ผลการศึกษาใหม่โดยนักวิจัยที่บ่อน้ำมันดินลาเบรอา (La Brea Tar Pits) ระบุว่า ไฟป่าขนาดใหญ่ในระบบนิเวศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น เป็นสาเหตุให้เสือเขี้ยวดาบ, หมาป่าไดร์วูล์ฟ (Dire wolf) และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อื่น ๆ สูญพันธุ์ในทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเกือบ 13,000 ปีที่แล้ว
การศึกษาดังกล่าวซึ่งผ่านการทำพิชญพิจารณ์ (Peer review) และตีพิมพ์ลงในวารสารไซเอินซ์ (Science) ได้นำเสนอมุมมองใหม่ต่อข้อถกเถียงทางวิทยาศาสตร์ที่กินเวลานานหลายทศวรรษว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดของโลก โดยงานวิจัยนี้ใช้หลักฐานสนับสนุนจากการระบุอายุที่แน่นอนของซากดึกดำบรรพ์ที่อยู่ในบ่อน้ำมันดินลาเบรอา ทำให้เราเข้าใจถึงพลวัตปัจจัยที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมอย่างมาก การเติบโตของประชากรมนุษย์ การเกิดไฟป่า และการสูญพันธุ์อย่างรวดเร็วของ "มหพรรณสัตว์" (megafauna) หรือสัตว์ขนาดใหญ่ในยุคน้ำแข็ง
ดร. ลอรี เบตติสัน-วาร์กา (Lori Bettison-Varga) ประธานและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งเคาน์ตีลอสแอนเจลิส กล่าวว่า "งานวิจัยนี้จะคงความสำคัญเป็นเวลาหลายทศวรรษต่อจากนี้และไปไกลยิ่งกว่าสาขาวิทยาศาสตร์ บ่อน้ำมันดินลาเบรอาเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่มีบันทึกฟอสซิลที่จำเป็นต่อการตรวจสอบเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งสำคัญครั้งล่าสุดด้วยวิธีนี้ กลุ่มฟอสซิลยุคน้ำแข็งหลายล้านรายการในสถานที่นี้มอบโอกาสพิเศษในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม"
การศึกษาดังกล่าวได้ระบุลำดับเหตุการณ์ภัยพิบัติทางนิเวศวิทยาโดยปะติดปะต่อข้อมูลจากสภาพอากาศ, พืชพรรณ และเหตุไฟป่าที่พบในตะกอนที่ก้นทะเลสาบเอลซินอร์ในบริเวณใกล้เคียง เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ภูมิประเทศค่อย ๆ อุ่นและแห้งขึ้นเนื่องจากโลกกำลังสิ้นสุดยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายและธารน้ำแข็งเริ่มละลาย โดยกินเวลานานกว่า 2,000 ปี ในช่วงเดียวกันนั้นเอง สัตว์กินพืชขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่าก็เริ่มลดจำนวนลง จากนั้น เมื่อประชากรมนุษย์เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในอเมริกาเหนือ ระบบนิเวศก็เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเกิดภัยแล้งยาวนาน 200 ปีจนทำให้ภูมิประเทศแห้งแล้ง เกิดไฟป่าขนาดใหญ่ที่ทำให้ชุมพืช (Plant community) เปลี่ยนสภาพไป สัตว์ขนาดยักษ์ยุคน้ำแข็งทั้งหมดที่ลาเบรอาสาบสูญไปภายในเวลา 300 ปี และระบบนิเวศป่าชาปาร์รัล (chaparral) สมัยใหม่ที่มีการปรับตัวให้เข้ากับไฟป่าก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในแคลิฟอร์เนีย
การศึกษาดังกล่าวระบุว่า การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมกับกิจกรรมของมนุษย์มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันด้วย โดยการศึกษาชี้ให้เห็นว่า อุณหภูมิในเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาเร็วกว่าในช่วงปลายสมัยไพลสโตซีน (Pleistocene) ที่ดินที่ถูกไฟป่าเผาทางตะวันตกของสหรัฐมีเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และรูปแบบเช่นนี้คาดว่าจะเลวร้ายลงอีกในปีต่อ ๆ ไป
ดูชุดข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://drive.google.com/drive/folders/1USDjUihwaeCMS7xUQIw2k7nHySbB7ZwD
สื่อมวลชนติดต่อ:
เมารา คลอสเตอร์มัน-วู (Maura Klosterman-Vu)
310-552-4117
[email protected]
ญาญ่า เสิร์ฟพลังบวก แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ Almond Breeze(R) สูตร 25 kcal ปลุกพลังบวกสายเฮลท์ตี้ แคลต่ำสุดในตลาด
เครือเฮอริเทจ ยกทัพผลิตภัณฑ์เจครบวงจร ร่วมสืบสานงานเจเยาวราช 2568 ภายใต้แนวคิด "กินเจสุขใจ ไปกับเครือเฮอริเทจ"
ถั่วคุณภาพระดับพรีเมียม แบรนด์ ซันคิสท์ ปรับโฉมแพคเกจจิ้งใหม่ เสิร์ฟความอร่อยระดับพรีเมียม ผสานความทันสมัยกับคุณภาพเดิมที่เป็นเอกลักษณ์
พลาดไม่ได้! บลูไดมอนด์ แคลมอนด์ เสิร์ฟความอร่อยล้นซองพร้อมโปรสุดฟินในเดือนกรกฎาคม
ซันคิสท์ จัดโปรโมชั่น น้ำนมพิสทาชิโอเพื่อสุขภาพ ลดเหลือเพียง 65 บาท! ที่ Max Mart
The Cheesecake Factory ประเทศไทย เปิดตัวเมนูใหม่ เสิร์ฟความสดชื่นและความอร่อยแบบอเมริกันแท้ สัมผัสความอร่อยระดับโลก
สุขภาพดีไม่มีสะดุด! นมพิสทาชิโอแบรนด์ซันคิสท์ อร่อยคุ้มค่าที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา
สัมผัสช่วงเวลาความอร่อยคูณสอง! ด้วยถั่วพรีเมียมราคาโดนใจจากบลูไดมอนด์
เลขาธิการ คปภ. นำคณะผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมการประชุม 2025 NAIC International Insurance Forum