รายงาน ASEAN Consumer Sentiment Study 2023 ของยูโอบี เผยความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของผู้บริโภค และเทรนด์ด้านดิจิทัลแบงก์ในไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย รายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน (ASEAN Consumer Sentiment Study - ACSS) ประจำปี 2566 สะท้อนความรู้สึกของผู้บริโภคต่อสภาวะเศรษฐกิจของไทย พร้อมสำรวจแนวโน้มการนำบริการธนาคารดิจิทัลมาใช้ โดยรายงานการศึกษาพบว่า ผู้บริโภคคนไทยยังคงเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็มีความระมัดระวังและปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัว

รายงาน ASEAN Consumer Sentiment Study 2023 ของยูโอบี เผยความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของผู้บริโภค และเทรนด์ด้านดิจิทัลแบงก์ในไทย
  • ทัศนคติโดยรวมของผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางบวก
  • ร้อยละ 72 ของผู้ตอบแบบสำรวจ แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า ส่งผลให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังกว่าเดิม และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการเงิน โดยเลือกกันเงินสำหรับการออมและการลงทุนมากขึ้น
  • การใช้ธนาคารดิจิทัลและช่องทางการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือและอีวอลเล็ตเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคพร้อมที่จะแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวเพื่อรับข้อเสนอบริการเฉพาะบุคคลจากธนาคาร

นายยุทธชัย เตยะราชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า "รายงาน ACSS ที่จัดทำขึ้นโดยธนาคารยูโอบีฉบับนี้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญสำหรับทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจเพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ธนาคารมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ทุกคนประสบความสำเร็จทางการเงินท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของการบริการธนาคารดิจิทัลที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเปิดรับโอกาสทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน"

รายงาน ASEAN Consumer Sentiment Study (ACSS) เป็นรายงานศึกษาเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก 5 ประเทศในอาเซียน ประกอบด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนิเซีย ไทย และ เวียดนาม เป็นประจำทุกปี รายงานปีที่ 4 ฉบับล่าสุดได้จัดทำขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 โดยในประเทศไทยเป็นการสำรวจคำตอบของผู้บริโภค 600 คนจากหลายกลุ่มประชากร

ความกังวลทางการเงินส่งผลให้ผู้บริโภคชาวไทยใช้จ่ายอย่างรัดกุมและวางแผนการลงทุน

ผลสำรวจพบว่าร้อยละ 57 ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยมีความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่สูงขึ้นร้อยละ 14 เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และความกังวลเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เกี่ยวกับการออมที่ลดลง

นอกจากนี้ รายงานยังระบุแนวโน้มที่น่าสนใจของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุน Gen Z เป็นกลุ่มที่ระมัดระวังที่สุด โดยร้อยละ 41 มีแผนออมเงินมากขึ้นในปีนี้ ในขณะที่ Gen Y มุ่งเน้นการลงทุนมากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น

ความกังวลทางการเงิน ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวไทยรัดกุมกับค่าใช้จ่ายและการลงทุนมากขึ้น ร้อยละ 57 ติดตามค่าใช้จ่ายของตนผ่านแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นให้ความสนใจกับเครื่องมือทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากประจำ อีกทั้งยังกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เครื่องมือทางการเงิน เช่น แผนประกัน อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

จากผลสำรวจ ธนาคารยูโอบีจึงเน้นถึงความสำคัญของการวางแผนความมั่งคั่งในระยะยาว อย่างรอบคอบและมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

"การวางแผนความมั่งคั่งที่เหมาะกับระดับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล และการเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินด้านความยั่งยืนเข้าไปเป็นกลยุทธ์การลงทุนจะช่วยสร้างความมั่งคั่งที่ยืนยาวให้แก่ผู้บริโภคได้" นายยุทธชัยกล่าว

ผู้บริโภคไทยใช้บริการธนาคารดิจิทัลมากที่สุด

ประเทศไทยมีผู้ใช้บริการธนาคารดิจิทัลมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ในปีที่ผ่านมาร้อยละ 61 ใช้แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค วิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ อีวอลเล็ตและการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด รายงานยังพบว่ากว่า 4 ใน 5 ของผู้บริโภคชาวไทยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการลงทุนและการจัดการความมั่งคั่ง โดย Gen Y เป็นกลุ่มที่ใช้บริการด้านการลงทุนมากที่สุด

นอกจากการเปิดรับบริการธนาคารดิจิทัล ผู้บริโภคยังพร้อมแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวกับธนาคารเพื่อรับบริการเฉพาะบุคคลมากขึ้นร้อยละ 89 ของผู้สำรวจเลือกที่จะแบ่งปันข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร มากกว่าแอปพลิเคชันแบบอื่นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของผู้บริโภค ในการเปิดรับข้อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่คัดสรรเฉพาะจากธนาคาร

นายยุทธชัยกล่าวเสริมว่า "ยูโอบีมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเรื่องการธนาคารแบบเฉพาะบุคคล (Personalised Banking) ผ่านแอปพลิเคชัน UOB TMRW ที่ขับเคลื่อนด้วย AI วิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน ทำให้เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และสามารถช่วยให้บริหารจัดการเงินในแบบที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ ธนาคารกำลังพัฒนาแอปพิเคชัน UOB TMRW เพิ่มเติม เพื่อให้คำปรึกษาวางแผนด้านการลงทุนอัตโนมัติแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการการเงินได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากรายงานฉบับนี้"


ข่าวธนาคารยูโอบี ประเทศไทย+รายงานผลการศึกษาวันนี้

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ Womenpreneur: Sustainability and Innovation เสริมศักยภาพผู้ประกอบการหญิง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ Womenpreneur: Sustainability and Innovationเสริมศักยภาพผู้ประกอบการหญิง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน บรรยายใต้ภาพ (จากซ้ายไปขวา): คุณพณิตตรา เวชชาชีวะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Financial Institutions และ ESG Solutions, ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, คุณปิยพร รัตน์ประสาทพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการดิจิทัล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, คุณวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Deputy CEO และ Wholesale Banking, ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, ดร

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดงานสัมมนา "Grow... ยูโอบี จัดสัมมนา Grow Beyond Borders หนุนเอสเอ็มอีขยายตลาดอาเซียน — ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดงานสัมมนา "Grow Beyond Borders เติบโตข้ามพรมแดน ทะยานสู่ตลาด...

บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ ธนาค... เดอะมอลล์ กรุ๊ป - ธนาคารยูโอบี เสิร์ฟความสุขส่งท้ายปี เอาใจสายช้อป สายกิน ฟินรับปีใหม่ — บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เสิร์...

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือก... ยูโอบี จับมือ เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ ร่วมเสริมสร้างความยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว — ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับบริษัท เพรซิเดนท์ เบเก...

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ภูมิใจคว้าสองรางวั... ยูโอบี ประเทศไทย คว้าสองรางวัลผู้นำด้านความยั่งยืน — ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ภูมิใจคว้าสองรางวัลอันทรงเกียรติด้านการธนาคารระดับนานาชาติด้วยจากการเป็นผู้น...