ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ชี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นถึง 6% หากเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูงที่ 4% คาดหนุนอัตราผลตอบตราสารหนี้สหรัฐฯ (Bond yield) พุ่งไปถึง 4.1% แนะใช้จังหวะนี้ลงทุนตราสารหนี้ระยะยาวล็อกผลตอบแทนในระดับสูง
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้น ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิตสูงกว่าคาด ตัวเลขการว่างงานต่ำสุดในรอบ 50 ปี ยอดขายบ้านและรถก็มีแนวโน้มฟื้นตัว สะท้อนว่าความพยามของ Fed ในการควบคุมเงินเฟ้อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงมาตลอดช่วงปีที่ผ่านมานั้นอาจยังไม่เพียงพอ และ Fed อาจจำเป็นต้องปรับทิศทางนโยบายการเงินให้เข้มงวดเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งคณะกรรมการ Fed หลายท่านก็เริ่มสั่งสัญญาณไปในทิศทางดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการคำนวณโดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ โดยอิงตาม Taylor rule ชี้ว่า หากเงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4% ไปตลอดทั้งปีนี้ Fed อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 6% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้สำเร็จ และหาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยไปถึง 6% ก็จะมีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ (Bond yield) จะเพิ่มขึ้นไปถึง 4.1% ส่งผลกดดันต่อมูลค่าหุ้น (Valuation) ให้ลดลงราว 5% จากระดับปัจจุบัน
นอกจากนี้ ปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพง โดยดัชนี S&P500 เทรดอยู่ที่ระดับ P/E ราว 18 เท่า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ยกเว้นช่วงฟองสบู่ดอทคอมในปี 2543 และช่วงโควิดในปี 2563 ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นที่จำกัดและมีความเสี่ยงขาลงมากกว่า จึงแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสที่ Bond yield กลับมาปรับขึ้น หาจังหวะในการเข้าลงทุนในตราหนี้สหรัฐฯ ระยะยาว เพื่อล๊อกผลตอบแทนในช่วงที่ Bond yield เข้าใกล้ระดับ 4%
"ตามประมาณการเศรษฐกิจล่าสุดในเดือนธันวาคม Fed คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะลดลงไปที่ระดับ 3.5% ปลายปีนี้ และ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยไปที่ระดับ 5.25% และคงไว้ไปตลอดทั้งปี แต่หากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงตามที่คาด Fed ก็อาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสูงกว่าที่เคยส่งสัญญาณ โดยหากเงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4% ไปตลอดทั้งปีนี้ จากการคำนวณของเราโดยอิงตาม Taylor rule ชี้ว่า Fed อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 6% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้สำเร็จ ซึ่งเราประเมินว่าหาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยไปถึง 6% Bond yield สหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นไปถึง 4.1% ซึ่งจะส่งผลกดดันต่อ Valuation ของตลาดหุ้นให้ลดลงราว 5% จากระดับปัจจุบัน" นายคมศรกล่าว
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ จ่อปรับฐานในไตรมาส 4 รับ 2 ปัจจัย คือ 1. ราคาหุ้นแพง 2. ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้ง แนะกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนไปยังตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนดีช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2567 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสปรับฐานจาก 2 ปัจจัยคือ 1. ราคาหุ้นแพง และรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปมากแล้ว 2. ความไม่
ทิสโก้เผย Fed ลดดอกเบี้ยมากกว่าคาด ชี้! ปีนี้อาจลดต่ออีก 0.5% และปี 68 ลงอีก 1 - 1.25%
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้ ธนาคารกลาง...
กูรูทิสโก้ชี้ ตลาดหุ้นเสี่ยงปรับฐานอีก คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ยต่อ - QT ฉุดสภาพคล่องลด
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ชี้ ตลาดหุ้นเสี่ยงปรับฐานลงอีก ...
ทิสโก้ชี้ตลาดหุ้นโลก ปี 66 เสี่ยงถูกเทขายอีกรอบ แนะทางรอดซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ หรือหุ้นเฮลธ์ฯ และเทคฯ รับผลตอบแทนเด่น
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโ...
Fed ส่งสัญญาณเข้มคุ้มเงินเฟ้อ ทิสโก้เตือน! ใน1 - 3 เดือน หุ้นอาจร่วงแรงอีกครั้ง จังหวะซื้อเทคฯ เฮลธ์แคร์ พลังงานหมุนเวียนหลบภัย
—
ศูนย์เคราะห์เศรษฐกิจและก...
ทิสโก้คาด 27 ก.ค. Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจฟุบ จุดระเบิดเศรษฐกิจถดถอย แนะซื้อเทคฯ - เฮลธ์แคร์กำไรโตไม่หวั่นวิกฤต
—
ศูนย์วิเคราะห์เศ...
ทิสโก้ชี้ Fed ใช้ยาแรงขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ หวั่นธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ย...
ทิสโก้คาด เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ "ภาวะถดถอย" มากขึ้น หลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรง
—
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินเศรษฐกิจโลกอาจชะลอ...