ทรินา โซลาร์ เล็งเห็นศักยภาพทางตลาดด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในอินโดนีเซีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ผู้ให้บริการโซลูชันเบ็ดเสร็จด้านพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานอัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เล็งเห็นว่าอินโดนีเซียมีศักยภาพอย่างมากในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งที่ดีที่สุดของพลังงานหมุนเวียนในการบรรลุเป้าหมายของประเทศ

ทรินา โซลาร์ เล็งเห็นศักยภาพทางตลาดด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในอินโดนีเซีย

รัฐบาลอินโดนีเซียได้ตั้งเป้าหมายในการมีพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วน 23% ของแหล่งพลังงานทั้งหมดภายในปี 2568 และ 31% ภายในปี 2593

ปัจจุบันพลังงานหมุนเวียนมีสัดส่วน 11-14% ในแหล่งพลังงานทั้งหมดของอินโดนีเซีย แต่ความท้าทายสำหรับอินโดนีเซียคือการทำให้มั่นใจว่าการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนไม่เพียงแต่สอดรับกับการเติบโตของการบริโภคพลังงานขณะที่ประชากรและเศรษฐกิจขยายตัวเท่านั้น แต่ยังต้องสูงกว่านั้นด้วย เพื่อให้อินโดนีเซียสามารถบรรลุเป้าหมายพลังงานหมุนเวียนของประเทศ

รายงานประเมินแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านพลังงานของอินโดนีเซีย (Indonesia Energy Transition Outlook) ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency หรือ IRENA) และกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ธาตุแห่งอินโดนีเซียเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน คาดการณ์ว่าประชากรของอินโดนีเซียจะเพิ่มเป็น 335 ล้านคนในช่วงสามทศวรรษข้างหน้านี้ พร้อมทั้งคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยห้าเท่าเป็น 1,700 เทระวัตต์ชั่วโมง (TWh) ภายในปี 2593

รายงานดังกล่าวยังแนะนำการขยายทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบันถ่านหินยังมีสัดส่วนเป็นกว่า 40% ของแหล่งพลังงานทั้งหมดของอินโดนีเซียและ 60% ของการผลิตกระแสไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน พลังงานแสงอาทิตย์ยังมีสัดส่วนน้อยกว่าไฟฟ้าพลังงานน้ำและพลังงานความร้อนใต้พิภพ

เช่นนี้ขัดกับกับแนวโน้มระดับโลก โดยสำนักงานพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศระบุว่า โลกในปี 2564 ได้เพิ่มพลังงานหมุนเวียนเกือบ 257 กิกะวัตต์ (GW) โดย 133 กิกะวัตต์มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่กำลังผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของอินโดนีเซียในปี 2564 เพิ่มขึ้น 14% เป็น 211 เมกะวัตต์ (MW) จาก 185 เมกะวัตต์ สำนักงานพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศระบุ ขณะนี้อินโดนีเซียอยู่ในอันดับเจ็ดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านพลังงานแสงอาทิตย์

กำลังผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ สิ้นสุดปี 2564

ประเทศกำลังผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ (MW)การเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
1เวียดนาม16,6000 %
2ไทย3,0492 %
3มาเลเซีย1,78720 %
4ฟิลิปปินส์1,37029 %
5สิงคโปร์43315 %
6กัมพูชา42836 %
7อินโดนีเซีย21114 %

ที่มา: สำนักงานพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ

คุณเอลวา หวาง (Elva Wang) หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของทรินา โซลาร์ กล่าวว่า "เพื่อให้อินโดนีเซียเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและบรรลุเป้าหมายของประเทศ อินโดนีเซียต้องเร่งการติดตั้งใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเนื่องจากมีอยู่พร้อมและสามารถติดตั้งใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นตลาดที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างมากในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ มีความต้องการอย่างใหญ่หลวงที่เราสามารถเติมเต็มได้ด้วยโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบหมุนตามตะวัน (tracker) และโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์แบบบูรณาการระดับแนวหน้าของตลาดของเรา"

โมดูลพลังงานแสงอาทิตย์สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็วบนหลังคาและพื้นที่ว่าง ทรินา โซลาร์ ให้บริการทุกส่วนของตลาด ทั้งในระดับที่พักอาศัย การพาณิชย์และอุตสาหกรรม (C&I) และสาธารณูปโภค พลังงานแสงอาทิตย์มอบอิสรภาพแก่ผู้อยู่อาศัยและธุรกิจพาณิชย์และอุตสาหกรรมในการบรรลุความต้องการด้านพลังงานของตน บรรเทาภาระจากราคาพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนและการต่อสู้กับภาวะโลกรวน

โมดูลพลังงานแสงอาทิตย์เป็นโซลูชั่นที่คุ้มค่าต้นทุนที่สุด โดยมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุโครงการ (LCOE) ที่ต่ำกว่า ปัจจุบันผลผลิตไฟฟ้าของโมดูลได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปี 2552 โมดูลใหม่มีกำลังผลิตเฉลี่ย 290 วัตต์ ขณะที่โมดูลกำลังสูงในปัจจุบันมีกำลังผลิต 500 วัตต์ขึ้นไป

ขณะเดียวกัน ราคาของโมดูลได้ลดต่ำลงเนื่องจากมีเทคโนโลยีการผลิตที่ดีขึ้นและ 'การประหยัดต่อขนาด' (economy of scale) ปัจจุบันพลังงานแสงอาทิตย์ได้บรรลุจุดที่ต้นทุนการผลิตเท่ากับระบบสายส่ง (grid parity) แล้วในตลาดหลายแห่ง โดยมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่ำกว่ากริดไฟฟ้า

เพื่อให้อินโดนีเซียบรรลุเป้าหมายการมีพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วน 23% ของพลังงานทั้งหมดภายในปี 2568 จำเป็นที่จะต้องมีโซลูชั่นที่มีอยู่ในปัจจุบันและสามารถติดตั้งใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาสามารถติดตั้งใช้งานได้ในเวลาหลักวัน ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังสามารถพัฒนาได้รวดเร็วกว่าพลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่นๆมาก ในแง่นี้ โมดูลกำลังสูงและประสิทธิภาพสูงของทรินา โซลาร์มีอยู่พร้อมในตลาดปัจจุบัน เช่นเดียวกับระบบหมุนตามตะวันของทรินา โซลาร์ซึ่งช่วยส่งเสริมการผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้นไปอีกขั้น

ทรินา โซลาร์ เวอร์เท็กซ์ ดีอี19อาร์ (Trina Solar Vertex DE19R) สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ใช้เซลล์ยาว 210 มม. มีกำลังผลิตไฟฟ้าสูงสุด 580 วัตต์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด 21.5%

ที่ผ่านมาทรินา โซลาร์ ทำงานร่วมกับคู่ค้าในอินโดนีเซีย ซึ่งรวมทั้งผู้ติดตั้งและผู้จัดจำหน่าย เพื่อช่วยให้ธุรกิจได้มีระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคา ทั้งนี้ พลังงานแสงอาทิตย์เป็นที่น่าสนใจสำหรับบริษัทเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เนื่องจากใช้พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานบนหลังคาในการผลิตกระแสไฟฟ้า

ทรินา โซลาร์ ยังมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ทรินา โซลาร์ เวอร์เท็กซ์ เอ็น เอ็นอีจี19อาร์ซี.20 (Trina Solar Vertex N NEG19RC.20) เข้าสู่อินโดนีเซียสำหรับโครงการระดับสาธารณูปโภค โมดูลดังกล่าวนี้สามารถใช้งานในโครงการเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเช่นกัน

เวอร์เท็กซ์ เอ็น เอ็นอีจี19อาร์ซี.20 นี้มีการออกแบบแบบแรงดันต่ำ (low voltage) จึงมีประสิทธิภาพสูงกว่าและมีต้นทุนสมดุลกำลังไฟฟ้าของระบบ (balance of system หรือ BOS) ต่ำกว่า แต่โมดูลใหม่นี้มีกำลังสูงเพราะใช้เทคโนโลยี 210 (210 Technology)

โซลาร์เซลล์ความยาว 210 มม. มีกำลังสูงกว่าโซลาร์เซลล์รุ่นก่อนหน้านี้ที่ขนาดเล็กกว่า นอกจากเทคโนโลยี 210 โมดูลรุ่นนี้ยังใช้เทคโนโลยีระดับแนวหน้าของตลาดอื่นๆ อย่างเช่น บัสบาร์นำไฟฟ้าแบบหลายตัว (multi-busbar) เพื่อให้ดูดซับแสงได้มากกว่า เซลล์ที่สร้างโดยใช้เทคโนโลยีการตัดแบบไม่มีการทำลาย และใช้การห่อหุ้มความหนาแน่นสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่ของพื้นผิวโมดูลให้มากที่สุด

เวอร์เท็กซ์ เอ็น เอ็นอีจี19อาร์ซี.20 ใหม่นี้มีกำลังผลิตไฟฟ้าสูงสุด 590 วัตต์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด 21.8% โดยเป็นโมดูลแบบกระจกคู่ที่มีทั้งแบบหน้าเดียวหรือสองหน้า

ทรินา โซลาร์ ไม่เหมือนที่อื่นใดเนื่องจากเป็นผู้ผลิตโมดูลรายเดียวที่ผลิตระบบหมุนตามตะวันด้วย โดยทรินา โซลาร์ ผลิต 'ระบบหมุนตามตะวันอัจฉริยะ' (smart tracker) แวนการ์ด 1พี (Vanguard 1P) และแวนการ์ด 2พี (Vanguard 2P) ซึ่งออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อให้สามารถดัดแปลงปรับได้ ทำให้ระบบหมุนตามตะวันอัจฉริยะนี้ติดตั้งได้ในหลายลักษณะพื้นผิว พร้อมทั้งให้เสถียรภาพสูงและให้ผลผลิตพลังงานไฟฟ้าสูง

ในแง่นี้ การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยซูราบายา (University of Surabaya) ซึ่งตีพิมพ์ในปีนี้ พบว่าโมดูลในจาการ์ตาที่มีระบบหมุนตามตะวันผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าแบบมุมรับแสงคงที่ (fixed-tilt) อยู่ประมาณ 21%

อินโดนีเซียอยู่ในอันดับเจ็ดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของกำลังผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ความท้าทายสำหรับอินโดนีเซียคือการติดตั้งพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็วเพื่อบรรลุเป้าหมายสำหรับปี 2568 และปี 2593 ผลิตภัณฑ์โมดูลกำลังสูงและประสิทธิภาพสูงของทรินา โซลาร์ ประกอบกับเทคโนโลยีระบบหมุนตามตะวันที่ก้าวหน้า เป็นหนึ่งตัวเลือกที่พร้อมให้ติดตั้งใช้งานได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้อินโดนีเซียบรรลุเป้าหมายของประเทศ

เกี่ยวกับทรินา โซลาร์ (688599. SH)

ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) คือผู้นำระดับโลกด้านเซลล์แสงอาทิตย์และโซลูชันพลังงานอัจฉริยะครบวงจร บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2540 และดำเนินธุรกิจครอบคลุมการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายเซลล์แสงอาทิตย์, การพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ การรับเหมาก่อสร้าง การดำเนินงานและบำรุงรักษา, การพัฒนาและจำหน่ายระบบไมโครกริดอัจฉริยะและระบบกักเก็บพลังงานหลายรูปแบบ รวมถึงการบริหารแพลตฟอร์มคลาวด์ด้านพลังงาน ในปี 2561 ทรินา โซลาร์ เปิดตัวแบรนด์ Energy IoT พร้อมจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือ Trina Energy IoT Industrial Development Alliance ร่วมกับองค์กรและสถาบันวิจัยชั้นนำทั้งในจีนและทั่วโลก และจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม New Energy IoT Industrial Innovation Center ทั้งนี้ ทรินา โซลาร์ ตั้งเป้าจับมือกับพันธมิตรสร้างระบบนิเวศ Energy IoT พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสำรวจระบบนิเวศ New Energy IoT โดยบริษัทมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกในอุตสาหกรรมพลังงานอัจฉริยะ เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ทรินา โซลาร์ ได้จดทะเบียนบนกระดานหุ้น STAR Market ของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.trinasolar.com

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2012920/Trina_Solar__Elva_Wang__head_of_Southeast_Asia__and_Yabes_Supit__sales_manager_Indonesia__PBV02714.jpg

คำบรรยายภาพ - คุณยาเบส ซูพิท ผู้จัดการฝ่ายขายประจำอินโดนีเซีย และคุณเอลวา หวาง หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากทรินา โซลาร์


ข่าวด้านพลังงานแสงอาทิตย์+พลังงานแสงอาทิตย์วันนี้

ACC ส่งมอบโซลาร์รูฟท็อป กำลังผลิตรวม 945 กิโลวัตต์ ให้โรงพยาบาล 3 แห่งเรียบร้อย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน

บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ACC เผย บริษัทย่อย "เอซีซี อินฟรา" ส่งมอบโครงการโซลาร์รูฟท็อป กำลังผลิตรวม 945 กิโลวัตต์ ให้กับโรงพยาบาล 3 แห่ง ดังนี้ 1.โรงพยาบาลพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี กำลังผลิต 230 กิโลวัตต์ 2.โรงพยาบาลศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ กำลังผลิต 555 กิโลวัตต์ และ3. โรงพยาบาลโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี กำลังผลิต 160 กิโลวัตต์ เป็นที่เรียบร้อย ตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมผลักดันการใช้พลังงานสะอาด ลดต้นทุนระยะยาว และสร้างความยั่งยืน

ลอนจี (LONGi) โดย บริษัท ลอนจี กรีน เอเนอ... ครั้งแรกในไทย ลอนจี เตรียมเปิดตัว Hi-MO X10 นิยามใหม่ของแผงโซลาร์เซลล์ยุคใหม่ — ลอนจี (LONGi) โดย บริษัท ลอนจี กรีน เอเนอร์จี เทคโนโลยี จำกัด พร้อมสร้างปร...

อี้เฟิง เฉิน บุคลากรคนเก่งของทรินา โซลาร์ ได้รับรางวัลจากสถาบันวิชาชีพวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

การประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของสถาบันวิชาชีพวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (IEEE PVSC) ครั้งที่ 50 ได้ประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า ดร.อี้เฟิง เฉิน (Yifeng Chen) ผู้นำฝ่ายเทคนิคและรองประธานฝ่าย...