CGTN: จีนส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันด้วยการเปิดกว้างและการฟื้นฟูชนบท ภายใต้แนวคิด "ทุกคนมีส่วนร่วม"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมืองอี้อูในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "เมืองสินค้าเบ็ดเตล็ดของโลก" มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับมากกว่า 230 ประเทศและภูมิภาค

ตลาดค้าส่งนานาชาติอี้อู (Yiwu International Trade Market) ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดย่อม จำนวน 2.1 ล้านแห่ง และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างงานมากกว่า 32 ล้านคน จนเป็นที่รู้จักในฐานะตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมณฑลเจ้อเจียงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ได้เยือนตลาดค้าส่งดังกล่าวในเมืองอี้อู ซึ่งเป็นเมืองระดับอำเภอในเมืองจินหัว เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา และได้กล่าวยกย่องว่า สินค้าเบ็ดเตล็ดจากอี้อูสามารถบุกเข้าสู่ตลาดใหญ่และขึ้นแท่นเป็นอุตสาหกรรมหลักไปเป็นที่เรียบร้อย

"ทุกคนถือเป็นผู้มีส่วนร่วม ผู้สร้าง และผู้สนับสนุน" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง กล่าว พร้อมกับกระตุ้นให้ตลาดการค้ามีส่วนร่วมมากขึ้นในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนเรียกร้องให้มณฑลเจ้อเจียงเป็นผู้นำและแบบอย่างในการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

พัฒนาการค้าเพื่อการเปิดกว้างในระดับสูง

ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า มูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้ารวมในช่วงครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 20.1 ล้านล้านหยวน (ราว 2.75 ล้านล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี นับว่าทะลุหลัก 20 ล้านล้านหยวนเป็นครั้งแรก

วิสาหกิจเอกชนยังคงเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมการค้าต่างประเทศของจีน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทด้านการค้าระหว่างประเทศที่มีส่วนในการนำเข้าและส่งออก มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของวิสาหกิจเอกชนอยู่ที่ 10.59 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี

นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำระหว่างการลงพื้นที่ว่า ต้องพยายามส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจเอกชนให้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการจัดสรรแรงงานและทรัพยากร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันหลัก ๆ

หลังจากพัฒนามานานหลายปี ในที่สุดทางรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรป ซึ่งเริ่มที่เมืองอี้อูและไปสิ้นสุดที่กรุงมาดริดของสเปน ก็ได้เข้าสู่เส้นทางการพัฒนาคุณภาพสูง และกลายเป็นการขนส่งระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เชื่อถือได้ ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทางรถไฟขนส่งสินค้าสายอี้อู-ซินเจียง-ยุโรป หรือ "อี้ซินโอว" (Yixin'ou) ความยาว 13,052 กิโลเมตร ได้กลายเป็นสะพานสำคัญที่เชื่อมทวีปยุโรปและเอเชียเข้าด้วยกัน โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม จำนวนรถไฟขนส่งสินค้าที่ใช้เส้นทางดังกล่าวมีมากกว่า 6,000 ขบวน

นอกจากนี้ ผู้นำจีนได้เรียกร้องให้มณฑลเจ้อเจียงเดินหน้าปฏิรูปเชิงลึกและเปิดกว้างมากขึ้น โดยขอให้วางแผนปฏิรูปจากมุมมองที่เป็นสากล รวมถึงเปิดกว้างมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงกฎระเบียบ ข้อบังคับ การจัดการ และมาตรฐานต่าง ๆ

ในปี 2564 จีนได้ประกาศแนวทางสนับสนุนมณฑลเจ้อเจียงให้เป็นผู้นำในการจัดตั้งเขตสาธิตเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ความหมายของความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันได้รับการตีความอย่างชัดเจนในมณฑลเจ้อเจียง ผ่านการพัฒนาวิสาหกิจเอกชนไปจนถึงการฟื้นฟูชนบทอย่างต่อเนื่อง

ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันผ่านโครงการต่าง ๆ

เมื่อเดือนมิถุนายน 2546 มณฑลเจ้อเจียงได้ริเริ่มโครงการฟื้นฟูชนบทสีเขียว (Green Rural Revival Program) โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการผลิต ความเป็นอยู่ และสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในชนบท รวมถึงคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้ก่อให้เกิดหมู่บ้านที่สวยงามหลายพันแห่ง และพลิกโฉมหน้าชนบทในมณฑลเจ้อเจียงจากหน้ามือเป็นหลังมือ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาเกษตรกรรมและชนบทให้ทันสมัย ตลอดจนเป็นแบบอย่างของความสำเร็จในการส่งเสริมชนบทให้มีความทันสมัย

หมู่บ้านหลี่จู (Lizu) ในเมืองจินหัว คือหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว โดยเปลี่ยนจากหมู่บ้านที่เสื่อมโทรมและยากจน กลายเป็นหมู่บ้านที่มีสภาพแวดล้อมดีขึ้นและมีการท่องเที่ยวที่เจริญรุ่งเรือง

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เยี่ยมเยือนหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อวันที่ 20 กันยายน และได้รับทราบว่ารายได้ต่อหัวต่อปีของหมู่บ้านสูงถึง 52,000 หยวน (ราว 7,250 ดอลลาร์)

สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ฤดูร้อนปีนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่จีนมีผลผลิตทางการเกษตรอุดมสมบูรณ์ โดยผลผลิตธัญพืชในฤดูร้อนปีนี้อยู่ที่ 146.13 ล้านตัน

ณ สิ้นปี 2565 จีนได้จัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้เปรียบและมีลักษณะเฉพาะขึ้นใหม่ 40 กลุ่ม พร้อมด้วยนิคมเกษตรกรรมและนิคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ระดับชาติ 50 แห่ง และเมืองที่มีภาคการเกษตรที่แข็งแกร่งอีก 200 แห่ง

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความพยายามในการลดช่องว่างระหว่างเขตเมืองกับชนบท ตลอดจนจัดการกับความไม่เท่าเทียมด้านการพัฒนาและรายได้ในภูมิภาค โดยเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูชนบทอย่างทั่วถึง และส่งเสริมอุตสาหกรรมในชนบทที่มีลักษณะเฉพาะของท้องถิ่นอย่างแข็งขัน

"ยังมีอะไรอีกมากมายให้สำรวจและทำ เพื่อความก้าวหน้าในการฟื้นฟูชนบท" นายสี จิ้นผิง กล่าวกับชาวบ้าน พร้อมกระตุ้นให้ชาวบ้านพยายามสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมด้วยความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 20 ปีของการดำเนินยุทธศาสตร์ "การใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบ 8 ประการ และการใช้มาตรการสำคัญ 8 ประการ" ในมณฑลเจ้อเจียง

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง นำเสนอยุทธศาสตร์ดังกล่าวในปี 2546 โดยเรียกร้องให้มณฑลเจ้อเจียงใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบ 8 ประการ เช่น ข้อได้เปรียบด้านระบบและกลไก ข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง และข้อได้เปรียบทางอุตสาหกรรม เป็นต้น ตลอดจนนำมาตรการสำคัญ 8 ประการมาใช้ในการพัฒนามณฑลเจ้อเจียง

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของมณฑลเจ้อเจียงก็ประสบความสำเร็จครั้งใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์

ด้วยตระหนักถึงความสำเร็จเหล่านี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ขอให้มณฑลเจ้อเจียงถือว่าเศรษฐกิจที่แท้จริงเป็นรากฐานในการสร้างระบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ตลอดจนสนับสนุนอุตสาหกรรมดั้งเดิมให้เร่งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่พร้อมใช้งานแล้ว ไปจนถึงส่งเสริมการพัฒนาภาคการผลิตในระดับสูงอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

https://news.cgtn.com/news/2023-09-25/Xi-urges-Zhejiang-to-further-advance-Chinese-modernization-1no6TIHz1O8/index.html


ข่าววิสาหกิจขนาดกลาง+มณฑลเจ้อเจียงวันนี้

สสว. เสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย 5 กลุ่มธุรกิจก้าวสู่ธุรกิจสีเขียว รับสมัคร ฟรี! ถึง 23 พ.ค. นี้

สสว. จับมือ มธ. เดินหน้าโครงการขับเคลื่อนให้ MSME ปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ตอบสนองต่อมาตรฐาน/การกีดกันทางการค้า เพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ธุรกิจสีเขียว (Green Transformation) เน้น 5 กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย โรงแรม/ภาคบริการ ภาคการผลิต ก่อสร้าง ขนส่ง และเกษตร รับสมัครฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 พ.ค. นี้ นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการ สสว. เปิดเผยว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม MSME เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่ยังมีความท้าทายในการปรับตัวสู่แนวทาง

แถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ "Thailand LIVE for ... SLR ร่วมกับ สภาเอสเอ็มอี เปิดตัวแคมเปญ "Thailand LIVE for LIFE - ประเทศไทยต้องไปต่อ" — แถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ "Thailand LIVE for LIFE ประเทศไทยต้องไปต่อ" โ...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. จัดงาน "ปลดล็อคความสำเร็จ SME" ปี 2568 — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะจัดงานเผยแพร่นโยบาย/โครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการส่ง...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคา... SME D Bank ลุยโครงการเติมความรู้บัญชีภาษี ปูทางพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเพียง 3%ต่อปี — นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนา...

"พาณิชย์" คิกออฟโครงการ "Trademark Monitor" เดินหน้าปกป้องแบรนด์ไทย ขยายโอกาสในเวทีโลก

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดตัวโครงการ Trademark Monitor เฝ้าระวังการนำเครื่องหมายการค้าของคนไทยไปจดทะเบียนในต่างประเทศโดยไม่สุจริต มุ่งปกป้องสิทธิ SME ไทย และสร้างความมั่นใจ...