'บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น'หรือ KCG ผู้นำธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และนำเข้าเนย ชีส และผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคชั้นนำจากทั่วโลก ปลื้มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันตอบรับจองซื้อหุ้น IPO ล้นหลาม พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 3 ส.ค. นี้ เดินหน้าลงทุนก่อสร้าง KCG Logistics Park พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับกระบวนการผลิต ขยายกำลังการผลิตชีสและเนย พร้อมมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ รองรับการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
 
                                                                                                                                        นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ของ บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำนวน 155 ล้านหุ้น ในราคา 8.50 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 20 - 21 กรกฎาคม และ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในศักยภาพการสร้างความเติบโตในอนาคตของ KCG โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 3 สิงหาคม 2566
                                                             
                                                                                                                            
ดร.วาทิต ตมะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "KCG" กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของ KCG โดยมีแผนขยายการลงทุนเพื่อยกระดับเทคโนโลยีการผลิต การสร้างศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำการผลิตและนำเข้าผลิตภัณฑ์เนย ชีส และอาหารสำเร็จรูปชั้นนำจากทั่วโลก ที่มีคุณภาพรายใหญ่ของประเทศไทย ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สร้างความรื่นรมย์ให้กับรสชาติอาหารอย่างมีคุณภาพ ตลอดจนการจัดหาวัตถุดิบและคัดสรรแบรนด์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางกรอบการลงทุนระหว่างปี 2566-2567 โดยจะขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ชีส (Individually Wrapped Processed Cheese Slices) และเนยเพิ่มเป็น 4,212 ตันต่อปี และ 23,261 ตันต่อปีตามลำดับ พร้อมก่อสร้างและพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park เพื่อรองรับการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันจะมุ่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้า B2C ผ่านร้านสะดวกซื้อ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และแพลตฟอร์มออนไลน์ อีกทั้งเดินหน้ายกระดับการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า B2B ผ่านการจัดหาผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจรบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยยกระดับระดับโลจิสติกส์สู่ระบบ Cold Chain Fulfillment เพื่อให้รองรับการขนส่งสินค้าได้หลากหลายประเภท และจะขยายตลาดในต่างประเทศผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้รายได้จากการส่งออกของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ KCG ยังมุ่งสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศผ่านการร่วมทุน (Joint Venture) หรือการควบรวมกิจการ (M&A) โดยมุ่งเน้นในธุรกิจที่สามารถเสริมศักยภาพการเติบโตให้กับบริษัทฯ อาทิ ธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) เช่น ผู้ผลิตวัตถุดิบไขมันนม ชีส น้ำมันปาล์ม เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่คุณค่า (Supply Chain) เพิ่มความสามารถในการจัดหาและบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
 
                             "MGC-ASIA" คว้ารางวัล "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว จาก CGR ติดกลุ่ม Top Quartile ตอกย้ำธรรมาภิบาลแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
                            "MGC-ASIA" คว้ารางวัล "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว จาก CGR ติดกลุ่ม Top Quartile ตอกย้ำธรรมาภิบาลแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
                         ITEL ตอกย้ำผู้นำธรรมาภิบาล คว้า 5 ดาว "ดีเลิศ" 5 ปีต่อเนื่อง
                            ITEL ตอกย้ำผู้นำธรรมาภิบาล คว้า 5 ดาว "ดีเลิศ" 5 ปีต่อเนื่อง
                         SGP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว `ดีเลิศ` ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล
                            SGP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว `ดีเลิศ` ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล
                         SMPC คว้า Excellent CG Scoring 5 ดาว 6 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธรรมาภิบาลสูงสุด
                            SMPC คว้า Excellent CG Scoring 5 ดาว 6 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธรรมาภิบาลสูงสุด
                         STARM คว้า "CGR 5 ดาว" ดีเลิศต่อเนื่องปีที่ 3 ตอกย้ำองค์กรธรรมาภิบาลแข็งแกร่ง
                            STARM คว้า "CGR 5 ดาว" ดีเลิศต่อเนื่องปีที่ 3 ตอกย้ำองค์กรธรรมาภิบาลแข็งแกร่ง
                         กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
                            กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
                         WICE คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 7 ปีซ้อน ในระดับ "Top Quartile" สะท้อนผลงานธรรมาภิบาลสูงสุด
                            WICE คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 7 ปีซ้อน ในระดับ "Top Quartile" สะท้อนผลงานธรรมาภิบาลสูงสุด
                         CPW ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ CGR ประจำปี 2568 ในระดับ "ดีเลิศ"
                            CPW ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ CGR ประจำปี 2568 ในระดับ "ดีเลิศ"
                         WP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ตอกย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดี
                            WP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ตอกย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดี