การฉีดวัคซีนป้องกันโรค ถือเป็น "การลงทุนทางสุขภาพ" ที่สำคัญ เนื่องจากไม่ได้ป้องกันเพียงการเกิดโรค แต่ยังช่วยลดเหตุสูญเสียงบประมาณในการรักษาพยาบาลที่บานปลายจากการเกิดโรคที่ลุกลามเพราะไม่ได้ป้องกัน
หนึ่งในวัคซีนที่เปิดบริการโดยทั่วไป ซึ่งยังคงมีข้อสงสัยในเรื่องความจำเป็นและขอบเขตในการป้องกันโรค ได้แก่ HPV (Human papillomavirus) ไวรัสที่เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อก่อโรคบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และทวารหนัก ก่อนลุกลามจนถึงขั้นกลายเป็นเนื้อร้าย ทั้งในหญิงและชาย
แพทย์หญิงธีรานันท์ นาคะบุตร รองหัวหน้าฝ่ายการแพทย์แผนกเวชศาสตร์ครอบครัวและแพทย์บูรณาการ และหัวหน้าศูนย์ตรวจสุขภาพ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ไขข้อข้องใจว่า เหตุใดวัคซีนป้องกัน HPV ถึงจำเป็นสำหรับทุกคนในเกือบทุกช่วงวัย ยกเว้นสตรีมีครรภ์ เนื่องจากสามารถติดต่อกันได้ในลักษณะของการเป็นพาหะโดยไม่แสดงอาการ แม้ไม่ได้มีการสัมผัสโรคโดยตรง และเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกสำหรับสตรีในระยะลุกลาม
ในประเทศไทยจัดให้วัคซีนป้องกัน HPV อยู่ในกลุ่ม "วัคซีนแนะนำ" สำหรับเพศหญิง อายุ 9 - 26 ปี และ "วัคซีนทางเลือก" สำหรับเพศชายอายุ 9 - 26 ปี และยังสามารถพิจารณาฉีดวัคซีนในผู้เข้ารับบริการกลุ่มเสี่ยงที่อายุไม่เกิน 45 ปี
วัคซีน HPV จัดอยู่ในกลุ่ม "วัคซีนเชื้อตาย" ผู้ที่มีอายุ 9 - 14 ปีจะได้รับการฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน และฉีด 3 เข็มในช่วงวัยที่มากกว่า โดยเข็ม 2 ฉีดห่างจากเข็มแรก 2 เดือน และกระตุ้นด้วยเข็มสุดท้ายอีกภายใน 6 เดือนนับจากเข็มแรก ป้องกันได้มากกว่า 10 ปี
อย่างไรก็ดี "วัคซีนในกลุ่มป้องกันโรคพื้นฐาน" ยังคงมีความจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดตามช่วงวัยที่กำหนด ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงช่วงสูงวัย ซึ่งหากจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนมากกว่าชนิดเดียว สามารถฉีดได้มากกว่า 2 ชนิดพร้อมกันแต่ต่างตำแหน่ง หากไม่ได้ฉีดพร้อมกัน โดยทั่วไปควรฉีดห่างกันอย่างน้อย 7 วันสำหรับวัคซีนเชื้อตาย และ 28 วันสำหรับวัคซีนเชื้อเป็น
ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันHPV และวัคซีนในกลุ่มป้องกันโรคพื้นฐานทุกวันในเวลาราชการ ติดต่อขอคำปรึกษาก่อนเข้ารับบริการได้ที่โทร. 0-2849-6600
องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ทุกวันที่ 24-30 เมษายนของทุกปีถือเป็น "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก" ซึ่งเป็นแคมเปญด้านสาธารณสุขระดับโลกเพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยในปีนี้ได้กำหนดธีม "Immunization for All is Humanly Possible" เพื่อย้ำถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันทั่วโลกสำหรับทุกคนว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ ด้วยความมุ่งหวังให้ผู้คนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ได้รับการปกป้องจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนมากยิ่งขึ้น
กทม. รุกมาตรการป้องกันพิษสุนัขบ้า ชวนนำสัตว์เลี้ยงฉีดวัคซีน-ใช้ "คาถา 5 ย" ป้องกันภัย
—
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการผู้อำนว...
รร.สังกัด กทม. ส่งเสริมการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา-ยอมรับความหลากหลายทางเพศ
—
นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวถึงการส่งเ...
แอกซ่า ส่งเสริมการตระหนักรู้ พร้อมสนับสนุนการป้องกันโรคมะเร็งในประเทศไทย
—
โรคมะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสุขภาพอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีกว่า ...
เนสท์เล่ ต่อยอดความสำเร็จ "ภารกิจพิชิตสุขภาพดี" สนับสนุนกทม. ในโครงการสร้างความรอบรู้สู่สุขภาพดีวิถีวัยทำงานข้าราชการและบุคลากรของกรุงเทพมหานคร
—
การดูแลสุขภ...
กรมอนามัย แนะ มาตรการป้องกันโรคโนโรไวรัส หวั่นระบาดช่วงเทศกาล
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย โรงเรียน ภัตตาคาร โรงพยาบาล สถานที่เลี้ยงเด็ก รวมไปถึงรถหรื...
"ท่องเที่ยว สุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1"
—
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศทิศทางความร่วมมือการส่งเสริมการท่องเที่ยว ร่วมกับ กระท...