ธอส. ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ และเงินฝากประจำ 0.05 - 0.35% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป นายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการธนาคาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% ต่อปี เป็น 2.00% ต่อปี ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธอส. จึงมีมติให้ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ และเงินฝากประจำ 0.05-0.35% ต่อปี เพื่อส่งเสริมการออมและให้ผู้ฝากเงินได้รับประโยชน์ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% ต่อปี ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเห็นได้จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของ ธอส. ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ พร้อมกันนี้ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" ยังมีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอีกด้วย โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคาร ได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

ธอส. ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

ข่าวธนาคารอาคารสงเคราะห์+ธนาคารอาคารสงเคราะวันนี้

ฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี ธอส. ตอบแทนลูกค้าผ่อนดีต่อเนื่อง 48 เดือน รับเงินคืน 1% ของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชำระไว้ในปี 2567

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำ "โครงการชำระดีมีคืน" ในโอกาสครบ 6 รอบ 72 ปี ตอบแทนลูกค้ารายย่อยที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญากู้เงิน โดยไม่เคยเป็นหนี้เสีย (NPL) ตั้งแต่วันกู้ และทุกบัญชีเงินกู้ภายใต้หลักประกันมีประวัติผ่อนชำระดีต่อเนื่อง 48 เดือนที่ผ่านมา (นับถึงเดือนสิงหาคม 2568) อย่างสม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือนจะได้รับสิทธิพิเศษเงินคืน 1% ของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชำระไว้ในปี 2567 โดยเงินคืนดังกล่าวจะถูกนำไปหักชำระ