มิชลิน ประกาศเข้าซื้อกิจการ Flex Composite Group เพื่อสร้างผู้นำด้านฟิล์มและสิ่งทอไฮเทค

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมื่อเร็วๆ นี้ มิชลิน และ IDI บริษัทหลักทรัพย์เอกชนสัญชาติฝรั่งเศส ได้ประกาศการบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการที่มิชลินจะเข้าซื้อกิจการ 100% ใน Flex Composite Group (FCG) ตามมูลค่าสุทธิของกิจการซึ่งอยู่ที่ 700 ล้านยูโร (ราว 26,600 ล้านบาท)

มิชลิน ประกาศเข้าซื้อกิจการ Flex Composite Group เพื่อสร้างผู้นำด้านฟิล์มและสิ่งทอไฮเทค

อนึ่ง Flex Composition Group หรือ FCG เป็นผู้นำสัญชาติยุโรปด้านสิ่งทอและฟิล์มที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อการนำไปใช้งานในตลาดเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ การเดินเรือ, รถซูเปอร์คาร์และยานยนต์ไฟฟ้า, การกีฬา หรือการก่อสร้าง โดย FCG มีความเชี่ยวชาญด้านโซลูชั่นพอลิเมอร์คอมโพสิตหลากหลายรูปแบบในแนวทางเดียวกับที่มิชลินได้พัฒนาขึ้น บริษัทฯ มีพนักงาน 400 คน การดำเนินงานหลักๆ อยู่ในตลาดที่เติบโตรวดเร็วและมีความต้องการไม่หยุดนิ่งของภาคพื้นยุโรป โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ยอดรายได้ของ FCG ในปี 2565 อยู่ที่ 202 ล้านยูโร (ราว 7,678 ล้านบาท) ระหว่างปี 2558-2565 บริษัทฯ เติบโตจากการดำเนินงานภายในองค์กร (Organic Growth) เฉลี่ยอยู่ที่ 11% โดยมีอัตราส่วนที่บ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) อยู่ระหว่าง 25-30% มิชลิน ประกาศเข้าซื้อกิจการ Flex Composite Group เพื่อสร้างผู้นำด้านฟิล์มและสิ่งทอไฮเทค

ข้อตกลงครั้งนี้จะส่งผลให้มิชลินและ FCG สามารถสร้างผู้นำด้านสิ่งทอและฟิล์มไฮเทค โดยการเข้าซื้อกิจการไม่เพียงสอดคล้องกับกลยุทธ์ Michelin in Motion เพื่อการเติบโตสู่ปี 2573 แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของมิชลินในการขยายขอบเขตการเติบโตของธุรกิจด้านพอลิเมอร์คอมโพสิต, ยกระดับนวัตกรรมและศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนได้ประโยชน์จากความใกล้ชิดกับลูกค้าและความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการทางอุตสาหกรรมของ FCG

การซื้อขายกิจการครั้งนี้จะสร้างพลังร่วมในการคิดค้นนวัตกรรมเชิงลึก (Deep Innovation) ที่มีความหลากหลายทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์และการนำไปใช้งาน ขณะเดียวกันยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ FCG

นอกจากนี้ การเข้าซื้อกิจการ FCG จะช่วยให้ธุรกิจวัสดุไฮเทคของมิชลินมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 20% และส่งผลให้ธุรกิจนี้เติบโตได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังจะทำให้อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT Margin) ของกลุ่มมิชลินและธุรกิจผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง (Specialty Segment) เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนก่อให้เกิดเงินสดเชิงบวกและส่งผลต่อกำไรต่อหุ้น (EPS)

ฟลอรองต์ เมอเนโกซ์ (Florent Menegaux) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มมิชลิน เปิดเผยว่า "เรายินดีอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับทีมงานของ FCG เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมิชลิน…เพื่อสร้างผู้นำที่โดดเด่นในด้านสิ่งทอและฟิล์มไฮเทค การซื้อขายกิจการครั้งนี้เป็นการผสานจุดเด่นที่ดีที่สุดของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชี่ยวชาญที่ต่างมีร่วมกันในเรื่องโซลูชั่นพอลิเมอร์คอมโพสิต เรามุ่งสร้างพลังร่วมเพื่อก้าวข้ามขอบเขตเดิมๆ สู่การคิดค้นนวัตกรรมเชิงลึก (Deep Innovation) ที่มีความหลากหลายทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์และการนำไปใช้งาน การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่จะกำหนดจุดยืนของกลุ่มมิชลินในฐานะผู้มีบทบาทหลักด้านโซลูชั่นพอลิเมอร์คอมโพสิต ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่นอกเหนือภาคการสัญจร"

เอ็มมานูเอล คาปริกลิโอเน (Emmanuel Capriglione) ผู้จัดการทั่วไปของ FCG กล่าวว่า "ธุรกิจของFCG เติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากปัจจัยหลักหลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ ความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นในด้านวัสดุและฟิล์มคอมโพสิต, ศักยภาพด้านนวัตกรรมและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้ามาของมิชลินช่วยส่งเสริมให้ FCG สามารถต่อยอดศักยภาพด้านนวัตกรรมของตนเอง ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำเสนอวัสดุที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าได้มากขึ้น"

การซื้อขายกิจการครั้งนี้เป็นการชำระด้วยเงินสด โดยแม้จะใช้เงินทุนจากเงินสดที่มีอยู่ แต่ยังคงสถานะทางการเงินของมิชลินที่แข็งแกร่งเอาไว้ เป็นที่คาดว่าจะสามารถปิดการซื้อขายกิจการครั้งนี้ได้ภายในปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนตามการแล้วเสร็จของเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อการได้มาซึ่งหุ้นทั้งหมด (Customary Closing Adjustment) และการควบคุมการควบรวมกิจการ (Merger Control Clearances) ในพื้นที่ดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง


ข่าวเสริมสร้าง+พอลิเมอร์วันนี้

'สธ.-มข.-สครท.-ชสท.' เร่งพัฒนา "ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3" บูรณาการพื้นที่ส่งเสริมสุขภาพประชาชน รอบรู้ ห่างไกล NCDs

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเขตสุขภาพที่ 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น สมาคมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพไทย และชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย จัดอบรมเสริมสร้างศักยภาพผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3 เพื่อพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการและขับเคลื่อนงานสาธารณสุขในระดับพื้นที่ โดยมุ่งหวังให้สาธารณสุขอำเภอเป็นกลไกสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชน และรับมือกับโรค NCDs แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สาธารณสุขอำเภอถือเป็นกลไกสำคัญในการขานรับนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุข สู่การขับ

บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ ... Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศจับมือ Cetus โปรเจกต์ DEX ใหญ่สุดบน Sui — บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Exchange ศูนย์ซื้อขายสิ...

ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกร... วว. จับมือพันธมิตรไทย-จีน เสริมสร้างความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม — ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม สถาบันวิจัยวิทย...

ผ่านฉลุย! ผถห. SSP เคาะจ่ายเงินปันผล 0.20... ผ่านฉลุย! ผถห. SSP เคาะจ่ายเงินปันผล 0.20 บ./หุ้น รับเงิน 21 พ.ค.นี้ — ผ่านฉลุย! ผถห. SSP เคาะจ่ายเงินปันผล 0.20 บ./หุ้น รับเงิน 21 พ.ค.นี้ มั่นใจ Q4/68 พ...

มหาวิทยาลัยมหิดลได้มีนโยบายส่งเสริมการสร้... วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งเป้าสู่การเป็น Zero Food Waste Business School — มหาวิทยาลัยมหิดลได้มีนโยบายส่งเสริมการสร้างความเป็นมหาวิทยาลัยเชิง...

ทีเส็บจัดงาน MICE Day 2025 ณ อิมแพ็ค เมือ... ทีเส็บจัดงาน MICE Day 2025 ชู 3 แนวคิดหลักหัวใจสร้างไมซ์ไทย ปักธงปี 2026 "MICE Celebration Year" — ทีเส็บจัดงาน MICE Day 2025 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต...