Core Banking Transformation กับ 9 หลักคิด ชุบชีวิตแต้มต่อธนาคาร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปพร้อมกับความคาดหวังที่สูงขึ้นของลูกค้า ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของภาคการเงิน ธนาคารต่างก็ต้องเผชิญความกดดันในการเปลี่ยนแปลงตนเองไปพร้อมกับการสร้างคุณค่าใหม่ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และด้วยความเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลและสตาร์ทอัพฟินเทค รวมไปถึงความต้องการของผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นในเรื่องบริการการธนาคารที่สะดวกและตอบโจทย์เฉพาะบุคคลนี้เอง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ธนาคารต้องเร่งปรับตัวเพื่อคงตำแหน่งในตลาด และสร้างแต้มต่อในการแข่งขันให้กับตนเอง

Core Banking Transformation กับ 9 หลักคิด ชุบชีวิตแต้มต่อธนาคาร

แพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักรุ่นต่อไป Core Banking Transformation กับ 9 หลักคิด ชุบชีวิตแต้มต่อธนาคาร

ระบบซอฟต์แวร์ที่ก้าวหน้าล้ำสมัยสำหรับบริการทางการเงิน คือ แพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักรุ่นต่อไป ที่จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักสำหรับสถาบันทางการเงินต่างๆ ซึ่งออกแบบมาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน เสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้า และปลดล็อกการสร้างนวัตกรรม โดยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักรุ่นต่อไป (next-generation core) ที่จะสร้างแต้มต่อให้สถาบันการเงินแบบเดิมมุ่งสู่ความสำเร็จในอนาคตจะมีความสามารถดังนี้

  • เสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้า ด้วยการเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อและการควบคุมโซลูชันที่เหมาะสมกับโครงสร้างระบบ ที่มอบประสบการณ์ไร้รอยต่อตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
  • เพิ่มประสิทธิภาพคนทำงานด้วยการยกระดับจุดแข็งของพนักงาน และสร้างกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทรงประสิทธิภาพ พร้อมประสิทธิผล และด้วยขั้นตอนที่ลดความจำเป็นในการเขียนโปรแกรมลง ทำให้ทีมวิศวกร และนักพัฒนาสามารถพุ่งเป้าความสนใจไปยังการส่งมอบฟีเจอร์นวัตกรรมใหม่ และสร้างความแตกต่างให้กับคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่จะเสริมสร้างประสบการณ์โดยรวมให้กับลูกค้า
  • ส่งเสริมให้เกิดแนวคิดการทำงานแบบทดลอง (experimental mindset) ด้วยการลดเวลาการปล่อย MVP (Minimum Viable Product) หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมไปถึงการลดเวลาการพัฒนาฟีเจอร์ส่วนย่อยของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วในตลาด (Existing Product Iteration) ซึ่งจะลดความเสี่ยงความล้มเหลวในการทำ "บิ๊กแบง" พร้อมเพิ่มความรวดเร็วและการเรียนรู้
  • เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนจากการทำโครงการการปฎิรูปโครงสร้างระบบ (Transformation) โดยทำให้ประโยชน์ที่คาดหวังต่างๆ ใช้งานจริงได้เร็วขึ้น ลดค่าใช้จ่ายหน้างาน รวมไปถึงลดค่าใช้จ่ายด้านการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษา
  • เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศน์ทางเทคโนโลยีผ่าน Open Banking API ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับการบูรณาการระบบ (System Integration) ที่ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ในแต่ละด้าน (Best-of-Breed Technology) พร้อมกับระบบนิเวศน์ทางเทคโนโลยีปัจจุบัน

แพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักรุ่นต่อไป: หัวใจหลักผลักดันอุตสาหกรรม

แมมบู ประเทศไทย (Mambu Thailand) เผย 9 หลักคิดที่ธนาคารควรเดินตามในแผนงานการพัฒนาระบบไอทีหลักรุ่นใหม่ สู่เป้าหมายการเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวท็อปผู้ให้บริการด้านการเงินในยุคใหม่ โดยแมมบูขอเชิญชวนมาร่วมสำรวจดูว่าหลักการเหล่านี้ ว่าจะสามารถช่วยให้ธนาคารเติมโตและประสบความสำเร็จในยุคที่เรากำลังมุ่งสู่ความเป็นดิจิทัลในทุกๆวันนี้ อย่างไร ดังนี้

ผู้คนและสภาวะผู้นำ

1. เริ่มจนจบ ครบในใจ
วางแผนฉากทัศน์ในอนาคตที่ชัดเจน สามารถนำไปต่อยอดในการผลักดันกลยุทธ์ทางธุรกิจ และการมอบคุณค่าให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สร้างเส้นทางสู่จุดมุ่งหมายที่ทะเยอทะยาน รวมไปถึงภาพรวมของผลลัพธ์ในตอนท้าย ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานของกระบวนการ Transformation

2. คิดก้าวใหญ่ เริ่มก้าวเล็ก
ลดความรู้สึกต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ด้วยการเริ่มจากความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่สามารถช่วยจัดการความเสี่ยง ลดค่าใช้จ่ายหน้างาน และทำให้สำเร็จได้เร็ว เช่น เริ่มก้าวแรกด้วยการสร้างคุณค่าทางการธนาคารดิจิทัลบนระบบไอทีใหม่นอกระบบเดิม ซึ่งจะทำให้เกิดการย้ายแนวคิดจากแกนเก่าสู่แกนใหม่ได้อย่างเป็นธรรมชาติต่อไป

3. วิน-วินถ้วนหน้า
ด้วยจุดมุ่งหมายในการสร้างความเข้าใจและการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องที่สำคัญทั่วทั้งกลุ่มงานธุรกิจและเทคโนโลยี พยายามย้ำถึงเป้าหมายความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง โดยเน้นไปที่ผลประโยชน์โดยตรงของการนำแพลตฟอร์ไอทีหลักใหม่มาใช้ในแต่ละทีม

เทคโนโลยี

4. เป็นเจ้าของโครงสร้างความแตกต่าง
ธนาคารควรเป็นเจ้าของทุกปัจจัยที่สร้างความแตกต่างในคุณค่าที่นำเสนอให้กับลูกค้า เช่น การนำแอพพลิเคชันและส่วนประกอบการใช้งานบริการธนาคาต่างๆ ผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ภาพรวมสุดท้ายที่แตกต่าง

5. อย่าเสียเวลาสร้างเองไปซะทุกอย่าง
ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างหรือปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่แล้วทุกครั้ง ควรจัดการเพียงแต่สิ่งต้องเปลี่ยนแปลงเท่านั้น โดยแมมบูแนะนำให้ธนาคารยึดแนวคิด Composability ที่จะทำให้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด สามารถทำงานร่วมกันกับส่วนประกอบทางเทคโนโลยี ที่มีต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการพัฒนา

6. สร้างความแตกต่างรอบระบบหลัก
ในการสร้างแต้มต่อในการแข่งขัน องค์กรต่างๆ สามารถปรับใช้ความสามารถทางเทคโนโลยีในการบูรณาการ Component ต่างๆ ในระบบนิเวศน์เพื่อสร้างโครงสร้างระบบองค์รวมที่ไร้รอยต่อ (Seamless Architecture) ซึ่งอาจทำได้โดยการต่อยอดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ (Product Factory) ของแพลตฟอร์มไอทีหลักของธนาคารดิจิทัล ซึ่งเน้นไปที่ระบบการตั้งและกำหนดค่า (Configuration) มากกว่าการโค้ดดิ้ง สิ่งนี้ช่วยให้ฝ่ายธุรกิจสามารถมีส่วนรวมในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น

โมเดลปฎิบัติการณ์

7. โอบรับแนวคิดเพื่อนวัตกรรม
ปลูกฝังแนวคิดเพื่อนวัตกรรมภายในองค์กรในทุกระดับ โดยอาจเริ่มจากแนวคิดการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การทำงานแบบ Agile และการแบ่งพัฒนางานเป็นส่วนย่อย (Iterative Approach) โดยมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ต่อเนื่องและส่งเสริมการลองผิดลองถูก โดยแนวคิดนี้จะช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์จากความเร็วในการส่งมอบเข้าสู่ตลาดหรือการปรับปรุงระหว่างอยู่ในตลาด Composability และดิจิทัล โดยมีระบบไอทีแกนใหม่เป็นเบื้อหลัง

8. มองระยะยาว ทะยานสู่โมเดลการทำงาน End-to-end
ให้ฝ่ายธุรกิจสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาตั้งแต่ต้น โดยการดึงผู้ที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการ Transformation รวมไปถึงการวางแผนในการสร้างเสริมศักยภาพ ความต่อเนื่อง และการคงรักษาทรัพย์สินทางปัญญา

9. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือเพื่อ Transformation
ในบางครั้ง ผู้พัฒนาระบบภายใน และทีมจัดการโปรเจ็กต์อาจไม่มีกำลัง หรือ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับโปรเจ็กต์การธนาคารที่ซับซ้อนเพียงพอ ธนาคารจึงควรร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และที่ปรึกษาที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการแบ่งปันองค์ความรู้ หรือกำลังคนสำหรับงานที่ดำเนินตามปกติของภาคธนาคาร

คู่แข่ง ตลาด และพฤติกรรมนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ธนาคารปัจจุบันต่างถูกคาดหวังให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแข่งขันได้อย่างทัดเทียมในอุตสาหกรรมที่ผู้ให้บริการ ด้านธนาคารรุ่นใหม่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งความคาดหวังนี้รวมไปถึง การส่งมอบประสบการณ์ ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า พร้อมการเติบโตต่อเนื่องในตลาด แมมบูหวังว่า หลักคิดในการทำ Core Transformation นี้จะช่วยให้สถาบันทางการเงินสามารถนำไปพัฒนาประสบการ์ณลูกค้า ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไป จนถึงการนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป


ข่าวการแข่งขัน+สตาร์ทอัพวันนี้

ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100 ล้าน

สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA ร่วมกับ ฟาร์ม เอ็กซ์โป เดินหน้าจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กลุ่มบริษัท ซี แอล พี (CLP Group) และ การยางแห่งประเทศไทย (Rubber Authority of Thailand) เปิดเวทีการแข่งขัน "AGRITHON by ARDA Season 2" เฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมเกษตรระดับประเทศจากนักวิจัย สตาร์ทอัพ เกษตรกรรุ่นใหม่ และเยาวชนทั่วประเทศ คุณชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนที่ 26 กล่าวว่า

เวทีการแสดงเพื่อเด็กและเยาวชน นิทรรศน์รัต... เวทีการแสดงเพื่อเด็กและเยาวชน นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เดือนพฤษภาคมนี้ — เวทีการแสดงเพื่อเด็กและเยาวชน นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เดือนพฤษภาคมนี้ พบกับการแสดงอันทรง...

Yanmar Holdings มีความภูมิใจที่จะประกาศกา... ยันม่าร์ ประกาศอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนสมาคมฟุตบอลอาเซียน — Yanmar Holdings มีความภูมิใจที่จะประกาศการสนับสนุนอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันฟุตบอลทีม...

ในปี 2568 นี้เป็นปีที่การเจริญสัมพันธไมตร... วิทยาลัยดุสิตธานีร่วมกับสถานทูตเปรู จัดแข่งทำอาหารฉลอง 60 ปีสัมพันธ์ไทย-เปรู — ในปี 2568 นี้เป็นปีที่การเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธาร...

ในวาระครบรอบหนึ่งปีของการเปิดตัว Dell AI ... เดลล์ เทคโนโลยีส์ เร่งนวัตกรรม AI ในองค์กร ด้วย NVIDIA ตั้งแต่พีซีจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ — ในวาระครบรอบหนึ่งปีของการเปิดตัว Dell AI Factory ร่วมกับ NVDIA เดล...