สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (สถาบัน NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้ายุทธศาสตร์ส่งออกเต็มพิกัด รุกเปิดตัวโครงการ "เปิดประตูการค้า สู่ตลาดใหม่" หนุนผู้ประกอบการบุก "เอเชียกลางและนอร์ดิก" ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง ระดมทัพกูรูผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดองค์ความรู้แบบวิเคราะห์เจาะลึก แชร์ประสบการณ์ตรง พร้อมเคล็ดลับความสำเร็จจากผู้ส่งออกมืออาชีพ ยกระดับผู้ประกอบการ ดันสินค้าไทยโกอินเตอร์
นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกถือเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ในปี 2566 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีแผนยุทธศาสตร์ในการผลักดันและอำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อรักษาตลาดเดิมและเปิดตลาดใหม่เพิ่มเติม ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะเอเชียกลางและกลุ่มนอร์ดิก ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง แต่ยังมีการค้ากับไทยไม่มากนัก จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทยที่จะขยายการค้าและช่องทางการเข้าสู่ตลาดใหม่ ด้วยการเพิ่มเติมองค์ความรู้ อัปเดตสถานการณ์การค้าที่เป็นปัจจุบันและแนวโน้ม เพื่อพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ สถาบัน NEA ร่วมกับสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 2 ดำเนินโครงการ "เปิดประตูการค้า สู่ตลาดใหม่" (Trade Opportunities in the New Markets) เพื่อสร้างการรับรู้ ความสนใจ และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยในการเข้าสู่ตลาดเอเชียกลางและกลุ่มนอร์ดิก ในรูปแบบงานเสวนาออนไลน์ฟรี! ผ่านระบบ Zoom ในหัวข้อ "คาซัคสถาน : ประตูสู่ตลาดเอเชียกลาง" และ "นอร์ดิก : ตลาดที่ท้าทายสำหรับผู้ส่งออก ไทย" โดยมีคณะเอกอัครราชทูต ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ เทคนิคและกลยุทธ์การเจาะตลาด เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน สนับสนุนให้การค้าระหว่างไทยกับตลาดดังกล่าวขยายตัวเพิ่มขึ้น พร้อมขับเคลื่อนการส่งออกไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นางอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) การค้ารวมระหว่างไทย-เอเชียกลาง 5 ประเทศ ได้แก่ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถาน มีมูลค่า 202.54 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 196.92 โดยเป็นการส่งออก 132.92 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 195.24 และการนำเข้า 69.62 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 200.19 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคาซัคสถานถือเป็นประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพและเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียกลาง นอกจากนี้ คาซัคสถานยังเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปยังเอเชียกลาง 5 อันดับแรก ได้แก่ อากาศยาน ยานอวกาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และแผงสวิทช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า
ส่วนนอร์ดิก เป็นกลุ่มประเทศที่ตั้งอยู่ในยุโรปตอนเหนือ ประกอบด้วย 5 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ แม้ว่าจะเป็นตลาดขนาดเล็ก แต่เป็นกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็ง ประชากรมีรายได้เฉลี่ยสูงในอันดับต้น ๆ ของโลก และมีพฤติกรรมเปิดรับสินค้าใหม่ ๆ นิยมสินค้าที่มีนวัตกรรม ดีไซน์แปลกใหม่ รักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) การค้ารวมระหว่างไทย-กลุ่มนอร์ดิก มีมูลค่า 1,964.26 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.99 โดยเป็นการส่งออก 778.52 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 28.86 และการนำเข้า 1,185.75 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 84.12 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสวีเดนและเดนมาร์กถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังกลุ่มนอร์ดิก 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แผงสวิตช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ยาง
"การจัดกิจกรรมเสวนาดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ประกอบการไทยเห็นถึงศักยภาพและโอกาสของตลาดเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งจะจุดประกายให้เกิดกิจกรรมส่งเสริมการค้าอื่น ๆ ในอนาคต เช่น การจัดคณะผู้แทนการค้าเยือนทั้ง 2 ตลาด (Trade Mission) การเชิญผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชนของทั้ง 2 ภูมิภาค เข้าร่วมเจรจาการค้าในงานแสดงสินค้าชั้นนำในประเทศไทย ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เช่น THAIFEX-Anuga Asia ตลอดจนการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ในกลุ่มสินค้าเป้าหมายของทั้ง 2 ตลาด รวมถึงการพิจารณาจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยในรูปแบบ In-Store Promotion ร่วมกับห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และกระตุ้นความต้องการบริโภคสินค้าไทยของผู้บริโภคท้องถิ่นให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป" รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจขยายโอกาสทางการค้าในตลาดเอเชียกลางและกลุ่มนอร์ดิก สามารถอัปเดตข้อมูลข่าวสารได้ที่ Facebook : สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 09-5318-7085 และ 02-507-8166
DITP แถลงข่าวตอกย้ำความสำเร็จ E-Academy ภายใต้แนวคิด "Beyond Boundaries Transform Knowledge into Impact"
ทิศทางของสถาบัน NEA กับกลยุทธ์ดันผู้ประกอบการไทยพิชิตตลาดโลก ในปี 2567
ทิศทางของสถาบัน NEA กับกลยุทธ์ดันผู้ประกอบการไทยพิชิตตลาดโลก ในปี 2567
NEA Open House 2023 เปิดความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการไทยผงาดตลาดโลก
NEA เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการไทยสู่เวทีการค้าโลก ในงาน NEA Open House 2023
ไทยพาณิชย์ จัดโครงการ SCB ITP รุ่นที่ 5 : Sustainable Growth for Exporter เสริมส่งออก SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน
พาณิชย์-DITP ผนึกกำลังภาคเอกชน เปิดประตูสู่แดนมังกร ติดอาวุธผู้ประกอบการไทยลุยขยายฐานตลาดจีน
NEA เปิดภาพความสำเร็จ! ดันผู้ประกอบการสินค้าเกษตร และอาหารไทยในกิจกรรม "เกษตรทันสมัย พาณิชย์ขายให้ ออนไลน์ทั่วโลก" รุ่นที่ 4
พาณิชย์-DITP เปิดเวที The Next Chapter ครั้งที่ 2 อัปเดตเทรนด์การค้า ขับเคลื่อนเกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก