เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกร รมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) พร้อมคณะผู้บริหาร ได้แก่ นายกวิน กาญจนพาสน์, นายประดิษฐ์ ทีฆกุล, นายภาคภูมิ ศรีชำนิ ร่วมกับ Mr. Simon Li ผู้อำนวยการโครงการ สนามบินนานาชาติฮ่องกง ร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ระหว่าง "สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และสนามบินนานาชาติฮ่องกง" โดยมี Mr. Jack So ประธานกรรมการ สนามบินนานาชาติฮ่องกง พร้อมคณะผู้บริหารจากทั้งสององค์กร ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับสนามบินฮ่องกงในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ให้เป็นสนามบินที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพตามหลักสากล โดยทางสนามบินฮ่องกง จะทำการแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการ และเทคโนโลยีให้กับทาง UTA รวมถึงจะเป็นที่ปรึกษาให้กับโครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่ภายใต้ข้อตกลง MOU เพื่อให้ทาง UTA นำไปพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
Mr. Jack So ประธานกรรมการ สนามบินนานาชาติฮ่องกง ได้กล่าวว่า "รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญของประเทศไทย โดยยินดีแบ่งปัน ประสบการณ์ และความชำนาญในด้านการจัดการ รวมถึงการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ให้กับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาต่อไป"
สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญของ อีอีซี มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็น "สนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3" เพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดกว่า 60 ล้านคนต่อปี เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ในระยะสุดท้าย จะทำให้เกิดศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจเป้าหมาย โดยเฉพาะการเป็น "ศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ Logistics & Aviation" รวมถึงการเป็นศูนย์กลางของ "มหานครการบินภาคตะวันออก" สานต่อเจตนารมณ์การพัฒนาอีสเทิร์นซีบอร์ดที่ต้องการให้เกิดเป็นเมืองท่า และเมืองธุรกิจสำคัญของไทย โดยเข้าเชื่อมโยงเป็นส่วนขยายของกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปทางตะวันออก ที่สามารถเชื่อมโยงกันได้สะดวกทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางทางการบิน และประตูเศรษฐกิจสู่เอเชีย
เปิดตัวพันธมิตรที่พร้อมร่วมกันสร้างปรากฏการณ์การถ่ายทอดสดลีกฟุตบอลระดับโลกอย่างต่อเนื่อง สำหรับ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS หลังจากได้รับลิขสิทธิ์จาก The Football Association Premier League Limited (Premier League) ในการถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพอย่างเต็มรูปแบบ ครอบคลุมทั้งการถ่ายทอดสด รีรันและไฮไลท์ เป็นระยะเวลา 6 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2025/26 ถึง2030/31 ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชาและลาว ล่าสุด JAS และ Monomax ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์พิเศษ
สมาคมการค้าผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทยเดินหน้าเปิดศูนย์เรียนรู้มุ่งหน้าผลักดันไทย
—
สมาคมการค้าผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (eveat) นำโ...
ไบโอเทค-สวทช. และ ทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล ในเครือเชอร์วู้ด ร่วมมือวิจัยโครงการ "พัฒนากับดักราแมลงกำจัดปลวก" ทางเลือกใหม่ ลดใช้สารเคมีในครัวเรือน
—
ศูนย์พันธุว...
"JAS" คิกออฟความยิ่งใหญ่การถ่ายทอดสด "พรีเมียร์ลีก-เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ" ฤดูกาลใหม่ผ่านงาน "New Season New Home"
—
สุดทึ่ง!!! เปิดราคาแพ็กเกจ 299 บาทต่อเดื...
FTI เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เจาะตลาด "เครื่องทำน้ำอ่อน-เครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็น-ปั๊มน้ำ"
—
"ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล" เปิดตัว "เครื่องทำน้ำอ่อน-เครื่องท...
เปิดโลกผจญภัยของคนรักหมา! พบ 6 กิจกรรมสุดมันส์ที่ Dog Show 2025 เช็กอินความสนุก 26-29 มิ.ย. นี้ ณ ฮอลล์ 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
—
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วจ...
"ฮอนด้า วันเมคเรซ"2025 ลุ้นแชมป์เข้มข้น "เคนตะ-ธนาศิวณัฐ" แบ่งชัยชนะสนาม 2 "ประพจน์" เบิ้ลโพเดียมครองจ่าฝูงคะแนนสะสม
—
ศึกรถยนต์ทางเรียบแถวหน้าของไทย รายก...
"JAS" เสริมแกร่งผนึกพลัง "ลีโอ" เป็นผู้สนับสนุนหลักการถ่ายทอดสด "พรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ" พร้อมลุยกิจกรรมทั่วประเทศร่วมกับ "Monomax"
—
เดินหน้าเปิดตัวพันธมิ...
เบบี้เลิฟ เปิดตัว ผ้าอ้อมกันยุง ร่วมมือภาครัฐ รณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก ภัยใกล้ตัวที่อาจถึงขั้นเสียชีวิต โดยเฉพาะเด็กเล็ก
—
บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแน...