- แซดทีอีมุ่งสร้างดีเอ็นเอผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัล เพื่อการพัฒนาจากการทำซ้ำและการพัฒนานวัตกรรมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายคือเพื่อสร้างสรรค์สังคมโดยรวมใหม่
- แซดทีอีแสวงหาความพยายามร่วมกันเพื่อความก้าวหน้าที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในแง่ของประสิทธิภาพสูงสุด สมรรถนะที่ยกระดับให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการประยุกต์ใช้งานที่เป็นอัจฉริยะและทำให้เรียบง่าย
- ระหว่างงาน MWC เซี่ยงไฮ้ ซีอีโอของแซดทีอี คุณซู จือหยาง ได้รับรางวัลผลงานยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมการสื่อสารเคลื่อนที่แห่งเอเชีย ในงานเอเชียน โมบายล์ อวอร์ดส์ ประจำปี 2565 ของจีเอสเอ็มเอ
แซดทีอี คอร์ปอเรชัน (ZTE Corporation) (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่าซีอีโอของบริษัท คุณซู จือหยาง (Xu Ziyang) ได้กล่าวบรรยายหลักในช่วง "เครือข่ายมุ่งเน้นดิจิทัลอันดับแรก" (Digital First Networks) ในการประชุมสุดยอดจีทีไอ เซี่ยงไฮ้ (GTI Summit Shanghai) ระหว่างการกล่าวบรรยายดังกล่าวนี้ คุณซูได้นำเสนอมุมมองเชิงลึกและการปฏิบัติของแซดทีอีในยุคดิจิทัลนี้
ระหว่างช่วง "เครือข่ายมุ่งเน้นดิจิทัลอันดับแรก" คุณซูชี้ว่า เนื่องจากความไม่แน่นอนหลายประการ อาจมีโอกาสจำกัดสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่าง ๆ สถานการณ์เช่นนี้นำมาซึ่งความรับผิดชอบที่มากขึ้นและแรงกดดันที่สูงขึ้น ในภาวะเช่นนี้ แซดทีอีมุ่งเน้นเทคโนโลยีพื้นฐานที่สำคัญ โครงสร้างพื้นฐาน และการประยุกต์ใช้งาน พร้อมทั้งส่งเสริมการบูรณาการโลกกายภาพเข้ากับโลกดิจิทัล การผนวกรวมการประมวลผลคอมพิวเตอร์กับเครือข่าย และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและธุรกรรม ด้วยการทำเช่นนั้น บริษัทมุ่งที่จะสร้างดีเอ็นเอผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัล (Phygital DNA) เพื่อการพัฒนาจากการทำซ้ำและการพัฒนานวัตกรรมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายคือเพื่อสร้างสรรค์สังคมโดยรวมใหม่
ในงานประชุมสุดยอดจีทีไอ เซี่ยงไฮ้ ประจำปี 2566 คุณซูเน้นย้ำมุมมองเชิงลึกและการปฏิบัติของแซดทีอีในอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยชี้ว่าโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในจีน โดยเฉพาะเครือข่ายกิกะบิตควบคู่และพลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ได้พัฒนาเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตเต็มที่ เพื่อคว้าโอกาสในการก้าวกระโดดไปข้างหน้า แซดทีอีแสวงหาความพยายามร่วมกันเพื่อความก้าวหน้าที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในแง่ของประสิทธิภาพสูงสุด สมรรถนะที่ยกระดับให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการประยุกต์ใช้งานที่เป็นอัจฉริยะและทำให้เรียบง่าย ดังที่คุณซูเน้นย้ำ ด้วยการมุ่งสู่ความเป็นเลิศแม้ในยามรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดเท่านั้น บริษัทจึงจะสามารถเติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างทรงพลัง
ระหว่างงาน MWC เซี่ยงไฮ้ (MWC Shanghai) คุณซูได้รับรางวัลผลงานยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมการสื่อสารเคลื่อนที่แห่งเอเชีย (Outstanding Contribution to the Asia Mobile Industry Award) ในงานเอเชียน โมบายล์ อวอร์ดส์ (Asian Mobile Awards หรือ AMO) ประจำปี 2565 ของจีเอสเอ็มเอ (GSMA) รางวัลดังกล่าวนี้ยกย่องความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมของคุณซูในการขับเคลื่อนแซดทีอีเพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเชิงอุตสาหกรรม ยกระดับการทำงานร่วมกันข้ามอุตสาหกรรม และสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการสื่อสารเคลื่อนที่ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
ด้านล่างนี้คือข้อความฉบับสมบูรณ์จากการบรรยายของคุณซู จือหยาง โดยมีชื่อการบรรยายว่า "การผนวกรวมและนวัตกรรม สร้างดีเอ็นเอผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัลเพื่อการเติบโตที่รวดเร็วยิ่งขึ้น" ดังนี้
ปัจจุบัน โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในจีน โดยเฉพาะเครือข่ายกิกะบิตควบคู่และพลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ได้พัฒนาเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตเต็มที่ ผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนจากการสื่อสารด้วยเสียงและข้อความไปสู่บริการสารสนเทศอัจฉริยะเชิงบูรณาการซึ่งปรับให้เข้ากับสภาวการณ์จำเพาะ อย่างเช่น เครือข่ายผ่านใยแก้วถึงห้องพัก (FTTR) ห้องขับขี่อัจฉริยะ การผสมผสานโลกเสมือนกับโลกจริง และเศรษฐกิจอากาศยานบินต่ำ นอกจากนี้ การพัฒนาสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรมได้เข้าสู่ขั้นสำคัญ โดยมีปัญหาต่าง ๆ ปรากฏขึ้นจากทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทาน ตัวอย่างเช่น ในฝั่งอุปสงค์ มีความยากของการบูรณาการบริการ ต้นทุนการบริหารจัดการที่สูง และอุปสรรคต่อการพัฒนานวัตกรรมบริการ ในฝั่งอุปทาน เราจะสามารถหาสมดุลระหว่างความต้องการคุณสมบัติที่สูงกับต้นทุนที่ต่ำ สภาวการณ์ใช้งานแบบกระจายตัวกับการประยุกต์ใช้งานระดับใหญ่ ตลอดจนการลงทุนอย่างมหาศาลกับการทำเงินอย่างช้า ๆ อย่างไร ข่าวดีก็คือ ด้วยการขับเคลื่อนโดยปัญหาเช่นนี้ เรากำลังหาทางออกด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการทำงานร่วมกัน ไอซีทีกำลังพัฒนาจากการทำซ้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สำคัญซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างเช่น 5G-แอดวานซ์ (5G-Advanced), 6G, เครือข่ายผ่านใยแก้วถึงห้องพัก, เครือข่ายส่งข้อมูลด้วยแสง 400G (400G OTN) การประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบเฮเทอโรจีเนียส (heterogeneous computing) และศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่
ขณะนี้เป็นยุคสมัยแห่งการขยายตัวมหาศาลของข้อมูล โดยมีความต้องการที่พบได้ทั่วไปในทุกที่แต่แตกต่างเฉพาะตัวสำหรับการประมวลผลและหมุนเวียนข้อมูล ดังที่ท่านทราบ แชทจีพีที (ChatGPT) เป็นผลิตภัณฑ์มาแรงที่กระตุ้นกระแสความเฟื่องฟูของเอไอจีซี (AIGC) ในระดับโลก นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายในการรับมือกับการชะลอตัวของกฎของมัวร์ (Moore's Law) ว่าด้วยการเพิ่มจำนวนเป็นเท่าตัวของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม ซึ่งปิดช่องว่างเข้าสู่ขีดจำกัดของการส่งข้อมูลบนสายไฟเบอร์ตามทฤษฎีของแชนนอน (Shannon Limit) การมุ่งสร้างการเติบโตสีเขียวและยั่งยืน ตลอดจนการรับประกันความมั่นคงปลอดภัยเชิงดิจิทัล ในภาวะเช่นนี้ แซดทีอีมุ่งเน้นเทคโนโลยีพื้นฐานที่สำคัญ โครงสร้างพื้นฐาน และการประยุกต์ใช้งาน พร้อมทั้งส่งเสริมการบูรณาการโลกกายภาพเข้ากับโลกดิจิทัล การผนวกรวมการประมวลผลคอมพิวเตอร์กับเครือข่าย (Computing and Network Convergence หรือ CNC) และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและธุรกรรม ด้วยการทำเช่นนั้น บริษัทมุ่งที่จะสร้างดีเอ็นเอผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัล (Phygital DNA) เพื่อการพัฒนาจากการทำซ้ำและการพัฒนานวัตกรรมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายคือเพื่อสร้างสรรค์สังคมโดยรวมใหม่
สำหรับเทคโนโลยีพื้นฐานที่สำคัญ สิ่งสำคัญสูงสุดคือการบรรลุความก้าวหน้าในด้านชิปเซ็ท ส่วนประกอบและวัสดุ และอัลกอริทึมและสถาปัตยกรรม เหล่านี้เป็นพื้นฐานของนวัตกรรม และคือสิ่งที่ตัดสินว่าเราจะไปได้ไกลเพียงใดในการพัฒนาสมรรถภาพและประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการขยายพรมแดนและบูรณาการเทคโนโลยี ในแง่นี้ แซดทีอีกำลังก้าวอย่างมั่นคงและดำเนินความพยายามอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศแม้ในยามรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุด
เช่นเดียวกับสมองมนุษย์หรือเครื่องยนต์ของรถยนต์ ชิปเซ็ทเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะ การบูรณาการ และอัตราส่วนการใช้พลังงาน (Power Usage Effectiveness หรือ PUE) ของผลิตภัณฑ์ ในด้านสำคัญอื่น ๆ อย่างเช่นสถานดำเนินการประมวลผลคอมพิวเตอร์ 5G สวิทช์ศูนย์ข้อมูล และเทอร์มินัล ยังมีความคาดหวังและความต้องการคุณสมบัติที่สูงขึ้น ดังนั้นเราจึงได้สร้างนวัตกรรมและความก้าวหน้าด้วยการดำเนินหลายมาตรการ ยกตัวอย่างเช่น มีการใช้กระบวนการที่ก้าวหน้าและนวัตกรรมสร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมระบบงานจำเพาะ (Domain-Specific Architecture หรือ DSA) ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ และการออกแบบอย่างสอดคล้องทั้งระบบ เพื่อยืดระยะเวลากฎของมัวร์ นอกจากนี้เรายังนำการประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบเฮเทอโรจีเนียสมาใช้เพื่อให้สอดรับกับสภาวการณ์ต่าง ๆ จึงยกระดับสมรรถนะและประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น เราบรรลุการเร่งกระบวนการฮาร์ดแวร์โดยใช้หน่วยประมวลผลข้อมูล (DPU) และการ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย (NIC) อัจฉริยะ เพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดร่วมกันของซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์อยู่เสมอ
นวัตกรรมในส่วนประกอบและวัสดุ อย่างเช่นเครื่องขยายกำลัง ตัวกรอง องค์ประกอบสายอากาศ และการออกแบบการกระจายความร้อน สามารถสร้างมูลค่ามหาศาลได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่นเครื่องขยายกำลัง ตามมาตรฐานของสถาบันมาตรฐานโทรคมนาคมแห่งยุโรป (ETSI) สำหรับการวัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยการเพิ่มขึ้น 1% ของประสิทธิภาพเครื่องขยายกำลัง อัตราส่วนการใช้พลังงานโดยรวมของอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้น 1-2% ซึ่งจะทำให้เป็นไปได้ที่จะมีแบนด์วิธการส่งถ่ายขนาดใหญ่ขึ้นและกำลังการส่งข้อมูลที่มากขึ้นของสถานีฐาน ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในด้านนี้ แซดทีอีได้บรรลุประสิทธิภาพของเครื่องขยายกำลังที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม 8% นอกจากนี้เรายังใช้แบ็คเพลน (backplane) นำแสงที่ยืดหยุ่นสำหรับการเชื่อมต่อนำแสงแบบข้าม (Optical Cross-Connect หรือ OXC) 32 มิติ เพื่อทำให้สถาปัตยกรรมอุปกรณ์เรียบง่ายพร้อมทั้งเพิ่มความจุและสมรรถนะของเครือข่ายได้อย่างมาก เพื่อขยายระยะและลดการสูญเสียการส่งคลื่นมิลลิเมตรผ่านสิ่งกีดขวาง แซดทีอีใช้พื้นผิวอัจฉริยะกำหนดค่าได้ (Reconfigurable Intelligent Surface หรือ RIS) เพื่อยกระดับความครอบคลุม ประสบการณ์ผู้ใช้ และประสิทธิภาพในการติดตั้งใช้งาน
ในแง่ของอัลกอริทึมและสถาปัตยกรรม โซลูชัน 5G พาวเวอร์ไพล็อต (5G PowerPilot) ของแซดทีอีเอื้อให้เกิดการประหยัดพลังงานของเครือข่ายไร้สายได้ 35% ซึ่งจะลดการใช้พลังงานของสถานที่ติดตั้งแห่งเดียวให้ต่ำได้เพียง 5 วัตต์ในโหมดหยุดพักการทำงาน ด้วยอัลกอริทึมสำหรับการทำงานร่วมกันอย่างมีพลวัตระหว่างสถานีฐานกับพื้นผิวอัจฉริยะกำหนดค่าได้ โซลูชันไดนามิก อาร์ไอเอส (Dynamic RIS) ของเราเพิ่มความครอบคลุมของคลื่นมิลลิเมตรได้ 30% และอัตราสัญญาณขาลงเฉลี่ยได้หกเท่า ยิ่งไปกว่านั้น โซลูชันฐานข้อมูลแบบกระจายของเรา โกลเดนดีบี (GoldenDB) สามารถเพิ่มสมรรถนะและความจุของฐานข้อมูลได้สิบเท่า และประหยัดการลงทุนได้ 70% ผ่านการแยกตัวของฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์
สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสมรรถภาพ สิ่งสำคัญอยู่ที่เครือข่าย กำลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์ และการผนวกรวมการประมวลผลกับเครือข่าย
เพื่อยกระดับสมรรถนะเครือข่าย แซดทีอีอุทิศตนในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่
โซลูชันยูนิไซต์ (UniSite) ที่ได้รับการปรับปรุงอัปเกรดบูรณาการอุปกรณ์น้ำหนักเบา อย่างเช่นซีรีส์ยูบีอาร์ (UBR) ซีรีส์เอ+พี (A+P) และสายอากาศบรอดแบนด์ ทำให้ง่ายในการติดตั้งใช้งานสถานที่ติดตั้งแบบหลายโหมดหรือหลายแบนด์
โซลูชัน 5G ทีเอสเอ็น (5G TSN) มอบการเชื่อมต่อเชิงกำหนดด้วยการดำเนินงานต่อเนื่องระดับร้อยละ 99.999 ("five 9s") ซึ่งรับประกันความหน่วง (latency) น้อยกว่า 5 มิลลิวินาทีและความช้าในการรับ (jitter) ภายในเวลาหลักไมโครวินาทีในสภาวการณ์เชิงอุตสาหกรรม
ระบบเอสบีเอฟดี (SBFD) ของเราเพิ่มปริมาณสัญญาณขาขึ้นเป็นสูงกว่า 1.4 กิกะบิตต่อวินาที ขณะที่ลดความหน่วงจากต้นทางถึงปลายทางเป็น 4 มิลลิวินาทีสำหรับผู้ส่งสัญญาณรายเดี่ยว
สถานีฐานเซนเซอร์และการสื่อสารแบบบูรณาการ (Integrated Sensing and Communication หรือ ISAC) ได้สนับสนุนเศรษฐกิจอากาศยานบินต่ำและทำให้การคมนาคมอัจฉริยะเกิดขึ้นได้จริง
เทคโนโลยีเรดแค็ป (RedCap) ของเราเติมเต็มความต้องการสภาวการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ความเร็วปานกลางและสูงในต้นทุนที่ต่ำ ช่วยขยายขอบเขตการประยุกต์ใช้งาน 5G ได้อย่างมาก
โซลูชันเครือข่ายส่งข้อมูลด้วยแสง 400G ช่วยให้เกิดการส่งข้อมูลระยะไกลพิเศษ จึงสร้างโครงสร้างพื้นฐานระบบนำแสงสำหรับโครงการถ่ายโอนทรัพยากรการประมวลผลคอมพิวเตอร์จากตะวันออกสู่ตะวันตก (East-to-West Computing Resource Transfer Project) ของจีน
โซลูชันเครือข่ายผ่านใยแก้วถึงห้องพักมอบประสบการณ์บรอดแบนด์สูงกว่ากิกะบิตครอบคลุมทั้งบ้านให้แก่ทุกครัวเรือน
ในการมุ่งสู่เครือข่ายอัตโนมัติระดับ 4 เราใช้แฝดจำลองดิจิทัลสร้างประสบการณ์ความเป็นจริงผสมและสร้างเครือข่ายมุ่งเน้นจุดประสงค์สำหรับการทำงานประสานกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร ทำให้เกิดการประมวลผลครบวงจรภายในเวลาหลักวินาที ประกอบกับการดำเนินงานและบำรุงรักษาแบบวงจรปิดในระบบงานต่าง ๆ ด้วยสมรรถนะอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์แบบเซลฟ์-เอ็กซ์ (self-X)
สำหรับโครงสร้างพื้นฐานพลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์ แซดทีอีมีผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และการจัดเก็บอย่างครอบคลุมเต็มรูปแบบ รวมทั้งเซิร์ฟเวอร์สำหรับใช้งานทั่วไป เซิร์ฟเวอร์/คลัสเตอร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะหน่วยประมวลผลภาพหรือจีพียู (GPU) เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลว และผลิตภัณฑ์การจัดเก็บแบบแฟลชล้วนและแบบไฮบริดแฟลช มีการใช้การระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบเพลทเย็นเพื่อลดการใช้พลังงาน การทำความเย็นแบบระเหยทางอ้อม การระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบสุดขีด และการบริหารจัดการโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ลดอัตราส่วนการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ของเราเป็น 1.13 ด้วยพื้นฐานคลาวด์ทีอีซีเอส (TECS Cloud Foundation หรือ TCF) ซึ่งเป็นคลาวด์แม่นยำแบบกระจายตัว ทำให้มีการดึงทรัพยากรการประมวลผลคอมพิวเตอร์จากระดับคลาดว์ เอดจ์ และเทอร์มินัลเพื่อให้เอื้อต่อการติดตั้งใช้งานบริการและการกำหนดตารางแบบตามสั่ง
ในแง่ของการผนวกรวมการประมวลผลคอมพิวเตอร์กับเครือข่าย (CNC) และเครือข่ายพลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์ (CPN) แซดทีอีได้พัฒนาโซลูชันไอซีทีเบ็ดเสร็จซึ่งบูรณาการคลาวด์แบบเอดจ์ โดยมีชุดเทคโนโลยีบริการโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS) / บริการแพลตฟอร์ม (PaaS) และรองรับการประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบเฮเทอโรจีเนียส ตลอดจนการวางแผน การสร้าง และการดำเนินงานและบำรุงรักษาแบบผนวกรวมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานไอซีที เช่นนี้ โซลูชันนี้ได้มอบแนวทางที่ปฏิบัติได้จริงสำหรับการพัฒนาจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบเอดจ์สู่เครือข่ายพลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้เรายังสำรวจการประสานการประมวลผลคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายอย่างแข็งขันเพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างชั้นเลเยอร์การประยุกต์ใช้งานกับชั้นเลเยอร์เครือข่าย เพื่อที่เครือข่ายจะได้สามารถรับรู้ความต้องการบริการและทรัพยากรพลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ดำเนินการเลือกเส้นทางพลังการประมวลผล และทำให้การกำหนดตารางแบบตามสั่งเกิดขึ้นได้ในหลายกลุ่มทรัพยากร
นอกจากนี้ แซดทีอีกำลังสร้างศูนย์ประสานงานซึ่งมีเอพีไอ (API) การเรียกใช้งานโปรแกรมแบบเปิดและผนวกรวม โดยเอื้อต่อการบริหารจัดการอย่างยืดหยุ่นในสภาพแวดล้อมแบบผู้ให้บริการหลายรายและคลาวด์หลายระบบ อีกทั้งยังทำให้มีบริการที่มีคุณภาพซึ่งบูรณาการ "การเชื่อมต่อ การประมวลผลคอมพิวเตอร์ และสมรรถนะดิจิทัล" ในแง่นี้ นอกจากปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ เรายังส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของหลากหลายอุตสาหกรรมด้วยวิธีที่คล่องตัวว่องไวและคุ้มค่าต้นทุน
ขณะที่การพัฒนาสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรมดำเนินไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เราเห็นประสิทธิภาพของการผลิตและธุรกรรมที่สูงขึ้น
แซดทีอีดำเนินการอยู่เสมอเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิตสำหรับคู่ค้า
ในโรงงานผลิตโลหะอัจฉริยะของอานสตีล (Ansteel) เทคโนโลยียูอาร์แอลแอลซี (URLLC) สำหรับการควบคุมเครื่องจักรระยะไกลของเราได้รับการนำไปใช้ในปั้นจั่นเหนือศีรษะ โดยมีการดำเนินงานต่อเนื่องระดับร้อยละ 99.999 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 100% และลดต้นทุนค่าแรงงานลง 20%
ในโรงงานอัจฉริยะของเปิ่นซี ทูล (Benxi Tool) เราได้มอบวิสัยทัศน์เครื่องจักรขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบคุณภาพเป็นระดับสองไมครอน และลดต้นทุนลง 15%
ระบบจัดการคลังสินค้าและลอจิสติกส์โดยใช้รถขนส่งอัตโนมัติ (AGV) ได้ทำให้ความยืดหยุ่นและการบริหารจัดการแบบลีน (lean) เกิดขึ้นได้จริง ตัวอย่างเช่น เราได้ช่วยให้กรี (Gree) เพิ่มอัตราระบบอัตโนมัติในโกดังสินค้าเป็น 60% และร่นระยะเวลาทั้งหมดที่ใช้ในการปรับตั้งเครื่องจักร (changeover time) เป็นน้อยกว่าสองวัน ในโรงงานอัจฉริยะของเจเอ โซลาร์ (JA Solar) มีการติดตั้งใช้งานรถขนส่งอัตโนมัติสำหรับการกระจายซิลิคอนอัจฉริยะที่ดำเนินการตลอดเวลา
ด้วยความตระหนักรู้เชิงสถานการณ์จากแฝดจำลองดิจิทัล เราได้ยกระดับการบริหารจัดการบุคลากรและความปลอดภัยในสถานดำเนินงานสำหรับวอนฟูล ปิโตรเคมีคอล (Wonfull Petrochemical)
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกรรมและแปลงเป็นคุณค่าในตลาด เราส่งเสริมปฏิบัติการทั้งกระบวนการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งนี้เพื่อขจัดการแยกส่วนสารสนเทศ และทำให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกันตลอดทั้งวงจร ตลอดจนการวิเคราะห์และจับคู่อัจฉริยะ
ด้วยการทำงานร่วมกับไชนา เทเลคอม เสฉวน (China Telecom Sichuan) แซดทีอีได้ดำเนินโครงการสาธิตห่วงโซ่อุปทานอัจฉริยะ 5G+ ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีอย่างเช่นการคัดแยกอัจฉริยะ รถขนส่งอัตโนมัติ และฉลากอิเล็กทรอนิกส์ (RFID label) เราได้สร้างระบบการกระจายสินค้าดิจิทัลแบบปรับเฉพาะซึ่งประกอบด้วยการซื้อแบบครบเบ็ดเสร็จในที่เดียว บริการกระจายสู่ร้านโดยตรง การทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรม และโครงสร้างที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพ ระบบเช่นนี้ทำให้ประสิทธิภาพของการส่งมอบเพิ่มขึ้น 50% และลดขนาดสินค้าคงคลังลง 1 ใน 3
ที่ท่าเรือเทียนจิน (Tianjin Port) เราได้ทำให้มีการควบคุมท่าเทียบเรือระยะไกล การขับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์แบบอัตโนมัติ การนับจำนวนรวมอัจฉริยะแบบ 5G ตลอดจนการจัดเรียงตามสั่ง ประเมินคุณภาพ และคัดแยกสินค้าแบบเรียลไทม์ ด้วยความพยายามเช่นนี้ ประสิทธิภาพของปฏิบัติการโดยรวมเพิ่มขึ้น 20%
ด้วยการทำงานร่วมกับไชนา ซัทเธิร์น พาวเวอร์ กริด (China Southern Power Grid) เราได้เชื่อมต่อการควบคุมกริดเข้ากับโหนดการตรวจจับในเครือข่าย 5G ขนาดใหญ่ และทำให้เกิดการเก็บข้อมูลการใช้พลังงานด้วยความถี่สูงผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์แบบเรียลไทม์ โซลูชันดังกล่าวนี้ไม่เพียงเอื้อให้เกิดการใช้พลังงานอัจฉริยะและความปลอดภัยด้านไฟฟ้า แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานได้ 2.7 เท่าและเร่งการเข้าถึงพลังงานสีเขียว
เพื่อปรับให้สอดรับกับสภาวการณ์ที่หลากหลายและพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้มากขึ้น เราเพิ่งปล่อยแซดทีอี ดิจิทัล เนบูลา 2.0 (ZTE Digital Nebula 2.0) ด้วยสถาปัตยกรรมแบบผนวกรวมและการออกแบบที่สามารถปรับขยายได้ โซลูชันนี้สามารถเพิ่มความสามารถในการปรับใช้กับหลายอุตสาหกรรม ปลดล็อกศักยภาพที่มากขึ้น และยกระดับประสิทธิภาพของการผลิตและธุรกรรมยิ่งขึ้น โดยในที่สุดจะช่วยให้หลากหลายอุตสาหกรรมมีการยกระดับประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล สร้างความยืดหยุ่นผ่านการทำงานร่วมกันข้ามระบบงาน และส่งเสริมความไว้วางใจจากความเปิดกว้างและความโปร่งใส
ในท้ายที่สุดดีเอ็นเอผสานโลกกายภาพกับโลกดิจิทัลจะมีส่วนช่วยสร้างสังคมมนุษย์ที่เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ด้วยวิธีคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณที่มุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง แซดทีอีใช้ประโยชน์สูงสุดจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อเร่งและสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
- ด้วยการส่งเสริมความเท่าเทียมทางดิจิทัล เราช่วยปิดช่องว่างเชิงดิจิทัลทั่วโลกและทำให้แน่ใจว่ามีการกระจายทรัพยากรทางสังคมอย่างเป็นธรรม
- ด้วยสมรรถนะเชิงดิจิทัล เรามุ่งพยายามสร้างแผนภูมิความรู้สำหรับทั้งสังคมมนุษย์ เพื่อที่จะทำให้วัฒนธรรมต่าง ๆ ของเรามีชีวิตคงอยู่ต่อไป
- ด้วยเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม เรามุ่งบรรลุการพัฒนาที่สมดุล สีเขียว และคาร์บอนต่ำมากขึ้นร่วมกันกับพันธมิตรระดับโลก
ทั้งนี้เราเชื่อมั่นว่าอารยธรรมมนุษย์และเทคโนโลยีจะส่งเสริมกันและกัน และนำพาเราสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
ในยุคสมัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้ พวกเราล้วนเป็นประจักษ์พยานและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ในฐานะบริษัทดิจิทัลโดยกำเนิด แซดทีอีอุทิศตนให้กับนวัตกรรมเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศดิจิทัล (DICT) ที่ครบสมบูรณ์ ครอบคลุมทุกระบบงาน และครบวงจร ในฐานะผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เราจะยึดมั่นในปรัชญาธุรกิจ "ความเรียบง่าย ความคล่องตัวว่องไว และการเปิดกว้างเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย" (Simplicity, Agility, and Openness for Win-Win) อยู่เสมอ ด้วยการร่วมมือกับผู้ให้บริการ ตลอดจนพันธมิตรอุตสาหกรรมและระบบนิเวศ เรามุ่งที่จะสร้างระบบนิเวศดิจิทัลและอัจฉริยะเพื่อความสำเร็จร่วมกัน และจะดำเนินบทบาทของเราในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนเสมอไป
ขอบคุณครับ
เกี่ยวกับแซดทีอี
แซดทีอี (ZTE) ช่วยเชื่อมโยงโลกด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตที่ดีกว่า บริษัทให้บริการเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่และโซลูชันแบบครบวงจร ครอบคลุมอุปกรณ์ไร้สาย มีสาย และบริการโทรคมนาคมระดับมืออาชีพ แซดทีอีให้บริการแก่ประชากรมากกว่าหนึ่งในสี่ของโลก โดยทุ่มเทให้กับการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลอัจฉริยะ ตลอดจนสร้างการเชื่อมต่อและความไว้วางใจให้เกิดขึ้นในทุกที่ แซดทีอีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซินเจิ้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.zte.com.cn/global
ติดตามเราได้ทาง
เฟซบุ๊ก www.facebook.com/ZTECorp
ทวิตเตอร์ www.twitter.com/ZTEPress
ลิงด์อิน www.linkedin.com/company/zte
ยูทูบ www.youtube.com/@ZTECorporation
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
แซดทีอี คอร์ปอเรชัน
ฝ่ายการสื่อสาร
อีเมล: [email protected]
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2143146/ZTE_CEO_Xu_Ziyang.jpg
หลักสูตรไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ สู่อาชีพสร้างรายได้ คืนความเท่าเทียมผู้พิการ ความสำเร็จจากโครงการ Heart to Heart โดย อำพลฟูดส์ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
"Wall Street English" เดินเกมบุกตลาด EdTech มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท เปิดโปรแกรมใหม่ 'Speak Plus' อัปสกิลสื่อสารระดับโลกที่เหนือกว่า
BTNC จับมือ ชมพีอาร์ เชิญชวนชาวไทย ร่วมกิจกรรมจิตอาสา "BLACK A'MAZE FLORA"ประดิษฐ์ "ดอกไม้ผ้าสีดำ" สัญลักษณ์แห่งความอาลัยที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างยั่งยืน
ไทยประกันชีวิต x LIVE TO LIFE ชวนสร้างพลังการสื่อสาร "รู้จักสื่อสาร สร้างโอกาสให้ชีวิต"
โรงพยาบาลพระรามเก้า ขับเคลื่อนการสื่อสารแบรนด์ ด้วย AI ยกระดับศักยภาพของคนในองค์กร สู่การพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน
CHERY ส่งแคมเปญ "Born to Play" เบิกเนตร CHERY V23 รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ ฉีกกฎป้ายโฆษณาแบบเดิม สะกดทุกสายตาด้วย 3D Billboard สุดล้ำใจกลางเมือง
ดาต้าเซ็ตจัดสัมมนา AI-Powered Media Intelligence เปิดมุมมองการใช้ AI ยกระดับงานสื่อสารการตลาดยุคใหม่
จุฬาฯ เปิดตัว CUPTI นวัตกรรมเครื่องวัดแรงลิ้นต้นแบบฝีมือนักวิจัยไทย ราคาประหยัด เพื่อผู้ป่วยเข้าถึงได้