"ออโตโมบิลี ปินินฟารินา" เตรียมเปิดตัวแบตติสตารุ่นใหม่ ยกย่องความสำเร็จของนิโน่ ฟารินา แชมป์ฟอร์มูลาวันคนแรกของโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา (Automobili Pininfarina) ยกย่องความสำเร็จของตำนานนักแข่งฟอร์มูลาวันด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไฮเปอร์จีทีรุ่นใหม่ แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา (Battista Edizione Nino Farina)

แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา จะเปิดให้ยลโฉมครั้งแรกในงานกู๊ดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด (Goodwood Festival of Speed) พร้อมร่วมทดสอบโดยนิค ไฮด์เฟลด์ (Nick Heidfeld) นักแข่งระดับตำนานและอดีตแชมป์แข่งรถทางลาดรายการกู๊ดวูด ทั้งนี้ นิค หรือที่รู้จักในฉายา 'ควิก นิค' (Quick Nick) มีบทบาทสำคัญในฐานะที่ปรึกษาของออโตโมบิลี ปินินฟารินา และเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของแบตติสตาจนถึงในปัจจุบัน

ภายหลังจากความสำเร็จของรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดก่อนหน้าอย่างแบตติสตา แอนนิเวอซาริโอ (Battista Anniversario) โมเดลรุ่นล่าสุดอย่างแบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา ได้นำเสนอเรื่องราวอันน่าประทับใจของตำนานนักแข่งรถฟอร์มูลาวันอย่างนิโน่ ฟารินา (Nino Farina) แชมป์ฟอร์มูลาวันคนแรกโลก และหลานชายของสุดยอดนักออกแบบอย่างแบตติสตา 'ปินิน' ฟารินา (Battista 'Pinin' Farina) โดยจะเปิดตัวใกล้กับสนามแข่งก๊ดวูด เซอร์กิต (Goodwood Circuit) ซึ่งเป็นสนามแข่งที่นิโน่คว้าชัยชนะในปี 2494 ในรายการก๊ดวูด โทรฟี (Goodwood Trophy) (นอกเหนือจากรายการชิงแชมป์ฟอร์มูลาวัน)

แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา ผลิตเพียงจำนวน 5 คันทั่วโลก มาพร้อมการออกแบบทั้งภายนอกและภายในที่ยกย่องตำนานนักแข่งจากเมืองโตริโนอย่างนิโน่ ฟารินา โดยรถยนต์แต่ละคันจะเล่าถึงหนึ่งในห้าช่วงเวลาสำคัญของนิโน่ ทำให้มั่นใจได้ว่านักสะสมจะได้เป็นเจ้าของผลงานการออกแบบชิ้นเอกของอิตาลีที่ไม่ซ้ำใคร

คุณเปาโล เดลลาชา (Paolo Dellach?) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า "แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา คือตัวแทนแห่งวิสัยทัศน์ของทีมออกแบบที่มีความสามารถของเรา โดยเป็นการยกย่องตำนานและมรดกตกทอดที่ไม่มีใครเทียบได้ของตระกูลปินินฟารินา บอกเล่าเรื่องราวที่ยังไม่เคยมีผู้ใดรับรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณและความกล้าหาญของชายผู้เดินหน้าด้วยความหลงใหลในการแข่งรถที่ไม่เหมือนใคร"

"ลูกค้าของเราต้องการความหายาก ความพิเศษ คุณภาพและการออกแบบที่ไม่เหมือนใครของปินินฟารินาในอดีต แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา จึงผสมผสานองค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้เข้ากับประสิทธิภาพที่น่าอัศจรรย์ของรถยนต์ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิตในอิตาลีอย่างแบตติสตา เราเชื่อว่านิโน่คงมีความฝันที่จะได้ลองขับรถด้วยกันกับคุณลุงแบตติสตา เพื่อทดสอบขีดจำกัดของรถยนต์เหมือนทุกครั้งที่เขาทำตอนลงแข่ง"

"การขับรถคันนี้ไม่ต่างจากการได้สวมชุดซูเปอร์ฮีโร่ รับประกันถึงประสบการณ์และความรู้สึกสุดพิเศษ ผมตั้งตารอที่จะได้เปิดตัว แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา เป็นการส่วนตัวที่งานกู๊ดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด ในปีนี้"

ยกย่องตำนานวงการฟอร์มูลาวัน

แบตติสตา 'ปินิน' ฟารินา เป็นผู้ก่อตั้งคาร์รอซเซอเรีย ปินินฟารินา (Carrozzeria Pininfarina) ที่โด่งดัง ชื่อของเขาถูกนำมาใช้เป็นชื่อของรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตโดยออโตโมบิลี ปินินฟารินา อย่างแบตติสตา เพื่อเป็นการยกย่องความฝันของเขาในการสร้างรถแบรนด์ปินินฟารินา

ในฐานะลุงของนิโน ฟารินา เขาเป็นผู้จุดประกายความหลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ตของหลานชายผู้กลายเป็นแชมป์โลกในอีกไม่กี่ปีให้หลัง แบตติสตาเคยพาหลานชายวัย 16 ปีเข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกในฐานะผู้โดยสาร สิ่งนี้สร้างความกระหายในการแข่งขันให้กับนิโน่ ส่งผลให้นิโน่ได้เข้าร่วมการแข่งขันและชิงแชมป์รายการต่าง ๆ มากมายทั่วอิตาลีในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930

ในปี 2493 นิโน่ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรกที่จัดอย่างเป็นทางการโดย FIA (การแข่งขันฟอร์มูลาวันชิงแชมป์โลกในปัจจุบัน) โดยเป็นผู้นำทีมแข่งรถจำนวนสามคัน ในปีแรกของการแข่งชิงแชมป์โลก นิโน่ ฟารินา สามารถเอาชนะการแข่งขันในอังกฤษ (ครั้งแรกที่จัดขึ้นที่ซิลเวอร์สโตน) สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี ทำให้คว้าตำแหน่งแชมป์โลกไว้ได้

นิโน่ ฟารินา เป็นนักแข่งฟอร์มูลาวันที่ได้รับความเคารพอย่างสูงในหมู่เพื่อน ๆ ของเขา เขาขึ้นชื่อเรื่องการขับขี่ที่ไร้ซึ่งความกลัว และความหลงใหลในกีฬาซึ่งมีส่วนทำให้เขาชนะการแข่งในปีเดียวกันกับที่เขาเริ่มลงแข่ง เขาสามารถพาเพื่อนร่วมทีมเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 1-2-3 ในการแข่งขันครั้งแรกในปี 2493 ที่สนามซิลเวอร์สโตน และจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์รายการอิตาเลียนกรังด์ปรีซ์ในเดือนกันยายน

รายละเอียดที่ประณีตทำให้แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา แต่ละคันแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ แผ่นประตูผู้โดยสารอะลูมิเนียมเคลือบสีดำแบบสั่งทำพิเศษในรถยนต์แต่ละคันจะเล่าถึงหนึ่งในห้าช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของนิโน่ในแบบที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้เป็นเจ้าของผลงานการออกแบบที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น โดยเรื่องราวทั้ง 5 นี้ประกอบด้วย

  • วันที่และสถานที่เกิดของนิโน่ (ปี 2449 ในเมืองทูริน)
  • ตำแหน่งโพลฟอร์มูลาวันครั้งแรก และชัยชนะในการแข่งขันบริติชกรังด์ปรีซ์ปี 2493
  • ชัยชนะครั้งที่สองของนิโน่ในปี 2493 ในการแข่งขันสวิสกรังด์ปรีซ์
  • ชัยชนะครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายในปี 2493 ในการแข่งขันอิตาเลียนกรังด์ปรีซ์
  • การคว้าแชมป์โลกฟอร์มูลาวันในปี 2493

การออกแบบภายนอกสุดพิเศษโดยออโตโมบิลี ปินินฟารินา

การออกแบบที่ไม่ซ้ำใครของแบตติสตาผสานรวมความสมดุลเข้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างสมบูรณ์แบบ รายละเอียดสุดประณีตของปินินฟารินาในอดีต และการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกแห่งตระกูล ทั้งหมดนี้ถูกยกระดับอีกครั้งสำหรับโมเดลรุ่นแบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา

เดฟ อมันที (Dave Amantea) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการออกแบบของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า "รถรุ่นพิเศษนี้แสดงถึงความเคารพต่อบุคลิกที่กล้าหาญและไม่เกรงกลัวของนิโน่ ฟารินา และความสำเร็จอันน่าทึ่งของเขาในวงการมอเตอร์สปอร์ต นี่คือการยกย่องตระกูลในตำนาน แด่ชายผู้ซึ่งจะถูกกล่าวขานตลอดไปในฐานะนักแข่งคนแรกที่ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลกฟอร์มูลาวัน และผู้ก่อตั้งของเรา ชายผู้จุดประกายความหลงใหลในการแข่งรถของเขา"

"รถแต่ละคันเป็นเครื่องบรรณาการให้กับเรื่องราวที่ไม่มีใครเทียบได้และช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของนิโน่ เรานำแรงบันดาลใจจากช่วงเวลาเหล่านี้มาสร้างรถที่จะเป็นส่วนสำคัญของคอลเลกชันใด ๆ ก็ตาม ตัวถังของรถที่มาในสีรอซโซ่ นิโน่ ( Rosso Nino) เป็นตัวแทนแห่งความทรงจำเกี่ยวกับสีแดงของรถแข่งในอิตาลีที่ทำให้เขาได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่การตกแต่งและการออกแบบหลักยังผสานเข้ากับดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครของแบตติสตาได้อย่างลงตัว"

การออกแบบตัวถังภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ในสีรอซโซ่ นิโน่ ซึ่งเป็นสีแดงเข้มเดียวกันกับสีของรถที่นิโน่ใช้คว้าแชมป์ตลอดอาชีพการแข่งรถของเขา ยังเข้ากันได้อย่างไร้ที่ติกับตัวถังด้านล่างที่มาในสีเบียงโก เซสตริเอเร (Bianco Sestriere) และสีไอโกนิกา บลู (Iconica Blu)

ความประณีตของสีเบียงโก เซสตริเอเร และสีไอโกนิกา บลู ยังครอบคลุมแถบหมุดสั่งทำพิเศษบนกระจกมองข้างและด้านล่างของปีกหลัง มาพร้อมกราฟิกพิเศษรูปพวงมาลัยสวมศีรษะและหมายเลข '01' ในสีเบียงโก เซสตริเอเร ที่โดดบริเวณแผงด้านของหลังประตู

ตัวโครงภายนอกยังประกอบด้วยฟูริโอซา แพ็ก (Furiosa Pack) ครอบคลุมตัวสปลิตเตอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์โฉมใหม่ กาบข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลัง ตกแต่งด้วยแถบหมุดสีเบียงโก เซสตริเอเร ขณะที่คาร์บอน แอ็กเซ็นท์ แพ็ก (Carbon Accent Pack) ตกแต่งด้วยสีดำคาร์บอนอันเป็นเอกลักษณ์

ตัวหลังคาก็อกเชีย (Goccia) สีเข้มมาพร้อมจิวรีแพ็ก (Jewelly Pack) เคลือบอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำ ควบคู่กับคาลิปเปอร์เบรกสีดำและวงแหวนล็อคตรงกลางที่เคลือบด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำ และตัวล้ออัลลอยกลอริโอโซ (Glorioso) อะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแบบ 10 ก้านผิวเคลือบสีซาตินโกลด์ (Satin Gold) สะดุดตา

รายละเอียดภายนอกเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนิโน่ ฟารินา ทั่วทั้งตัวรถ นอกจากนี้ยังมีรอยสลักชื่อนิโน่ ฟารินา บนชุดไฟหน้าที่เคลือบอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำ ขณะที่ปีกข้างคาร์บอนด้านคนขับได้รับการเสริมด้วยลายเซ็นกราฟิกของนิโน่ ฟาริน่า เช่นกัน

การตกแต่งภายในสุดพิเศษเพื่อประสบการณ์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่เหนือจินตนาการ

การตกแต่งภายในของแบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา มาในธีมทูโทนแบบพิเศษ โดยเบาะนั่งคนขับนั้นบุด้วยหนังสีดำเพื่มความหรูหรา ขณะที่เบาะนั่งผู้โดยบุด้วยหนังสีเบจและสีดำอัลคันทาราที่ตัดกันอย่างลงตัว

ตัวเบาะนั่งไพโลตา (Pilota) ดีไซน์ไม่ซ้ำใครระหว่างคนขับและผู้โดยสารมีการปักชื่อของนิโน่ ฟาริโน บริเวณพนักพิงหลัง ที่นั่งคนขับสีดำมีปักรูปพวงมาลัยสวมศีรษะและตัวเลขกราฟิก '01' สีทอง ในขณะที่โลโก้ปินินฟารินาถูกตกแต่งด้วยสีแดงบนเบาะผู้โดยสารสีเบจ ด้านหลังของเบาะนั่งทั้ง 2 ข้างทาสีรอซโซ่ นิโน่ ที่เข้ากันกับตัวรถภายนอก

เช่นเดียวกับส่วนนอกของรถ ตัวเบาะที่นั่งมาพร้อมเข็มขัดนิรภัยสีไอโกนิกา บลู พร้อมตะเข็บดูโอโทนสีเบจสลับแดงบริเวณหน้าปัดและที่นั่ง ส่วนพวงมาลัยหุ้มด้วยวัสดุสีดำอัลคันทาราแบบคาร์บอน พร้อมวงแหวน 12 นาฬิกาอะลูมิเนียมขัดเงาชุบสีแดงที่ตัดกันอย่างลงตัว ความใส่ใจในรายละเอียดนี้ยังครอบคลุมแผ่นพวงมาลัย ทำจากอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำพร้อมลายเซ็นนิโน่ ฟารินา นอกจากนี้ยังมีจิวรีแพ็กอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำอีกด้วย

ห้องโดยสารที่สวยงามของแบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา ยังประกอบด้วยโครงสีดำที่สื่อถึงความเป็นนิโน่ ฟารินา ขณะที่แผ่นประตูผู้โดยสารในแต่ละคันนั้นจะแตกต่างกันออกไป

สมรรถนะของแบตติสตา

แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังล้ำสมัยเช่นเดียวกับแบตติสตาและแบตติสตา แอนนิเวอซาริโอ โดยมอบสมรรถนะสูงสุด รถไฮเปอร์จีทีไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของโลกนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนความจุสูง 120 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่บรรจุอยู่ภายในกล่องคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงน้ำหนักเบา

มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ทำงานแยกกันสี่ตัวสำหรับแต่ละล้อ ผสานกับเทคโนโลยีควบคุมแรงบิด (Full Torque Vectoring) ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stability Control) และระบบซอฟต์แวร์ชุดเฟืองท้าย ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งการส่งกำลังและควบคุมการตอบสนองได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ชุดแบตเตอรี่รูปตัว T แบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ก็ติดตั้งอยู่หลังเบาะเพื่อให้แน่ใจว่าตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ

เทคโนโลยีการควบคุมการออกตัวที่ไม่เหมือนใครของแบตติสตา ช่วยให้รถฟอร์มูลาวันมีอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 1.79 วินาที, 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 1.86 วินาที, 0-120 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 4.49 วินาที และ 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.75 วินาที นอกจากนี้ การทดสอบอย่างเป็นทางการยังพิสูจน์แล้วว่า แบตติสตาเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่เบรกได้เร็วที่สุดในโลก โดยสามารถลดความเร็วจาก 100-0 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได่ในระยะทางเพียง 31 ม.

สมรรถนะเด่นของแบตติสตา

  • 1,900 แรงม้า (1,400 กิโลวัตต์)
  • แรงบิด 2,340 Nm
  • 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง) ใน 1.86 วินาที และความเร็วสูงสุด 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (217 ไมล์ต่อชั่วโมง)
  • ระยะการขับขี่สูงสุด 476 กม. (296 ไมล์ ตามมาตรฐาน WLTP) และ 300 ไมล์ ตามเกณฑ์ US EPA

แบตติสตาผสานสมรรถนะของไฮเปอร์คาร์เข้ากับระยะการแล่นและห้องโดยสารที่หรูหราของรถจีทีแบบดั้งเดิม มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบออลวีล และโหมดการขับขี่ 5 โหมดพร้อมรองรับทุกการขับขี่ ได้แก่ คาลมา (Calma), พูรา (Pura), เอเนอร์จิกา (Energica), ฟูริโอซา (Furiosa) และคารัตเตเร (Carattere)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

automobili-pininfarina.com/media-zone

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา แบตติสตา

แบตติสตาจะเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยออกแบบและสร้างในอิตาลี โดยจะมอบสมรรถนะในระดับที่ยังไม่มีรถสปอร์ตแบบใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนท้องถนนรุ่นใดทำได้ในปัจจุบัน รถแบตติสตาทำความเร็วได้เหนือกว่ารถแข่งฟอร์มูลา วัน จากการที่ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาไม่ถึง 2 วินาที ทั้งยังมีกำลัง 1,900 แรงม้า และแรงบิด 2,340 Nm รถแบตติสตาผสานวิศวกรรมและเทคโนโลยีขั้นสุดในรูปแบบที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ขณะที่แบตเตอรี่ขนาด 120 kWh ของรถแบตติสตา ให้พลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ซึ่งติดไว้หนึ่งตัวในล้อแต่ละจุด มีระยะวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ได้ไกล 476 กิโลเมตร และวิ่งตามมาตรฐาน US EPA ได้ไกล 300 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ รถแบตติสตาจะผลิตขึ้นไม่เกิน 150 คัน แต่ละคันจะผลิตด้วยมือที่โรงงานแบตติสตา อเทลิเยร์ ในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี

เกี่ยวกับออโตโมบิลี ปินินฟารินา

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีทีมงานซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารมากประสบการณ์ในแวดวงยานยนต์จากแบรนด์รถยนต์ระดับหรูหราและพรีเมียม รถยนต์ไฮเปอร์ จีที รุ่นแบตติสตา และรุ่นอื่น ๆ ทั้งหมดในอนาคต ซึ่งออกแบบ วางระบบ และผลิตด้วยมือในอิตาลี จะวางจำหน่ายในตลาดใหญ่ ๆ ทั่วโลกในแบรนด์ปินินฟารินา ทั้งนี้ บริษัทน้องใหม่แห่งนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นแบรนด์รถหรูอันเป็นที่ปรารถนาและยั่งยืนที่สุดในโลก โดยเป็นการลงทุนของบริษัทมาฮินดร้า แอนด์ มาฮินดร้า (Mahindra & Mahindra Ltd) ทั้งหมด 100%

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2149653/Battista_Edizione_Nino_Farina_01.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2149654/Battista_Edizione_Nino_Farina_02.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2149655/Battista_Edizione_Nino_Farina_03.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2149658/Battista_Edizione_Nino_Farina_04.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2149659/Battista_Edizione_Nino_Farina_05.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2149660/Battista_Edizione_Nino_Farina_06.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1316779/4154258/Automobili_Pininfarina_Logo.jpg


ข่าวออโตโมบิลี ปินินฟารินา+มอเตอร์สปอร์ตวันนี้

"Honda Academy Thailand 2025" เปิดฤดูกาล บิดล่าฝัน ปูทางสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลก

"ไทยฮอนด้า" ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เปิดฤดูกาล สนามแรก บิดล่าฝัน "Honda Academy Thailand 2025" ก้าวสู่ปีที่ 8 บันไดก้าวแรกตามโร้ดแม๊ป "Honda Race to The Dream" เผยโฉมหน้า The Next Successor 11 นักแข่งเยาวชนไทยและ 2 เยาวชนนักแข่งจากประเทศเวียดนามและประเทศญี่ปุ่น เข้าโปรแกรมปูพื้นฐานอย่างเข้มข้นเพื่อฝึกฝนทักษะการขับขี่และพัฒนาสมรรถภาพร่างกาย เพื่อเป้าหมายสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการพัฒนาอย่างถูกต้องในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักแข่ง ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนระดับมืออาชีพ และความรู้วิทยาศาสตร์การกีฬา

กลุ่มตรีเพชร โดย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส... อีซูซุเปิดศึกเจ้าแห่งความเร็วใน ISUZU ONE MAKE RACE 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 — กลุ่มตรีเพชร โดย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ฟาอีส ยูไ...

บลูมเบิร์กชูประธานฝ่ายการออกแบบ "ออโตโมบิลี ปินินฟารินา" ขึ้นแท่น "คนที่น่าจับตามอง" ในวงการศิลปวัฒนธรรม

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการออกแบบ คุณเดวิด ลอริส "เดฟ" อมันที ได้รับเลือกให้ติดหนึ่งในรายชื่อ "คนที่น่าจับตามอง" ของบลูมเบิร์ก 50 อันทรงเกียรติจากบลูมเบิร์ก บิสเนสวีก รายชื่อบลูมเบิร์ก 50 ยกย่อง...

เผยโฉม "บี95" ไฮเปอร์คาร์บาร์เซตต้าชนิดไฟฟ้าคันแรกของโลก ออกแบบตามสั่งคันแรกโดยออโตโมบิลี ปินินฟารินา

รถออโตโมบิลี ปินินฟารินา บี95 รุ่นใหม่ เป็นไฮเปอร์คาร์บาร์เชตต้าชนิดไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของโลก และเป็นรถรุ่นออกแบบตามสั่งที่เชิดชูดีไซน์พูราอันเหนือกาลเวลาและสุดยอดความชำนาญเชิงเทคนิค บี95 ได้รับ...

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา เตรียมเผยโฉมยนตรกรรมแห่งอนาคตคันแรก "B95" ที่งานสัปดาห์รถยนต์มอนเทอเรย์

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา เตรียมเข้าร่วมงานสัปดาห์รถยนต์มอนเทอเรย์ในเดือนสิงหาคม เพื่อนำเสนอรถยนต์ 3 รุ่นที่บ้านพักส่วนตัวตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม และที่งาน "เดอะ เควล" จะเป็นการเปิดตัวระดับโลกครั้ง...

"ออโตโมบิลี ปินินฟารินา" เปิดตัวดีไซน์รถยนต์รุ่นใหม่ "ออโตโมบิลี ปินินฟารินา พูรา วิชั่น"

แนวคิดการออกแบบโฉมใหม่ ออโตโมบิลี ปินินฟารินา พูรา วิชั่น แสดงให้เห็นถึงความหรูหราของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน รูปทรงที่หรูหรา สัดส่วนที่น่าทึ่ง และพื้นผิวที่สะอาดตา แสดงให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบพูรา ในฐานะรถยนต์อ...

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา เดินเครื่องผลิตรถแบตติสตาแล้วที่โรงงานในอิตาลี

รถยนต์ไฮเปอร์ จีที พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกของโลก เริ่มผลิตจำนวนมากแล้วในพื้นที่ที่จัดไว้พิเศษ ใจกลางศูนย์การออกแบบ วิศวกรรม และการพัฒนาของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี โซนแบตติสตา อเทลิเยร์ ...

"ออโตโมบิลี ปินินฟารินา" เปิดตัวซาวด์คอนเซปต์ใหม่ "ซัวโน ปูโร" สะท้อนซิกเนเจอร์ของแบรนด์ เผยเสียงที่แท้จริงของรถแบตติสตา

- ออโตโมบิลี ปินินฟารินา เผยเบื้องหลังในการสร้าง 'เสียงของความหรูหราอย่างยั่งยืน' มอบอัตลักษณ์ใหม่ให้กับรถยนต์ไฮเปอร์ จีที พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างแบตติสตา - สร้างสรรค์ขึ้นโดย...