หลังจากเรียนจบคณะวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร (ICE) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เมื่อปี 2552 "อาร์ม-ธนะวิทย์ พุฒิเชาว์วัฒน์" ก็เริ่มต้นทำงานในสายอาชีพที่ได้เรียนมา ด้วยการรับวางระบบไอที ควบคู่ไปกับการทำร้านเกมส์ จากนั้นด้วยพื้นฐานที่ชอบการทำธุรกิจเป็นทุนเดิม จึงริเริ่มทำธุรกิจเล็กๆร่วมกับฝาแฝด "โอม-ธนะโรจน์ พุฒิเชาว์วัฒน์" ด้วยการเปิดแฟรนไชส์ร้านสเต็กและอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น และเปิดร้านอาหารไทยเพิ่มอีก จนสุดท้ายเปิดแฟรนด์ไชส์น้ำอิตาเลียนโซดา โดยเน้นเปิดร้านในย่านโรงเรียนและสถานศึกษา มีนักเรียนเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก แต่เมื่อต้องพบกับวิกฤติโควิด-19 โรงเรียนถูกสั่งปิดการเรียนการสอน จึงส่งผลกระทบต่อยอดขาย ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจหยุดทำแฟรนไชส์นี้
จนเมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ผู้คนเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอย ทั้งอาร์มและโอมจึงมองหาแฟรนด์ไชส์ ที่ไม่ต้องทำเองหรือเสียเวลากับเรื่องการตลาดที่เป็นเรื่องท้าทายมากในภาวะเช่นนี้ ตอนนั้นพวกเขาพิจารณาหลายธุรกิจ และตกผลึกกันว่า "ธุรกิจห้าดาว" ตอบโจทย์ความต้องการที่สุด ทั้งเรื่องการส่งของ การสั่งสินค้าจากบริษัทโดยตรง ทำให้ไม่ต้องซื้อของและไม่ต้องปรุงเอง เรื่องนี้ถือว่าได้ใจทั้งสองคนที่เป็นผู้ประกอบการที่เคยลองผิดลองถูกกับธุรกิจแฟรนไชส์มาตลอด โดยเฉพาะประสบการณ์ที่ผ่านมาจากการทำร้านอาหาร ที่จะเป็นต้องมีสต๊อกวัตถุดิบ ต้องมีคนดูแลจัดซื้อ การคำนวณและควบคุมสต๊อกค่อนข้างยุ่งยาก
"เราเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ก่อนเรียนจบ เรียกว่าผ่านประสบการณ์มาเยอะ ทั้งสำเร็จและล้มเหลว เมื่อศึกษาห้าดาวพบว่ามีโอกาสโตและไป ต่อได้ เพราะแบรนด์ห้าดาวเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว และยังมีระบบบริหารจัดการที่ดี ทีมงานใส่ใจในการสร้างแบรนด์สินค้าและจับมือผู้ประกอบการให้เติบโตไปพร้อมๆกัน โดยมีห้าดาวเป็นหลังบ้านให้ ด้วยการจัดหาวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ผ่านการคิดสูตรและปรุงอย่างใส่ใจ มีการโปรโมทแนะนำสินค้าใหม่ๆ ทำให้เราไม่ต้องคิดโปรโมชั่นเอง สินค้าก็ได้รับการพัฒนาแล้วและมีสินค้าใหม่ๆออกมาตลอด รสชาติดี ตรงตามความต้องการลูกค้า เราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้ จึงง่ายต่อการขยายสาขาใหม่ๆ ยิ่งร้านเราเน้นเรื่องการขายหน้าร้าน การบริการลูกค้า บริหารจัดการพนักงานให้ดี ก็ทำให้สามารถเปิดได้หลายสาขาในระยะเวลาไม่นาน" อาร์ม กล่าว
อาร์มร่วมกับทีมห้าดาวในการพิจารณาทำเลร้าน ที่อยู่หน้าตลาดซึ่งมีกลุ่มลูกค้าค่อนข้างมาก จึงตัดสินใจเปิดร้าน Five Star สาขาหนองกระทุ่ม จังหวัดนครราชสีมา ในรูปแบบกลาสเฮาส์เป็นสาขาแรก เมื่อช่วงปลายปี 2565 เสียงตอบรับดีมาก เพราะสินค้าเป็นมาตรฐานและลูกค้าเห็นความแข็งแรงของแบรนด์ จากสาขา 1 ขยายสู่สาขา 2 Five Star ปตท.สวนสัตว์ ใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยสาขาแรกคืนทุนภายใน 3 เดือน ส่วนสาขาที่สองคืนทุนในเวลาเพียง 2 เดือน ต่อมาจึงขยายร้านสาขา 3 Five Star ถนนสืบสิริ และสาขา 4 Five Star โรงพยาบาลลพบุรี ในระยะเวลาใกล้ๆกัน และวางแผนว่าภายในปีนี้จะเปิดให้ได้ 10 ร้าน อาร์มบอกว่า ความสำเร็จนี้เกิดจากระบบที่แข็งแรงของธุรกิจห้าดาว มีระบบสต๊อก มีโค้ดขายที่รัดกุมและง่ายต่อการตรวจสอบ ที่สำคัญคือการสนับสนุนที่ดีของบริษัท ที่ส่งทีมงานมาตรวจสอบมาตรฐานแบบสุ่มตรวจอย่างสม่ำเสมอ ส่วนสินค้าก็มีทีมซัพพอร์ตตลอดเวลา มีการขนส่งที่เข้มงวด
เมื่อถามถึงเทคนิคการบริหารร้านหลายๆสาขา อาร์มเล่าว่า เขามีผู้จัดการหนึ่งคนเป็นผู้ช่วยบริหารแต่ละร้าน และดูแลทีมงานทั้ง 11 คน ทำให้เขามีเวลาในการมาบริหารร้านอาหารกิจการของตนเอง ที่ทำการขยายใหม่ได้อีก ซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความขยัน อดทน บางอย่างต้องใช้เวลา รอเวลาที่เหมาะสม โดยเน้นระบบและทีมงาน "ระบบที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง" เพราะเคยลองทำร้านแบบที่ไม่ต้องวางระบบสุดท้ายก็ไปต่อไม่ได้ แม้บางคนมองว่าระบบยุ่งยาก แต่การที่จะทำธุรกิจสักอย่างต้องเขียนแผนธุรกิจ คนซื้อเป็นใคร มีระบบตรวจสอบย้อนกลับอย่างไร เขาเป็นฝ่ายบริหารก็ต้องทำระบบให้แข็งแรงก่อน
"ห้าดาวตอบโจทย์ เรื่องการสร้างงานสร้างอาชีพ เพราะใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่ผลตอบแทนกลับมาถือว่าน่าพอใจ เป็นแฟรนด์ไชส์ที่ ไม่แพง เมื่อขายไปสักพักเราจะรู้หลักการบริหารจัดการที่ดี บริษัทมีทีมงานซัพพอร์ท มีการพัฒนาสินค้า ตอบรับกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว การขายต้องตามเทรนด์ โดยมีการฝึกอบรมทั้งเถ้าแก่และทีมงานก่อน เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน วันนี้ผมและฝาแฝดที่ได้เริ่มต้นธุรกิจห้าดาวไปพร้อมๆกัน ต่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะรายได้ที่มั่นคงจากการขายห้าดาว ทีมงานของเราก็มีอาชีพที่มั่นคง ได้แบ่งปันรายได้ไปถึงครอบครัวของพวกเขาเช่นกัน" อาร์ม กล่าว
อาร์ม-ธนะวิทย์ คืออีกหนึ่งตัวอย่างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่เชื่อมั่นในระบบการทำงานที่เข้มแข็ง และมั่นใจแฟรนไชส์ห้าดาวที่ตอบโจทย์คนอยากมีอาชีพ และเป็นอีกเส้นทางสร้างอาชีพมั่นคง
รองศาสตราจารย์ ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (มทม.) ในฐานะประธานคณะขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาเขตหนองจอก (คคพ.เขตหนองจอก) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการถ่ายทอดองค์ความรู้และจัดสร้าง-ส่งมอบเตาเผาขยะชีวมวลลดมลพิษ ระหว่าง คคพ.เขตหนองจอก กับโรงเรียนเครือข่ายในสังกัดกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก จำนวน 37 แห่ง โดยมี นางสาวยุวนุช นงพรมมา ผู้อำนวยการเขตหนองจอก ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วย นายวรเกียรติ สุจิวโรดม 'นักธุรกิจเจ้าของชาวนามหานคร'ประธาน
เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษา ม.เทคโนโลยีมหานคร เยี่ยมชมกระดาษจากไม้ปลูก
—
ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษาสาขาวิชาการจัดการ และสาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุร...
ม. มหานคร ฉีกกฎการเรียนวิศวะ! นศ. ปี 4 เน้นเรียนแบบ "Real-World Learning" ประเดิม 2 สาขา เริ่ม มิ.ย. 2566
—
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) แสดงให้เห็นถึ...
ม. เทคโนโลยีมหานคร จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศและโฉมหน้าของ EV ยุคต่อไป"
—
นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ (กลาง) รองประธานฝ่ายกิจการองค์กร...
ม.มหานคร เปิด MUTIC สอนหลักสูตรนานาชาติสาขาวิศวกรรมฯ และบริหารธุรกิจ ป้อนตลาด SEA พร้อมรับเทรนด์รุ่นใหม่คือโกอินเตอร์
—
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) เ...
MUT ย้ำจุดยืนกว่า 3 ทศวรรษ แนวคิดแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ "เรียนจริง รู้จริง ลงมือทำจริง และพร้อมเปิดกว้างสำหรับทุกคน"
—
MUT ย้ำจุดยืนกว่า 3 ทศวรรษ แนวคิดแต...
MUT เฟ้นหานวัตกรรุ่นเยาว์สร้างหุ่นยนต์กู้ภัย "E-Tech All Day" ชลบุรีคว้าแชมป์ RMRC RoboCup 2022 จูเนียร์ลีกเป็นตัวแทนประเทศไทยสู้ศึก World RoboCup 2022
—
มหาวิทยาลัย...
สุดเฉียบ! DTI จับมือ MUT เปิดตัวหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดขนาดเล็ก "D-EMPIR version 4"
—
DTI จับมือ MUT เปิดตัวหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดขนาดเล็ก "D-EMPIR...