บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีปิดการแข่งขัน ICT Competition 2022-2023 พร้อมจัดงานประชุมวิชาการด้านไอซีที (ICT Academy Instructor Conference) เป็น ครั้งแรกเพื่อรับรองและเป็นเกียรติแก่มหาวิทยาลัยพันธมิตรกับหัวเว่ย และความร่วมมือในโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อบ่มเพาะนักศึกษาที่มีศักยภาพ ภายในงานซึ่งมีการถ่ายทอดสด ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารหัวเว่ย และทีมนักศึกษาไทยที่ชนะการแข่งขัน ตลอดจนผู้แทนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และมหาวิทยาลัยพันธมิตรของหัวเว่ยเข้าร่วมด้วย
การแข่งขันในปีนี้แบ่งเป็นสองประเภท คือ คลาวด์ และเครือข่าย โดยมีนักศึกษารวม 18 คน 6 ทีมที่ได้รับรางวัล หลังจากการแข่งขันในรอบต่าง ๆ พร้อมกิจกรรมเสริมการเรียนรู้อันหลากหลาย ทีมจากคณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังก็คว้าชัยในการแข่งขันประเภทคลาวด์ โดยมีทีมจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเดียวกัน ครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับอันดับหนึ่ง และทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับสองของประเภทคลาวด์
สำหรับประเภทเครือข่าย ทีมจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังคว้าชัยชนะเลิศไปเช่นเดียวกัน โดยมีทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ยังได้รับประสบการณ์ที่เพิ่มพูนทักษะทางเทคนิคให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน อีกด้วย
ในงานนี้ หัวเว่ยยังได้มอบทุนการศึกษาและรางวัล รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมไปถึงอุปกรณ์อันทันสมัยเพื่อประโยชน์ในการศึกษาของนักศึกษา และได้รับโอกาสพิเศษเข้าฝึกงานกับหัวเว่ยให้แก่ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันอีกด้วยซึ่งจะทำให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์ตรงทางด้านอุตสาหกรรม และผลักดันให้นักศึกษาแสวงหาโอกาสต่อยอดอีกมากมายในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หัวเว่ยยังร่วมกับคณาจารย์ทางวิชาการด้านไอซีทีในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อแนะแนวทางแก่นิสิตนักศึกษาในการประกอบอาชีพอย่างประสบความสำเร็จ รวมทั้งให้ข้อมูลข่าวสาร การจัดงาน การฝึกอบรม และการแข่งขันต่าง ๆ ในอนาคต
นายเจย์ เฉิน ประธานคณะกรรมการหัวเว่ย ประเทศไทย ได้กล่าวในงานว่า "ในประเทศไทย มีคำกล่าวว่า 'บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น' ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดริเริ่มพัฒนาทักษะบุคลากรของหัวเว่ย ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยความพยายามร่วมกัน เราสามารถช่วยอุดช่องว่างและสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับความสำคัญในการเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับการศึกษาและพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพควบคู่กันไป"
นายปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมและศูนย์วิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย (Startup Thailand Center) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า "การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลต่อการขาดแคลนบุคลากร รวมไปถึงผู้ประกอบการนวัตกรรมที่มีทักษะในประเทศไทย ทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติจึงต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะและความรู้ทางดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับคนรุ่นต่อไป เพื่อให้พวกเขามีความพร้อมที่จะช่วยสร้างและส่งต่อด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ หัวเว่ย ซึ่งเป็นพันธมิตรภาคเอกชนที่สำคัญก็ได้สนับสนุนการสร้างสรรค์สรรพกำลังด้านบุคลากรที่มีทักษะทางไอซีทีอย่างต่อเนื่อง และเราก็ได้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อบ่มเพาะผู้ประกอบการและบุคลากรที่มีศักยภาพด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ"
ด้านนายโภไคย ศรีรัตโนภาส ผู้ช่วยอธิการบดี งานด้านกิจการพิเศษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะและบุคลากรด้านดิจิทัลที่มีต่อประเทศไทยว่า "ในการที่เราจะสร้างอีโคซิสเต็มด้านนวัตกรรมดิจิทัล สิ่งสำคัญประการแรกคือการดึงความชำนาญเฉพาะด้านของแต่ละมหาวิทยาลัยรวมถึงนิสิตนักศึกษาในสถาบันนั้น ๆ ออกมาต่อยอดความร่วมมือกับภาคเอกชนด้านงานวิจัย สิ่งสำคัญประการที่สองคือการสนับสนุนด้านงบประมาณจากภาคเอกชน รวมถึงการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ การให้เรียนรู้ปัญหาและกลยุทธ์ในการเดินหน้าสู่ความสำเร็จในโลกธุรกิจ และสิ่งสำคัญประการที่สามคือการสร้างระบบการเรียนรู้ ที่ช่วยส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษาเลือกทำโครงการหรือเรียนรู้หลักสูตรต่าง ๆ ได้ตามต้องการ สามสิ่งที่กล่าวมานี้จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเร่งเสริมสร้างอีโคซิสเต็มด้านดิจิทัลในประเทศไทยให้เกิดขึ้นได้อย่างเร็วและแข็งแกร่งขึ้น"
ในปี 2565 หัวเว่ย ประเทศไทย ร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) จัดทำเอกสารแม่บท (white paper) เรื่องการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัลแห่งชาติของประเทศไทย (Thailand's National Digital Talent Development) ซึ่งระบุถึงความท้าทายหลัก 11 ข้อ และข้อเสนอแนะด้านนโยบาย 5 ข้อ ตามเอกสารดังกล่าว เศรษฐกิจดิจิทัลจะเพิ่มสัดส่วนเป็นร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย (GDP) ภายในปี 2570 หัวเว่ยจึงได้ขยายขอบเขตการแข่งขันปีนี้ และเพิ่มทุนการศึกษาให้แก่ทีมผู้ชนะ เพื่อให้สอดรับกับคำมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านไอซีทีในไทย
ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้มีการฝึกอบรมบุคลากรที่มีศักยภาพทางดิจิทัลสำเร็จหลักสูตรกว่า 70,000 คนในประเทศไทย นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ทำให้ได้รับรางวัล Prime Minister Award ด้าน "สุดยอดองค์กรดีเด่นด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์" (Best Contributor in Human Capital Development) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตามกลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพทางดิจิทัลปี 2566 หัวเว่ยได้กำหนดเสาหลักการพัฒนาศักยภาพทางดิจิทัลสามประการสำคัญ ได้แก่ ภาวะผู้นำ (Leadership), องค์ความรู้และทักษะ (Knowledge and Skills), และวิชาชีพและอาชีพ (Profession and Vocation) ในพิธีมอบรางวัลนี้ หัวเว่ยและพันธมิตรยังได้แถลงเกี่ยวกับโครงการพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพอีกหลายโครงการสำหรับประเทศไทย ทั้งที่อยู่ระหว่างดำเนินการและโครงการในอนาคต ซึ่งจะช่วยต่อยอดยุทธศาสตร์ใหม่เหล่านี้ในการยกระดับแรงงานดิจิทัลในอนาคตของประเทศไทยให้สูงขึ้น
การแข่งขัน ICT Competition เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2558 ในฐานะโครงการความร่วมมือริเริ่มภายใต้ Huawei ICT Academy ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับองค์กร (school-enterprise project) ที่หัวเว่ยจัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการเสริมทัพบุคลากรที่มีทักษะด้านไอซีทีด้วยผู้ประกอบวิชาชีพที่มีคุณภาพระดับสูง ผ่านความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ 37 แห่งในประเทศไทย ในการประชุม Instructor Conference นี้ หัวเว่ยได้กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการแสวงหาความร่วมมือเพิ่มเติมระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และนักวิชาการเพื่อวาง แนวทางการฝึกอบรมทักษะทางดิจิทัลให้สอดคล้องกับความจำเป็นภาคอุตสาหกรรม และสร้างบุคลากรที่มีทักษะรองรับอย่างมีประสิทธิผล ทั้งนี้ หัวเว่ยยังเชิญชวนให้มหาวิทยาลัยอื่นเข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างระบบนิเวศบุคลากรที่มีศักยภาพแข็งแกร่งไว้รองรับความต้องการในยุคดิจิทัลในประเทศไทยต่อไป
เอ็นไอเอชวนเจาะโมเดลสร้างเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม "นิลมังกร" แปลงร่างคนตัวเล็กให้กลายเป็นฮีโร่ของเศรษฐกิจท้องถิ่นไทย
จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
เอ็นไอเอ ชวนร่วมออกแบบ "ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมธุรกิจสตาร์ตอัป" หนุนกลไกสนับสนุนธุรกิจกลุ่มเทคฯ อย่างตรงจุด
ครั้งแรกในไทย นวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่ออนาคตสุขภาพสัตว์เลี้ยง
เอ็นไอเอ ผนึกพันธมิตร เปิดพื้นที่ให้ "นวัตกรรุ่นใหม่" โชว์นวัตกรรมสร้างโลกยั่งยืนใน "STEAM4INNOVATOR's Day 9.9"
เอ็นไอเอเปิดฟอรั่มโอกาสเฮลท์เทคไทย พร้อมเผยผลการจัดอันดับนวัตกรรมโลก 2025
STA รับประกาศนียบัตร SDGs for Climate X Program ตอกย้ำความมุ่งมั่น ESG และนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
NIA ร่วมกับ ซีพี ซีดดิ้ง โซเชียลอิมแพคท์ ผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน