แม้ตัวเลขการจ้างงานจะมีมากกว่า 6 ล้านตำแหน่งและมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยคิดเป็นสัดส่วนถึง 34% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ประจักษ์ชัดในขณะนี้ก็คือ ภาคการผลิตของไทยกำลังอยู่ในช่วงขาลง จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมพบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ของประเทศลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่เก้าในเดือนมิถุนายน 2566 โดยลดลง 5.24% เมื่อเทียบกับปี 2565
ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้กระทรวงอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า MPI ของประเทศจะลดลงตลอดทั้งปี 2566 ซึ่งตรงกันข้ามกับอัตราการเติบโต 0-1% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ การที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญส่งผลให้กระทรวงการคลังได้ปรับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจลงเหลือ 3.5% จากเดิม 3.6% และเนื่องจากการผลิตถือเป็นภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน
แม้ว่านโยบายและความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะถูกลดทอนลง แต่ยังมีแนวทางแก้ไขอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยบรรดาผู้ผลิตเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาปรับใช้ภายในองค์กร
ระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิต
อุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยแรงงานที่มีทักษะเป็นหลัก ซึ่งข้อเสียของแรงงานที่มีทักษะคือต้นทุนแรงงานที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งซึ่งกำลังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจจากการผลิตที่มีต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีอัตราการรู้หนังสือในระดับสูง โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ประมาณ 100,000 คนต่อปี และเมื่อข้อมูลประชากรเกิดการเปลี่ยนแปลง พนักงานรุ่นใหม่จึงเลือกที่จะมองหางานที่ให้ผลตอบแทนทางจิตใจมากกว่าเดิม
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ระบบอัตโนมัติจึงถูกมองว่าเป็นโซลูชันสำหรับการผลิตที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) รวมถึงอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารด้วย คำว่า "ระบบอัตโนมัติ" (Automation) ครอบคลุมถึงหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน (โคบอท) ซึ่งเป็นระบบแขนหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่มาพร้อมมือจับขนาดใหญ่
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าโคบอทได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก และคาดว่าจะมีการใช้งานในสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากประโยชน์ที่มากมาย ซึ่งรวมถึงการลดต้นทุนการผลิตในขณะที่สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้แม้ว่าพื้นที่การผลิตจะมีขนาดเล็กก็ตาม การนำโคบอทเข้ามาใช้งานทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราการเติบโตต่อปีที่ 32 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี 2566 ถึง 2573 และเมื่อเปรียบเทียบกับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจะพบว่า โคบอทมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ใช้พื้นที่น้อยกว่า และใช้พลังงานน้อยกว่า
โคบอทและประโยชน์ที่ได้รับ
ประการแรก โคบอทนำเสนอโซลูชันที่ยืดหยุ่นซึ่งเหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อใช้โคบอท ผู้ผลิตจะได้รับ โซลูชันอัตโนมัติที่สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการของตลาด ทำให้ได้โซลูชันแบบครบวงจรที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของภาคการผลิตได้อย่างแท้จริง "หากจำเป็น โคบอทตัวเดียวก็สามารถตั้งโปรแกรมและปรับใช้งานใหม่เพื่อรองรับการทำงานได้อย่างหลากหลาย" นายธนกฤต ธานีรัตน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอท กล่าวและว่า "ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา จึงสามารถเปลี่ยนลักษณะการทำงานได้โดยไม่รบกวนพื้นที่หรือสถานีงานที่มีอยู่เดิม" โคบอทสามารถทำงานได้ทุกอย่างตั้งแต่การปั๊มโลหะและการทดสอบ ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพและการทำงานร่วมกับเครื่องจักร โคบอทยังสามารถช่วยในการจัดการวัสดุที่มีน้ำหนักมากและมีจำนวนหลายชิ้นส่วนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานที่มีอยู่เดิมแต่อย่างใด
นอกจากนี้ โคบอทยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการเพิ่มศักยภาพของแรงงานมนุษย์ด้วย โดยปกติแล้ว ผู้ปฏิบัติงานต้องสลับสับเปลี่ยนความรับผิดชอบในการทำงานอยู่เสมอ และต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่างานทั้งหมด ตั้งแต่งานธรรมดาไปจนถึงงานที่ซับซ้อนและในบางครั้งก็เป็นอันตราย เช่น การขนย้ายของหนักในการจัดเรียงบนพาเลทและความร้อนสูงในการเชื่อม หรือการสัมผัสกับสารเคมีอันตรายจะได้รับการตอบสนอง
การนำโคบอทเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระงานดังกล่าว ถือเป็นการช่วยให้มนุษย์สามารถทำงานที่ธรรมดา อันตราย และซ้ำซากให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว "ในโรงงานผลิต โคบอทถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับแรงงานมนุษย์อย่างเรา" นายธนกฤตกล่าวและว่า "โคบอทช่วยให้เรามีเวลาไปดูแลรับผิดชอบงานที่มีความซับซ้อนและต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในการทำงานที่มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ยังได้มอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับคนงานเพิ่มมากขึ้นด้วย" สิ่งนี้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดของระบบอัตโนมัติที่นำมาใช้ในการทำงานร่วมกัน เนื่องจากการทำงานที่ซ้ำซากจำเจนั้นหาคนมาทำยากขึ้นทุกขณะ
ในทางกลับกันการนำโคบอทมาใช้งานนั้นสามารถเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานได้อย่างมาก ช่วยลดการทำงานที่น่าเบื่อและอันตราย อีกทั้งยังช่วยให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่าและมีความหมายมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ยากที่จะทำให้สำเร็จเนื่องจากภาระงานที่ค้างคาอยู่เป็นจำนวนมาก การได้รับความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้นย่อมส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิตที่จะต้องมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับประโยชน์หลักอีกประการของโคบอทคือความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โคบอทสามารถกำจัดข้อผิดพลาดของมนุษย์ในขณะที่รับประกันความสม่ำเสมอและความแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถจัดการกับกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ ดังนั้นจึงสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นภายใต้ต้นทุนที่ต่ำลงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต่างต้องการ "ด้วยความช่วยเหลือจากโคบอท บรรดาผู้ผลิตจะสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้และดำเนินการผลิตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายธนกฤตกล่าวเสริม
บริษัท เบนช์มาร์ค (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลว่าส่วนงานการประกอบอัตโนมัติและการทดสอบสายการผลิตด้วย โคบอทสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพผลผลิต ความพึงพอใจของลูกค้า และเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นอนาคตได้อย่างชัดเจน โดยบริษัทได้ติดตั้งโคบอท UR5 4 ตัวและ UR10e 2 ตัวในสายการผลิต ซึ่งโคบอทเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้ถึง 25%
อนาคตภาคการผลิตของประเทศไทย
โคบอทมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงภาคการผลิตของประเทศไทยด้วยความสามารถในการปรับปรุงผลผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และความพึงพอใจของพนักงาน เมื่อมีการนำโคบอทมาใช้งานเพิ่มมากขึ้น ประเทศไทยจะสามารถวางตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้นำด้านการผลิตขั้นสูงและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น
การใช้โคบอทไม่ได้เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคนทำงาน" นายธนกฤตกล่าวและว่า "โคบอทช่วยให้มนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การคิดเชิงวิพากษ์ และทักษะการแก้ปัญหา อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตด้วยความแม่นยำของหุ่นยนต์"
ความสามารถที่ยืดหยุ่นของโคบอทในการทำงานร่วมกับแรงงานมนุษย์ การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มผลผลิต ทำให้โคบอทเป็นสินทรัพย์ที่ภาคการผลิตของไทยไม่ควรมองข้าม
อก. เผย MPI เดือน พ.ย. พลิกฟื้นครั้งแรกในรอบ 19 เดือนขยายตัวร้อยละ 0.35 ชี้จับตาดูสถานการณ์โควิด-19
อก. เผย MPI เดือน ส.ค. ขยายตัวจากเดือนก่อนร้อยละ 4.81 ส่งสัญญาณต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างศก. ไทย หลังต่างชาติประสบปัญหาโควิด-19 ระลอก 2
อก. เผย MPI เดือน ก.ค. ขยายตัวจากเดือนก่อนร้อยละ 3.12 ส่งสัญญาณ ศก.ภาคอุตฯ ฟื้นตัว
สศอ. เผย MPI เดือน มิ.ย. ส่งสัญญาณ ศก.ภาคอุตฯ พลิกฟื้น ขยายตัวจากเดือนก่อนร้อยละ 4.18 อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สศอ. เผย MPI เดือนพ.ค. หดตัวร้อยละ 23.19 อุตฯ อาหารและยาขยายตัวต่อเนื่อง คาดเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ดีขึ้นหลังทั่วโลกเริ่มคลายล็อกดาวน์
สศอ. เผยโควิด-19 กระทบ MPI เดือนเม.ย. หดตัวร้อยละ 17.21 การผ่อนคลายมาตรการแก้ปัญหาการขนส่งในขณะที่ความต้องการยังมีมาก
สศอ. เผยโควิด-19 กระทบ MPI เดือนมี.ค. หดตัวร้อยละ 11.25 ชี้ผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวเตรียมเพิ่มการผลิต
สศอ. เผยโควิด-19 ดันอุตฯ อาหารขยายตัว ช่วยผยุง MPI เดือนกุมภาพันธ์ หดตัวร้อยละ 5.19 ฝั่งผู้ผลิตเตรียมรอดูสถานการณ์