กระบวนการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อผู้ลงทุนทั่วไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) กำหนดให้บริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์มีหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยหลักการสำคัญคือ ต้องเปิดเผยที่ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่เป็นเท็จ และไม่ปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ลงทุนของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วง คือ
การเปิดเผยข้อมูลของบริษัททั้ง 2 ช่วง บริษัทจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลที่เปิดเผย เนื่องจากหากปรากฎข้อเท็จจริงว่าข้อมูลที่มีการเปิดเผยเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรต้องแจ้งในสาระสำคัญ บริษัทอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นโทษทางอาญา ที่มีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ โดยหากเป็นกรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลก่อนการออกเสนอขายเป็นเท็จ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของราคาขายของหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ได้เสนอขาย แต่ต้องไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท (มาตรา 278) แต่หากเปิดเผยข้อมูลภายหลังการเสนอขายเป็นเท็จ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 281/10)
ในกรณีที่บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรต้องแจ้งในสาระสำคัญนั้น นอกจาก ก.ล.ต. จะมีการดำเนินการในความผิดข้างต้นแล้ว ผู้ลงทุนเองก็มีสิทธิที่จะสามารถฟ้องร้องกับผู้กระทำความผิดเพื่อเรียกค่าเสียหายจากความผิดที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ได้เช่นกัน ดังนี้
ในกรณีที่แบบแสดงรายการหรือหนังสือชี้ชวนมีข้อความเป็นเท็จ หรือขาดข้อความที่ควรต้องแจ้งในสาระสำคัญจนเป็นเหตุให้ผู้ลงทุนเสียหาย ผู้ลงทุนที่เป็นเจ้าของหลักทรัพย์มีสิทธิที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทได้หากความเสียหายนั้นเกิดจากการเปิดเผยข้อมูลไม่ถูกต้อง (มาตรา 82) ซึ่งค่าเสียหายที่ผู้ลงทุนสามารถฟ้องร้องได้ในกรณีนี้ จะเท่ากับจำนวนส่วนต่างของจำนวนเงินที่ผู้ลงทุนได้จ่ายไปสำหรับการได้มาซึ่งหลักทรัพย์นั้น กับราคาที่ควรจะเป็นหากมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหลักทรัพย์นั้น บวกด้วยดอกเบี้ยของจำนวนส่วนต่างสำหรับระยะเวลาที่ถือหลักทรัพย์นั้นด้วย (มาตรา 85)
ไม่เพียงแต่บริษัทเท่านั้นที่ต้องรับผิด แต่กฎหมายยังกำหนดให้บุคคลที่ร่วมลงลายมือชื่อรับรองข้อมูลไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวนต้องร่วมรับผิดกับบริษัทด้วย ได้แก่ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทที่ลงลายมือชื่อไว้ในแบบแสดงรายการและหนังสือชี้ชวน รวมไปถึงผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน ที่จงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงและลงลายมือชื่อรับรองข้อมูลในแบบแสดงรายการและหนังสือชี้ชวนด้วย ยกเว้นแต่บุคคลเหล่านั้นจะพิสูจน์ได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดดังกล่าว (มาตรา 83)
อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนจะต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายภายใน 1 ปี นับจากวันที่ได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่าแบบแสดงรายการและหนังสือชี้ชวนมีข้อความหรือรายการที่เป็นเท็จหรือขาดข้อความที่ควรต้องแจ้ง แต่ต้องไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่แบบแสดงรายการและหนังสือชี้ชวนมีผลใช้บังคับ (มาตรา 86)
ในการเปิดเผยข้อมูลภายหลังจากการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ หากพบว่าข้อมูลงบการเงิน รายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน หรือรายงานประจำปี มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงในสาระสำคัญจนเกิดความเสียหาย ผู้ลงทุนสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทได้เช่นกัน (มาตรา 89/20) ในกรณีนี้ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทจะต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทด้วย ยกเว้นแต่กรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวจะพิสูจน์ได้ว่าโดยตำแหน่งหน้าที่ของตนไม่อาจรู้ถึงความถูกต้องของข้อมูลหรือการขาดข้อมูลที่ต้องเปิดเผยนั้นได้ โดยผู้ลงทุนต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ผู้ลงทุนรู้ถึงการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จหรือการปกปิดข้อมูลที่ควรเปิดเผยนั้น หรือไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มีการกระทำนั้น
นอกจากผู้ลงทุนจะสามารถดำเนินการตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ได้แล้ว ผู้ลงทุนก็ยังสามารถดำเนินการใช้สิทธิตามกฎหมายอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น การดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด (มาตรา 94) เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นที่เกิดจากการเปิดข้อมูลที่เป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงในสาระสำคัญ นอกจากการดำเนินการโดย ก.ล.ต. แล้ว ผู้ลงทุนเองก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายควบคู่กันไปเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทที่ออกและเสนอขายหลักทรัพย์และบุคคลอื่น ๆ ที่ต้องร่วมรับผิดด้วยได้ ดังนั้น หากได้รับความเสียหายจากเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล ผู้ลงทุนจึงควรดำเนินการใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องในช่วงอายุความที่กฎหมายกำหนด
เดินหน้าส่งเสริมการให้ข้อมูลการเงิน การลงทุน และประกันภัย อย่างมีความรับผิดชอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกันจัดทำโครงการ "Responsible Voices สำหรับ Finfluencer" และจะร่วมกันสนับสนุนการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ฟินฟลูเอนเซอร์ภาคการเงิน การลงทุน และประกันภัย เพื่อให้เผยแพร่ข้อมูลให้แก่ผู้ติดตามได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และตระหนักถึงความสำคัญของการ
InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX คว้า 3 รางวัล จากเวที IAA Best Analyst Award 2024 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบทวิเคราะห์การลงทุนของไทย
—
บล. อินโนเวสท์...
ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่ง แมสเทค ลิ้งค์ (MASTEC) พร้อมขาย IPO 79 ล้านหุ้น ระดมทุนใน SET บุกตลาดโซลูชั่นเทคโนโลยีวิศวกรรมงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
—
บมจ.แมสเทค ...
KEX ย้ำชัด! ไม่ปิดกิจการ ยืนยันเดินหน้าธุรกิจตามปกติ หลังได้รับข้อเสนอเพิกถอนหลักทรัพย์จากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ระยะยาว
—
KEX ประกาศย้ำชัดว่า บร...
Merkle Capital แต่งตั้ง ธนลภย์ ปรีดามาโนช นั่งเก้าอี้ ผู้จัดการเงินทุน
—
Merkle Capital แต่งตั้ง ธนลภย์ ปรีดามาโนช ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการเงินทุน เสริมความแ...
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง "นูทริชั่น โปรเฟส" พร้อมก้าวสู่ตลาดหลักทรัพย์ mai
—
บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT ผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เ...
จีเอเบิล ขึ้นเครื่องหมาย XD 30 เมษายนนี้ ในอัตราหุ้นละ 0.2703 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผลในเดือนพฤษภาคม
—
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเ...