โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ร่วมกับ ชุมชนบ้านทุ่งบ่อจัดกิจกรรม "ผูกเสี่ยวป่า" ประเพณีเก่าแก่ของชาวอีสาน เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา หัวหน้าโครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และ คุณนำพล โพธิวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน (อกย.) ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และประชาชนบ้านทุ่งบ่อ รวมถึงชุมชนใกล้เคียง นักเรียน ครูอาจารย์ ร่วมกิจกรรมผูกเสี่ยวป่า ตำบลดงเมืองแอม อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เพื่อร่วมกันสร้าง ฟื้นฟู อนุรักษ์ป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว บริเวณรอบหนองขุมดิน รวมทั้งยังได้นำเอาวัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาสร้างกิจกรรม "ผูกเสี่ยวป่า" ซึ่งมีความหมายว่า "เพื่อน" กันตลอดไป นำมาสู่การสร้างความสัมพันธ์ เพื่อยึดเหนี่ยวความเกื้อกูลกันระหว่างคนกับต้นไม้

โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ร่วมกับ ชุมชนบ้านทุ่งบ่อจัดกิจกรรม "ผูกเสี่ยวป่า" ประเพณีเก่าแก่ของชาวอีสาน เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้

ในอดีตบ้านทุ่งบ่อ พื้นดินเป็นดินขุดมาจากก้นบ่อ มีสภาพเป็นดินเค็มหรือดินดาน ระบายน้ำไม่ดี แห้งแล้ง โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพ (สพศอ.) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จึงได้พัฒนาขุดบ่อ สร้างถังเก็บน้ำ แก้ไขดินจนเป็นรูปธรรม ปลูกต้นไม้ที่ทนแล้ง พัฒนาจนเป็นป่าชุมชน เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากความประสงค์ของชุมชนที่ต้องการจะพัฒนาพื้นที่รอบหนองขุมดิน ที่เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 120 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่สีเขียว สร้างแหล่งอาหาร และแหล่งนันทนาการ หรือเป็นลานวัฒนธรรม เพื่อให้คนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ร่วมกับ ชุมชนบ้านทุ่งบ่อจัดกิจกรรม "ผูกเสี่ยวป่า" ประเพณีเก่าแก่ของชาวอีสาน เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้

ในอดีตบ้านทุ่งบ่อ พื้นดินเป็นดินขุดมาจากก้นบ่อ มีสภาพเป็นดินเค็มหรือดินดาน ระบายน้ำไม่ดี แห้งแล้ง โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพ (สพศอ.) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จึงได้พัฒนาขุดบ่อ สร้างถังเก็บน้ำ แก้ไขดินจนเป็นรูปธรรม ปลูกต้นไม้ที่ทนแล้ง พัฒนาจนเป็นป่าชุมชน เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากความประสงค์ของชุมชนที่ต้องการจะพัฒนาพื้นที่รอบหนองขุมดิน ที่เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 120 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่สีเขียว สร้างแหล่งอาหาร และแหล่งนันทนาการ หรือเป็นลานวัฒนธรรม เพื่อให้คนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์

ดังนั้นการ "ผูกเสี่ยวป่า" จึงเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความรักความผูกพันของคนในชุมชนให้มีส่วนร่วมดูแลรักษาป่า ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ป่าชุมชนให้สามารถใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย กลายเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นแหล่งอาหาร และเป็นแหล่งนันทนาการของชุมชน ตามแนวทางการปลูก "ป่า 3 อย่าง เพื่อประโยชน์หลายอย่าง" ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของโครงการพลังชุมชนฯ ที่ส่งเสริมให้ชุมชนเป้าหมายที่ขับเคลื่อนงานป่าชุมชนทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ป่าชุมชนบ้านโคกศรี จังหวัดอุดรธานี ป่าชุมชนบ้านนางิ้วนาโพธิ์ จังหวัดขอนแก่น และป่าชุมชนบ้านทุ่งบ่อ จังหวัดขอนแก่น ได้มองเห็นความสำคัญนอกเหนือจากการปลูกหรือสร้างป่า เพื่อฟื้นฟู อนุรักษ์ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวแล้ว หัวใจสำคัญ คือ การดูแลป่า ให้ยั่งยืน สามารถสร้างประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งต่อไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน และเกิดประโยชน์แก่สังคมโลกได้ในระยะยาว

โครงการพลังชุมชนและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ CEIS ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สถาบันพัฒนา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพมนุษย์ (สพศอ.) และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ให้ความสำคัญในการสร้าง และส่งเสริมให้ชุมชนภายใต้โครงการฯ เกิดความยั่งยืน โดยใช้พลังชุมชนและนวัตกรรม รวมถึงการหนุนเสริมจากภาคีต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น มาบูรณาการ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการวิจัยและพัฒนา และนำมาปรับใช้กับภูมิปัญญาดั้งเดิม ให้เหมาะสมในในแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนแก่ชุมชนต่อไป.

ติดตามข้อมูลข่าวสาร D community ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/GoodforCommunityYou tube : https://www.youtube.com/@dcommunity2023


ข่าวจิตติ มงคลชัยอรัญญา+จังหวัดขอนแก่นวันนี้

เริ่มแล้ว! CEA เปิด "เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 - อีสานโชว์พ(ร)าว" ปลุกพลังอีสานด้วย Soft Power สู่มิติใหม่แห่งโอกาสผ่านความคิดสร้างสรรค์

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (กลาง-ล่าง) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด "เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568" (Isan Creative Festival 2025 หรือ ISANCF2025) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด "อีสานโชว์พ(ร)าว ISAN SOUL PROUD" โดยมี สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA นำโดย นายไชยยง รัตนอังกูร ประธานกรรมการ CEA (ที่3 จากขวา-ล่าง) และ ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการ CEA (ที่2 จากขวา-ล่าง) พร้อมด้วย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น (ที่2 จากซ้าย

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ... โครงการวิจัยอย่างมีส่วนร่วมเพื่อทดสอบประสิทธิภาพซั้งกอจากปูนผสมเปลือกหอยแมลงภู่ — เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมแผนกประชาสัมพันธ์และช...

ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบด... ภาพข่าว: มธ. เปิดตัวแอปฯ “THAI Alert” — ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิตติ...

หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมกา... ภาพข่าว: มธ. เปิดโครงการสานแนวคิด ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ — หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ (คนกลาง) ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญ...

ปฏิรูปชีวิตเกษตรกร ทางออกของรากหญ้าสู่รากแก้ว

สปกช. วางเป้า 5 ปี ตั้งองค์กรอิสระ ขับเคลื่อนการทำงาน เล็งเก็บภาษีจากการนำเข้าปุ๋ยเคมี สินค้าส่งออกตั้งกองทุน สำหรับการพัฒนาเกษตรกร ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส แนะภาคธุรกิจหันดูแลภาคเกษตรให้มากขึ้น เวทีปฏิรูปประเทศไทยสุขภาวะคนไทยครั้งที่ 35 จัด...