ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.25% เป็น 2.50% ต่อปี เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 โดยมีผลทันที อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจไทยในภาพรวมอยู่ในทิศทางฟื้นตัว อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะเพิ่มสูงขึ้นทั้งจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง ยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา Prime Rate 6.75% ต่อปี จนถึงสิ้นปี 2566 เพื่อเป็นการช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระผู้ประกอบธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ SMEs ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว
"EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มุ่งมั่นดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) ยืนยันจุดยืนช่วยเหลือลูกค้าทั่วไป และผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และเครื่องมือทางการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจสามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกได้ สร้างรายได้ กระตุ้นการจ้างงาน ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศไทย ตลอดจนต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น" ดร.รักษ์ กล่าว
EXIM BANK เปิดตัว "หลักสูตร EXIM 2X รุ่นที่ 1 ปี 2568" ปั้น SMEs ไทยสู่เวทีการค้าโลก
ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 สาขาบริการภาครัฐ ประเภทบริการตอบโจทย์ตรงใจ
"SMO" ร่วมพิธีเปิดงาน "พาแบงก์รัฐ มาช่วยราษฎร์" จ.ภูเก็ต เสริมศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่น
EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพายุวิภา
EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน
EXIM BANK ประสบความสำเร็จในการออกพันธบัตรสกุลบาท มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ตอกย้ำบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
EXIM BANK ผนึกกำลังภาครัฐ ช่วยลูกหนี้กลุ่มเปราะบางฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ผ่านโครงการ "คุณสู้ เราช่วย เฟส 2"
EXIM BANK จับมือ BIDV สนับสนุนการค้าการลงทุนไทย-เวียดนาม ขยายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาค