เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ชี้ธุรกิจประกันในประเทศไทยโตได้อีก หลังพบปัจจัยบวก ตลาดมีช่องว่างในการเติบโต กลุ่มสูงวัยที่เพิ่มมากขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังเจอโรคระบาด ปัญญาประดิษฐ์ช่วยวิเคราะห์ เตรียมเดินเครื่องธุรกิจเต็มสูบภายใต้การบริหารงานของซีอีโอคนใหม่ ผ่านกลยุทธ์ "Lifetime Partner 24: Driving Growth" พร้อมผลักดัน 3 แนวทางหลัก Distribution Focused - Customer FIRST - People Empowerment เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรประกันคุณภาพในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นาย อาร์ช คอลมิ (Mr. Arsh Kaumi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า "สำหรับภาพรวมของธุรกิจประกันทั่วโลกตั้งแต่ต้นปี 2566 นับว่ามีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แม้จะเจอความท้าทายด้านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จากความขัดแย้งระหว่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลกระทบในภาคการเงินและภาวะเงินเฟ้อ ส่วนตลาดประกันในประเทศไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและยังมีช่องว่างในการเติบโตได้อีก โดยมีปัจจัยบวกด้านต่างๆ ได้แก่ อัตราผู้ถือกรมธรรม์ประกันยังมีช่องว่างในการเติบโตได้อีก ประกอบกับกลุ่มผู้สูงวัยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงแนวคิดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการนำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจประกัน
โดยเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้เล็งเห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ จึงได้เตรียมแผนการตลาดสำหรับรองรับปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลา 3 ปี ภายใต้กลยุทธ์หลัก Lifetime Partner 24: Driving Growth ด้วยการผลักดัน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ Distribution Focused เสริมแกร่งช่องทางการขาย ผนึกกำลังในรูปแบบMulti-channel distributions เพื่อรองรับการจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกความต้องการและทุกช่องทาง แบ่งออกเป็น ช่องทางการขายผ่านตัวแทน (Agency) โดยมุ่งเน้นการสร้างพื้นฐานเพื่อให้มีความพร้อมในการเติบโตแบบก้าวกระโดด สร้างเครือข่ายตัวแทนมืออาชีพ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเครื่องมือ เพื่อสนับสนุนการเติบโต การพัฒนาศักยภาพ และยกระดับคุณภาพของตัวแทน สำหรับการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใน กลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน (Bancassurance) ได้ตั้งเป้าที่จะลงทุนเพื่อสร้างการบริการที่เหนือระดับ ใช้นวัตกรรมมาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจที่ทำร่วมกับพาร์ทเนอร์ได้มากยิ่งขึ้น ในส่วนช่องทาง Direct Marketing ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึง (Reach) และการจับมือกับพันธมิตรกลุ่มลอยัลตี้แพลตฟอร์มเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่หลากหลายและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ ช่องทางประกันกลุ่ม เรามุ่งไปที่การสร้างคุณภาพการบริการในด้านต่างๆ โดยเฉพาะบริการด้านสินไหม สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีอยู่กว่า 800 องค์กร นอกจากนี้ ในส่วนของ การประกันวินาศภัยสำหรับองค์กร (GC&C- Global Corporate & Commercial) เราได้ขยายความร่วมมือกับกลุ่มโบรกเกอร์ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการสร้างการเติบโตของช่องทางการขาย
แนวทางต่อมาคือ กลยุทธ์ด้านการให้บริการ อย่าง Customer F.I.R.S.T. ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านงานบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับความรวดเร็ว เข้าถึงง่าย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยระยะเวลากว่า 1 ปี ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า ส่งผลให้คะแนนสำรวจความพึงพอใจผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ (Relational Net Promoter Score- RNPS) ขึ้นเป็นอันดับ 1 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้นำข้อมูลจากการสำรวจความต้องการของลูกค้า มาพัฒนาเป็นกิจกรรมให้ลูกค้าผ่าน Customer Engagement ด้วยประสบการณ์ในแบรนด์แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ต่างๆ ผ่านกิจกรรมที่มีหลากหลาย สำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม เป็นต้น
สุดท้ายคือ People Empowerment หรือการขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรด้วยบุคลากรคุณภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กรเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ด้วยการนำแนวคิด Smart work place strategy มาปรับในการทำงานแบบไฮบริด เพิ่มความยืดหยุ่นให้พนักงานสามารถวางแผนรูปแบบการทำงานได้ด้วยตัวเอง แบบ 50:50 ระหว่างการทำงานที่บ้านและการทำงานที่ออฟฟิศ รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้ ด้วยการเสริมทักษะ Soft-Skill และ Hard-Skill เพื่อการเติบโตข้ามสายงาน รวมถึงการสร้างโอกาสในการเติบโตและทางเลือกในการทำงานกับส่วนงานระดับนานาชาติ และแนวคิดที่สำคัญคือการสนับสนุนความหลากหลายและความเสมอภาคของบุคลากรในทุกมิติ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การเป็นเพื่อนผู้เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิตประสบความสำเร็จ อันประกอบด้วยการสร้างวัฒนธรรมของความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียมและความเสมอภาค (Equity) และการยอมรับในความต่างและการมีส่วนร่วม (Inclusion)"
นายอาร์ช กล่าวต่อว่า "นอกเหนือจากการปรับแผนกลยุทธ์ระยะสั้น 3 ปี แล้ว บริษัทฯ ได้เตรียมพัฒนาธุรกิจด้านอื่นๆ อย่างรัดกุม ทั้งการปรับความสมดุลในพอร์ตของประกันชีวิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและจัดสรรเงินทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และดึงนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยตั้งแต่กระบวนการ ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผู้บริโภค การเสนอขายผลิตภัณฑ์ บริการหลังการขาย การพิจารณาสินไหม ที่ยึดปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล มาตรฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น มาตรฐานการรายงานทางการเงิน (TFRS) รวมถึงความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) โดยอยู่ภายใต้กรอบและแนวปฏิบัติของหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรด้านประกันที่มีคุณภาพในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระยะเวลา 3-5 ปี ต่อจากนี้"
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ชวนเปลี่ยนคะแนน GEN Point เป็นเงินบริจาค ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้
เจนเนอราลี่ สนับสนุนงาน Little Venture 2025 เปิดโลกผจญภัย สร้างสรรค์ประสบการณ์ ให้เยาวชนและครอบครัว
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ พลิกโฉมแอป GEN 365 ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า สู่แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านประกันชีวิตครบวงจร
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ มอบของขวัญอันทรงคุณค่า แทนคำขอบคุณแด่ลูกค้าคนสำคัญ
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการครึ่งปี 2025 โต 17% เร่งเครื่องสู่ผู้นำตลาดประกันในไทย
เจนเนอราลี่ฉลองเปิดสำนักงาน Generali Center โฉมใหม่ เสริมศักยภาพเครือข่ายตัวแทน เดินหน้าสู่การเติบโตเชิงกลยุทธ์
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เสริมแกร่งตลาดประกันอีสาน เปิดสำนักงานใหม่ สีคิ้ว นครราชสีมา
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดบ้าน ต้อนรับเยาวชน เรียนรู้การออมและ AI เพื่ออนาคต
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ฉลองเดือนแห่งวันแม่ จัดเวิร์กช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เติมเต็มความอบอุ่นผ่านคลาสทำขนมคู่แม่ลูก