาได้จาก https://www.fitchratings.com/esg
บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE ผู้ให้บริการด้านการรับประกันภัยต่อ (Professional Reinsurer) ครอบคลุมทั้งการรับประกันภัยทรัพย์สิน อุบัติเหตุ วิศวกรรม ภัยทางทะเลและการขนส่งสินค้า ภายในประเทศและต่างประเทศ จัดงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 โดยมีนายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานกรรมการ (ที่ 4 จากซ้าย), นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช ประธานกรรมการตรวจสอบ (ที่ 3 จากขวา) และนายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ
THRE ผลงานปี 67 ท็อปฟอร์ม กำไรสุทธิ 245 ลบ. ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยงพอร์ต ส่งซิกปี 68 แนวโน้มธุรกิจเติบโตสดใสต่อเนื่อง พร้อมจ่ายเงินปันผล
—
THRE โชว์ผลงานปี ...
THRE ปักธงปีนี้กำไรพุ่งโตต่อเนื่อง-เบี้ยรับสุทธิโต 20% เกินเป้า โชว์ผลงาน 3Q23 แกร่ง กำไรสุทธิพุ่งแรง 355%
—
THRE ปักธงปิดปี 2566 ทั้งรายได้และกำไรเติบโตแ...
THRE โชว์งบไตรมาส 2/66 กำไรพุ่ง 425% เข้าสู่ปีแห่งการเทิร์นอะราวด์
—
THRE โชว์ประกอบการไตรมาส 2/66 รายได้เบี้ยประกันภัยต่อรับสุทธิ 1,211 ล้านบาท กำไรสุทธิ...
THRE เปิดบ้านต้อนรับสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
—
บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE นำโดย นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ...
THRE รับกำไรขายหุ้น BVG 192 ล. อัพเป้ารายได้ใหม่ปี 66 โต 15-17%
—
THRE รับกำไรขายหุ้นไอพีโอ BVG บริษัทลูกเข้าตลาด mai 192 ล้านบาท อัพเป้ารายได้ใหม่ ปี 66 ...
THRE ส่องธุรกิจโค้งสุดท้ายปี 65 ดี ลุยตลาดอาเซียน - ดันบ.ลูก "BVG" เข้า mai ปีหน้า
—
THRE ส่องทิศทางธุรกิจโค้งสุดท้ายปี 65 ดี เติบโตสู่ภาวะปกติ หลังผ่านพ...
THRE ลั่นธุรกิจครึ่งปีหลังฟื้น เหตุพ้นวิกฤตโควิด ดันบริษัทย่อย "บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป" เข้า mai
—
THRE ส่องทิศทางธุรกิจครึ่งหลังปี 65 ดีกว่าครึ่งปีแรก เติบโต...