ยูนิลีเวอร์คว้ารางวัล HR Asia Best Companies to Work For 2023 สะท้อนความสำเร็จ 5 ปีซ้อน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ยูนิลีเวอร์คว้ารางวัล HR Asia Best Companies to Work For 2023 สะท้อนความสำเร็จ 5 ปีซ้อน ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและยกระดับศักยภาพบุคลากรให้มีเป้าหมายในการทำงานรอบด้าน

ยูนิลีเวอร์คว้ารางวัล HR Asia Best Companies to Work For 2023 สะท้อนความสำเร็จ 5 ปีซ้อน

ยูนิลีเวอร์ องค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน คว้ารางวัล HR Asia Best Companies to Work For 2023 โดยเป็นปีที่ 5 ที่ยูนิลีเวอร์ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ติดต่อกัน ตอกย้ำความสำเร็จด้านการบริหารจัดการบุคลากรและสะท้อนความมุ่งมั่นของยูนิลีเวอร์ที่ให้ความสำคัญกับภารกิจขององค์กร ในการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนให้กับทุกคน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นว่า การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้บุคลากรมีความก้าวหน้า แบรนด์มีการเติบโต และองค์กรมีความยั่งยืน ทั้งยังเป็นบทพิสูจน์ของความสำเร็จระดับนานาชาติในด้านการส่งเสริมความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก การสร้างรูปแบบการทำงานในอนาคต และการดูแลคุณภาพชีวิตการทำงานรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน ยูนิลีเวอร์คว้ารางวัล HR Asia Best Companies to Work For 2023 สะท้อนความสำเร็จ 5 ปีซ้อน

นางสาว มิง ชู หลิง รองประธานฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลประเทศไทยและภาคพื้นอาเซียน ยูนิลีเวอร์ กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลทรงเกียรตินี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของยูนิลีเวอร์ในการดำเนินกิจกรรมรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์สถานที่ทำงานที่ทุกคนสามารถค้นพบเป้าหมายของตนเองและทำให้เป้าหมายนั้นสอดรับไปกับภารกิจขององค์กร เกิดเป็นการสอดประสานทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การมีทีมงานที่พร้อมให้ความร่วมมือ รู้สึกเติมเต็ม และปรับตัวได้เร็ว ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตขององค์กร เราเชื่อว่าความสำเร็จของบริษัทฯ มีพนักงานเป็นจุดเริ่มต้น ดังนั้นเราจึงพัฒนาและดำเนินโครงการหลากหลายรูปแบบเพื่อมุ่งให้เกิดการพัฒนาทางอาชีพ ยกระดับสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ส่งเสริมความหลากหลายและสนับสนุนความยั่งยืน"

ยูนิลีเวอร์เดินหน้าเต็มกำลังในการรังสรรค์สภาพแวดล้อมที่ไม่มีการแบ่งแยกและมอบโอกาสก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพรวมทั้งสวัสดิการพิเศษให้กับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงเพศสภาพและภูมิหลัง สำหรับประเทศไทย ยูนิลีเวอร์ภาคภูมิใจที่พนักงานระดับกลางกว่าร้อยละ 66 และผู้บริหารระดับอาวุโสกว่า 75% เป็นผู้หญิง ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ยูนิลีเวอร์กำหนดไว้ว่าต้องมีบุคลกรเพศหญิง 50% จากจำนวนพนักงานทั้งหมด นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์ยังให้สิทธิลาคลอดสูงสุดถึง 16 สัปดาห์เพื่อให้คุณแม่ทุกคนได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ และมีวันลา 15 วันสำหรับคุณพ่อเพื่อโอกาสในการสานความสัมพันธ์กับลูกน้อย ขณะเดียวกัน สวัสดิการที่มีความยืดหยุ่นของยูนิลีเวอร์ยังครอบคลุมสำหรับคู่สมรสเพศเดียวกัน รวมถึงคู่สมรสที่กฎหมายไม่รองรับ นอกจากนี้ ในด้านการย้ายถิ่นฐานในการทำงาน (Workforce Mobility) ยังเปิดโอกาสในการย้ายงานทั้งแบบระยะสั้นและและระยะยาวให้กับพนักงานทั่วโลกโดยไม่จำกัดเพศและเชื้อชาติ

ยูนิลีเวอร์เดินหน้ากำหนดรูปแบบการทำงานในอนาคตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรให้สามารถปรับตัวและก้าวหน้าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงาน ภายใต้ 3 มิติสำคัญซึ่งประกอบด้วย งาน แรงงาน และสถานที่ทำงาน (work, workforce, workplace) โดยในส่วนของ 'งาน' พนักงานทุกคนจะได้รับการช่วยเหลือในการพัฒนาแผนการพัฒนาตนเองสำหรับอนาคต (Future Fit Plan) ซึ่งแผนดังกล่าวจะถูกสร้างจากเป้าหมาย ทักษะ ประสบการณ์ และภาวะความเป็นผู้นำของแต่ละคน ยูนิลีเวอร์สร้างโอกาสที่ชัดเจนและให้สิทธิพนักงานเป็นผู้กำหนดเส้นทางการเติบโตด้วยตนเอง สำหรับมิติด้าน 'แรงงาน" ยูนิลีเวอร์เป็นผู้บุกเบิกการจ้างงานรูปแบบใหม่ โดยส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านของการทำงานรูปแบบเดิมๆ โดยการมอบหมายงานตามหน้าที่ (Task) แทนที่จะเป็นตามตำแหน่ง เพื่อให้การใช้ทรัพยากรบุคคลมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้พนักงานมีอิสระและปรับเปลี่ยนได้ตามแต่ละช่วงเวลาของชีวิตที่แตกต่างกัน ขณะที่มิติด้าน 'สถานที่ทำงาน' ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของยูนิลีเวอร์ในการยกระดับประสบการณ์การทำงานแบบไฮบริด ซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างประโยชน์มากมายให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการทำงาน ประสบการณ์ และคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยการทำงานแบบไฮบริดยังสะท้อนความเชื่อมั่นของยูนิลีเวอร์ต่อสถานที่ทำงานว่ามีความสำคัญต่อธุรกิจและบุคลากร เนื่องจากสถานที่ทำงานช่วยมอบโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงาน ยูนิลีเวอร์ตั้งใจสร้างสมดุลระหว่างความต้องการส่วนบุคคล ทีม และธุรกิจ ทั้งยังกำหนดให้ทุกคนมาทำงานที่ออฟฟิศร้อยละ 40 ของเวลาการทำงานทั้งหมด ภายใต้ข้อตกลงและการยินยอมระหว่างผู้จัดการสายงานและพนักงานทั่วไป

ยูนิลีเวอร์ยังมุ่งมั่นเดินหน้าพันธกิจเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพจิต การมีสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว รวมถึงการเติบโต พร้อมเสริมศักยภาพของพนักงานทั้งชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน โดยมีโครงการ 'Healthier U' ที่ให้การสนับสนุนด้านต่างๆ ตามความต้องการของแต่ละบุคคล อาทิ โภชนาการ การออกกำลังกาย หรือสุขภาพจิต ในขณะที่โครงการ 'ช่วยเหลือพนักงานตลอด 24 ชั่วโมง' พร้อมให้ดูแลให้บริการด้านคำปรึกษา การฝึกสติ และความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะทางการเงินที่ดีแก่พนักงานและครอบครัว ที่สำคัญ ความมุ่งมั่นของยูนิลีเวอร์ในการส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียังขยายไปสู่การดูแลความปลอดภัยทางจิตใจซึ่งช่วยให้พนักงานมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นและสามารถเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดได้ในทุกๆ วันเมื่อมาทำงาน

นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์ยังได้จัดทำแบบสำรวจประจำปีกับพนักงานเพื่อประเมินกลยุทธ์และกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบุคลากร ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนรูปแบบต่างๆ ที่เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและในสถานที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยยูนิลีเวอร์ได้คะแนนการประเมินสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมจากทุกหมวดหมู่ ได้แก่ 1) ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก 2) การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล และ 3) การเป็นบริษัทที่เอาใจใส่มากที่สุด ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าบุคลากรคือหัวใจสำคัญของยูนิลีเวอร์อย่างแท้จริง

"ยูนิลีเวอร์ขอขอบคุณพนักงาน พันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำหรับความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่ เราจะยังคงยึดมั่นในภารกิจของการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เสมอภาค และไม่แบ่งแยกสำหรับทุกคน ทุกความพยายามไม่เพียงมีส่วนช่วยสร้างวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมในที่ทำงาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนความสำเร็จที่ยั่งยืนของบริษัทในระยะยาวอีกด้วย" นางสาว มิง ชู หลิง กล่าวสรุป

รางวัล HR Asia 'Best Companies to Work for in Asia' เป็นงานมอบรางวัลสำหรับองค์กรต่างๆ ซึ่งได้รับการยอมรับจากพนักงานว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าร่วมงานด้วยที่สุดของเอเชีย และครองตำแหน่งนายจ้างที่ดีที่สุดสำหรับพนักงาน โดยมีบริษัทชั้นนำต่างๆ ทั่วภูมิภาคเป็นกลุ่มเป้าหมาย และมอบรางวัลแก่บริษัทที่มีแนวทางในการปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลที่ดีที่สุด แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอย่างสูงของพนักงาน และมีวัฒนธรรมการทำงานที่ยอดเยี่ยม ทั้งนี้ เวทีการประกาศรางวัลอันทรงเกียรตินี้มีผู้สมัครจำนวนมากจากหลากหลายองค์กรที่อยู่ในรายชื่อ 500 บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลก (Fortune 500 และจากบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ซึ่งครอบคลุมทั้งบริษัทข้ามชาติและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐ


ข่าวการบริหารจัดการ+บริหารจัดการวันนี้

บลจ.อีสท์สปริง โชว์จ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ 3 กองทุน รวม 342 ล้านบาท ดีเดย์ 22 ธ.ค. 68 นี้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (ES-APPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ส่วนอีก 2 กองทุน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus

บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มห... TGE คว้าเรตติ้ง ESG ระดับ A จาก SET ปี 2568 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างยั่งยืน — บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ได...

กรุงศรี โดย นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานค... Krungsri One Payment คว้ารางวัลระดับโลกด้านนวัตกรรมการชำระเงินองค์กร — กรุงศรี โดย นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุง...

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่ง... กคช. ร่วม ธอส. จัดโครงการส่งเสริมวินัยการเงินในชุมชน ปี 2568 — นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ มอบหมายให้ นายอธิวัฒน์ ศิลาหม้อม ผู้ช่วยผู้ว่...

บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มห... ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568 — บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR ได้รับการประเมินด้า...

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรื... PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568 — บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้รับผลการประเมินความยั่งยืน SET ESG R...