SVR ปิดดีล ผนึก กลุ่มพุทธพรมงคล ตั้งบริษัทร่วมทุน เดินเกมรุก เล็งพัฒนาธุรกิจอสังหาฯเพิ่ม ตอกย้ำความเป็น HIGH GROWTH

24 Aug 2023

บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ "SVR" เสิร์ฟข่าวดีต่อเนื่อง ล่าสุดผนึกกลุ่มพุทธพรมงคล ตั้งบริษัทร่วมทุน ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เล็งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อยอดธุรกิจ เติบโต แบบ High Growth เต็มรูปแบบ

SVR ปิดดีล ผนึก กลุ่มพุทธพรมงคล ตั้งบริษัทร่วมทุน เดินเกมรุก เล็งพัฒนาธุรกิจอสังหาฯเพิ่ม ตอกย้ำความเป็น HIGH GROWTH

นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ "SVR" ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบแบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์การพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) ก่อสร้างเร็ว -ขายเร็ว - ส่งมอบเร็ว และความคุ้มค่า ( Premium Economy) ในรูปแบบแนวคิด "Best Smart Living" เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ มีมติอนุมัติให้บริษัทร่วมทุนกับ กลุ่มพุทธพรมงคล โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณาชื่อบริษัทใหม่ ด้วยทุนจดทะเบียนและหุ้น 100 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ซึ่งคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2566นี้ เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่การต่อยอดโครงการใหม่ของSVR ในอนาคต

สำหรับโครงสร้างการถือหุ้น ภายใต้บริษัทร่วมทุนดังกล่าว บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จะเข้าถือหุ้น ในสัดส่วน 600,000 หุ้น คิดเป็น 60% คิดเป็นมูลค่า 60,000,000 บาท, นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ถือหุ้น 300,000 หุ้น คิดเป็น 30% คิดเป็นมูลค่า 30,000,000 บาท และ นายกิตติพงศ์ พุทธพรมงคล ถือหุ้น 100,000 หุ้น คิดเป็น 10% คิดเป็นมูลค่า 10,000,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือในครั้งนี้ ทาง SVR จะเข้าดำเนินการพัฒนาที่ดินบางส่วนของแปลงใหญ่ ของกลุ่มพุทธพรมงคลที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยระยะแรกจะชำระค่าที่ดินประมาณ 50% ในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ เป็นเงินกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน และที่เหลือบริษัทร่วมทุนจะชำระจากผลการดำเนินงาน ในภายหลัง หรือซื้อที่ดิน ที่ผู้ร่วมทุนทั้งสองฝ่ายเห็นว่าเหมาะสมมาพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขาย โดย SVR เป็นผู้ดำเนินงานทั้งหมด เช่น การศึกษาความเป็นไปได้โครงการ การบริหารงานก่อสร้าง การบริหารการบริหารการขาย และการตลาด การบริหารการเงินและจัดทำบัญชี ซึ่งการผนึกกำลังนี้นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตด้านผลการดำเนินงานสู่ระดับ High Growth ของ SVR แล้ว ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การแข่งขันในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ได้เป็นอย่างดี