ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ตามทิศทางของภาวะเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัว ย้ำธนาคารให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการออมเงิน พร้อมขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากบัญชีเงินฝากประจำสูงสุด 0.50% ต่อปี พร้อมดูแลลูกค้าสินเชื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากกรณีที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% ต่อปี เป็น 2.00% ต่อปี สอดคล้องกับภาวะทิศทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ทีทีบี จึงได้พิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ทั้งลูกค้าบุคคล และนิติบุคคล โดยเน้นส่งเสริมให้ลูกค้าออมเงินเพิ่มมากขึ้นผ่านบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อด้วยโซลูชันรวบหนี้ โดยธนาคารมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนี้
ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2566
สำหรับลูกค้าบุคคล
- บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 36 เดือน เพื่อการออมระยะยาว ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 2.10% ต่อปี
- บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน ประเภท 3 เดือน เพื่อการออมระยะสั้น ได้รับผลตอบแทนเร็วและสูง ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.10% เป็น 1.20% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถรับดอกเบี้ยไปใช้หลังการฝากเงินเพียง 7 วัน
สำหรับลูกค้านิติบุคคล
- บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี อัพแอนด์อัพ ประเภท 24 เดือน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 1.80% ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยช่วงเดือนที่ 1 ถึงเดือนที่ 6 เพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.00% ต่อปี
ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) 0.20% ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี 0.20% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) 0.20% โดยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2566
"จากสถานการณ์ปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนและดูแลช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่อ่อนไหวต่อค่าครองชีพและภาระหนี้ที่สูงขึ้น และยังคงแนะนำลูกค้าแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนด้วยโซลูชันทางการเงินที่หลากหลาย เช่น การรวบหนี้ด้วยสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี เคลียร์หนี้ ด้วยดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรก เริ่มต้น 5.93% ต่อปี และหากใครที่กำลังมีภาระผ่อนบ้าน-คอนโด แนะนำสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ทีทีบี ด้วยดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรก เริ่มต้น 3.65% ต่อปี พร้อมขอวงเงินกู้เพิ่มเป็นสินเชื่อบ้านแลกเงินเพื่อไปรวบหนี้ได้เช่นกัน ซึ่งโซลูชันเหล่านี้จะช่วยแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้า ลดค่างวดต่อเดือนช่วยเสริมภาพคล่องให้ลูกค้าได้ สำหรับลูกค้าที่เน้นการออม ธนาคารยังมีทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสภาพคล่องด้วย บัญชีเงินฝากดิจิทัล ทีทีบี มีเซฟ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.00% ต่อปีตั้งแต่ยอดเงินฝากบาทแรกถึง 100,000 บาท สามารถฝาก-ถอนเมื่อไรก็ได้ และไม่กำหนดขั้นต่ำในการฝากเงิน ปัจจุบันนับเป็นบัญชีเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีเงินฝากดิจิทัลอื่น ๆ ในตลาด โดยธนาคารมุ่งหวังว่าผลตอบแทนดอกเบี้ยที่ลูกค้าได้รับจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้น และยังเป็นการสนับสนุนการออมเงินเพื่อเป็นการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และอนาคตด้วย" นายปิติ กล่าวสรุป
สกพอ. เปิดผัง 'ศูนย์ธุรกิจ EEC ปั้นเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ' พร้อมเปิดทางเอกชนร่วมลงทุน PPP กว่า 7.4 หมื่นล้านบาท ในปี 69
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
"สกพอ. จับมือ กนอ. เยือนนครโอซากา เดินหน้าดึงเอกชนชั้นนำญี่ปุ่น ร่วมลงทุนอุตสาหกรรม BCG การแพทย์ และการพัฒนาเมืองใหม่พื้นที่อีอีซี
สกพอ. ลงนาม MOU ร่วมมือ ป.ป.ท. และ กรมที่ดิน เพิ่มประสิทธิภาพบริการภาครัฐ ป้องกันทุจริต ตอบโจทย์อำนวยความสะดวกนักลงทุน
ดร.คงกระพัน คว้า 2 รางวัล สุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ ในงาน CEO Econmass Awards 2025 ตอกย้ำ ปตท. มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
"สาระ ล่ำซำ" คว้า 2 รางวัลเกียรติยศ "สุดยอดผู้นำองค์กร" ประจำปี 2568 จากงานประกาศรางวัล CEO ECONMASS Awards 2025
ผู้บริหาร SABINA คว้ารางวัลสุดยอดซีอีโอ ประจำปี 2568 จากสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
ไอแบงก์ ร่วมแสดงความยินดี สคร. ครบรอบ ๒๓ ปี
สกพอ. ร่วมมือ เขตสุขภาพที่ 6 ก.สาธารณสุข และ SCGP ยกระดับระบบบริการสุขภาพประชาชน ในพื้นที่อีอีซี