แม้จะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่พบได้ทั่วโลก และเป็นสาเหตุหลักของความพิการทางระบบประสาทในระยะยาว มีเพียงส่วนน้อยที่สามารถฟื้นคืนสมรรถภาพให้กลับมาสมบูรณ์ได้
แต่หากผู้ป่วยให้ความร่วมมือกับนักกายภาพบำบัดฝึกทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ จะทำให้สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เอง อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้
กภ.ภาพวิจิตร เสียงเสนาะ นักกายภาพประจำคลินิก TMS - TST สาขากายภาพบำบัดระบบประสาท งานกายภาพบำบัดศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยถึงอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดสมองที่มาติดต่อขอเข้ารับบริการที่คลินิก TST - TST ส่วนใหญ่มักมาด้วยอาการอ่อนแรงครึ่งซีก อยากพัฒนาหรือฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ทั้งทางด้านแขนและมือ หรือการเดินเป็นต้น
การบำบัดด้วยวิธีการใช้เครื่องกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS - Transcranial Magnetic Stimulation)
ร่วมกับการฝึกกายภาพบำบัดแบบเฉพาะเจาะจง (TST - Task Specific Training) ริเริ่มประยุกต์โดยคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย
จากการศึกษา-และผลการรักษาพบว่าการรักษาด้วยการใช้TMS ร่วมกับการฝึก TST พบว่าสมองทั้งสองซีกเกิดความสมดุล และพัฒนาความสามารถในการใช้งานและการเคลื่อนไหว ผลการรักษาคงค้างอยู่ได้นานต่อเนื่องถึง 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับการทำ TMS หรือ TST เพียงอย่างเดียวที่พบผลคงค้างได้เพียง 2 ชั่วโมง
กภ.ภาพวิจิตร เสียงเสนาะ ได้เปิดเผยถึง การฝึกผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหลังการเข้ารับการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าว่า เป็นการตั้งเป้าหมายร่วมกัน ระหว่างนักกายภาพบำบัด และผู้ป่วย ในการฝึกกิจกรรมที่เป็นจริงในชีวิตประจำวัน เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหา และแก้ปัญหานั้นร่วมกัน
ซึ่งเป็นวิธีการที่เสริมสร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วยได้ค้นพบศักยภาพของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เกิดแรงใจพร้อมที่จะฝึกเพิ่มเติมให้ได้มากยิ่งขึ้นต่อไป หรือสามารถแก้ปัญหานั้นๆ ได้ด้วยตนเอง จนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวัน หรือเข้าสังคมได้เหมือน หรือใกล้เคียงปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ในส่วนของการกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มั่นใจได้ถึงขั้นตอนการคัดกรองผู้ป่วยที่เป็นระบบคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ภายหลังจากการซักประวัติ ต้องเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาแล้วอย่างน้อย 1 เดือน สัญญาณชีพคงที่หรือควบคุมได้ และไม่เคยมีประวัติชัก หรือไม่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือใส่โลหะ หรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าที่สมอง
โดยการกระตุ้นสมองที่ไม่สอดใส่วัตถุใดๆ เข้าไปในร่างกายไม่เกิดการเจ็บปวด เพียงแค่วางหัวกระตุ้นเบาๆ ไว้ที่ศีรษะในบริเวณที่ต้องการกระตุ้น ใช้เวลากระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าประมาณ 20 นาที และฝึกทางกายภาพบำบัดแบบเฉพาะเจาะจงต่อเนื่องอีก 90 นาที โดยแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 3 - 5 ครั้งเพื่อดูผลการเปลี่ยนแปลงและเห็นผลถึงการพัฒนาศักยภาพของการเคลื่อนไหวของตนเอง
การบำบัดด้วยวิธีการใช้เครื่องกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS - Transcranial Magnetic Stimulation)
ร่วมกับการฝึกกายภาพบำบัดแบบเฉพาะเจาะจง (TST - Task Specific Training) เป็นผลงานนวัตกรรมที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์ผ่านกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำมาซึ่งความภาคภูมิใจในฐานะ "ปัญญาของแผ่นดิน" ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล เรามีความตั้งใจพัฒนาศักยภาพบุคลากร และนวัตกรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสามารถช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นและยั่งยืน
ติดตามข่าวสารที่น่าใจจากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ที่www.mahidol.ac.th
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2846-6210
การจัดท่าสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง - ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ The Senizens
29 ต.ค. วันโรคหลอดเลือดสมองโลก
โรคหลอดเลือดสมอง รู้ไว รักษาได้
BEFAST สัญญาณอันตราย "โรคหลอดเลือดสมอง"
ศูนย์สมองและระบบประสาทโรงพยาบาลรามคำแหง เชิญร่วมกิจกรรม เนื่องในวันโรคหลอดเลือดสมองโลก
"โรคลมชัก"อาจไม่ใช่แค่อาการชักเกร็ง สแกน EEG ป้องกันก่อน รักษาได้ทัน
"ใครกรนต้องรู้! มจธ. พัฒนา 'หมอนรองคออัจฉริยะ' สั่นเตือนก่อนคุณหยุดหายใจ"
ฟิลิปส์ จัดงานสุดล้ำในอะควาเรียม เปิดตัว Philips Azurion Release 3.0 นวัตกรรมเครื่องตรวจสวนหลอดเลือดสมองรุ่นใหม่ล่าสุด