กลุ่มอาการภาวะอ่อนล้า (ซวีเหลา) คืออะไร แพทย์จีนมีคำตอบ โดย คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว

02 Jan 2024

กลุ่มอาการภาวะอ่อนล้า (ซวีเหลา) สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยส่วนมากเกิดจากการทำงานของอวัยวะจ้างฝู่ (อวัยวะตันทั้ง 5 ได้แก่ หัวใจ ตับ ม้าม ปอด ไต) ที่เสื่อมพร่อง อีกทั้งชี่ เลือด อินและหยางพร่อง หรือผู้ที่ป่วยเรื้อรังมานาน

กลุ่มอาการภาวะอ่อนล้า (ซวีเหลา) คืออะไร แพทย์จีนมีคำตอบ โดย คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว

อาการทางคลินิกของซวีเหลา

อาการหลักของซวีเหลา คือ อ่อนเพลีย เฉื่อยชา เซื่องซึม ผอมแห้ง ใบหน้ามีสีเหลือง ลิ้นแห้ง ชีพจรเล็กอ่อน ร่างกายมีการดำเนินของโรคที่ค่อยเป็นค่อยไป การตรากตรำทำงานหนัก (?)  หรือการป่วยเรื้อรังมานานทำให้การทำงานของอวัยวะจ้างฝู่ ชี่ เลือด อินและหยางถูกทำลาย (?) และเมื่อร่างกายตรากตรำทำงานหนัก ชี่เลือด อินและหยางถูกทำลายนาน ๆ จึงเกิดเป็นอาการพร่อง (?) เนื่องจากกลุ่มอาการเลือดพร่อง อินพร่องและหยางพร่อง มีอาการทางคลินิกในระยะแรกที่แตกต่างกัน จึงต้องมีการวินิจฉัยจำแนกกลุ่มอาการเพื่อกำหนดการรักษาที่เหมาะสม

สาเหตุของซวีเหลา

จากคัมภีร์?????-??????กล่าวว่า สาเหตุของซวีเหลาเกิดจาก

1.    อ่อนแอแต่กำเนิด

2.    อ่อนแอภายหลังกำเนิด

3.    เจ็บป่วยมาเป็นเวลานาน

4.    สาเหตุก่อโรคภายนอก

5.    อารมณ์ที่ผิดปกติ

6.    โรคที่ได้รับการรักษาผิดวิธี

สาเหตุของซวีเหลาจากสาเหตุข้างต้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ด้าน ดังนี้

1. อ่อนแอแต่กำเนิด สารจิง[1]ในไตของพ่อแม่ต้องสมบูรณ์เต็มเปี่ยม ถ้าหากสารจิงแต่กำเนิดไม่เพียงพอ ชี่และเลือดมีปริมาณน้อย ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ จึงถูกปัจจัยที่ก่อเกิดโรคเข้ารุกรานได้ง่าย

2. การตรากตรำทำงานมากเกินไป รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ที่มากเกินไปจะส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในร่างกาย ทำให้เลือดลมไหลเวียนผิดปกติ อวัยวะต่าง ๆทำงานแปรปรวน และทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น

- การดีใจที่มากเกินไปส่งผลทำลายหัวใจ

- อาการเก็บกด เครียด หรือความโกรธที่มากเกินไปจะทำลายตับ

- การครุ่นคิดที่มากเกินไปส่งผลทำลายม้าม เนื่องจากม้ามเป็นทุนหลังกำเนิด (??????) หลังการกำเนิดของมนุษย์ ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารมาหล่อเลี้ยงเพื่อเจริญเติบโตและดำรงชีวิต

- ความโศกเศร้าที่มากเกินไปทำลายปอด

- ความกลัวที่มากเกินไปทำลายไต   

3. การมีเพศสัมพันธ์ที่มากเกินไป ส่งผลทำลายไตอินและไตหยาง รวมไปถึงการคลอดบุตรที่มากเกินไปจะทำให้ชี่[2] สารจิงและอวัยวะจ้างฝู่ของร่างกายเสื่อมลง หากเสื่อมพร่องเป็นระยะเวลานานสามารถทำให้เป็นโรคซวีเหลาได้

4. การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารอิ่มเกินไปทำให้ม้ามและกระเพาะอาหารทำงานหนัก รวมไปถึงการรับประทานของเย็นหรืออาหารฤทธิ์เย็นเป็นเวลานานจะทำลายหยางของร่างกาย และหากรับประทานอาหารที่แห้งหรือมีฤทธิ์อุ่นมากเกินไปจะทำลายอินของร่างกายเช่นกัน เมื่ออินและหยางของร่างกายไม่สมดุลทำให้ภูมิต้านทานโรคของร่างกายลดลง

จึงเกิดเป็นซวีเหลาได้ง่าย เพราะฉะนั้น เราจึงควรรับประทานอาหารหลากหลาย ไม่รับประทานอาหารซ้ำเดิมมากเกินไป

[1] สารจิง คือ สารจำเป็นพื้นฐานที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย ช่วยส่งเสริมร่างกายให้สามารถดำรงชีวิตทำกิจกรรมต่างๆ ได้ และยังหมายถึงสารจำเป็นที่ใช้เจริญพันธุ์

[2] ชี่ คือ สารพื้นฐานที่ประกอบขึ้นเป็นโครงสร้างของมนุษย์และก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนของชีวิต

ดังนั้น กลุ่มอาการภาวะอ่อนล้าหรือซวีเหลา เกิดจากการทำงานของอวัยวะจ้างฝู่เสื่อมพร่อง สามารถเกิดได้จากหนึ่งสาเหตุหรือหลายสาเหตุพร้อมกัน เช่น ชี่และเลือดพร่องมานาน อินและหยางไม่สมดุล ซึ่งในทางการแพทย์แผนจีนกล่าวว่า ชี่และเลือด อินและหยาง ล้วนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยชี่สามารถสร้างเลือดได้ ถ้าหากชี่ไม่เพียงพอร่างกายก็จะไม่สามารถสร้างเลือดได้ และหากเลือดไม่เพียงพอก็จะไม่สามารถสร้างชี่ส่งไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ ส่วนความสัมพันธ์ของอินและหยาง กล่าวว่า หากหยางพร่องจะไม่สามารถสร้างอินได้และอินพร่องก็จะไม่สามารถสร้างหยางได้ เช่น ม้ามพร่องก็จะทำให้ปอดพร่องตามตามหลักทฤษฎีปัญจธาตุ สุดท้ายนี้คนโบราณได้กล่าวว่าหากเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์และใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติหรือตามหลักนาฬิกาชีวิตเราจะปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

  • สอบถามข้อมูล หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพได้ที่ "ทีมหมอจีน" คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว โทร 02 223 1111 
  • เปิดทำการทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08:00 - 16:00 น.
  • LINE OA: @huachiewtcm
  • Facebook: หัวเฉียวแพทย์แผนจีนกรุงเทพ Huachiew TCM Clinic
  • Website: www.huachiewtcm.com