SCGD เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นแท่นหุ้น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดประจำปี ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) 18,975 ล้านบาท ณ ราคา IPO กางแผนลงทุนมุ่งสร้างการเติบโตในตลาดภูมิภาคอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เข้าซื้อขายหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นแท่นหุ้น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ เดินหน้าแผนลงทุนต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ควบคู่การวางกลยุทธ์สร้างการเติบโตจากการขยายตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวและตลาดสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน

SCGD เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นแท่นหุ้น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดประจำปี ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) 18,975 ล้านบาท ณ ราคา IPO กางแผนลงทุนมุ่งสร้างการเติบโตในตลาดภูมิภาคอาเซียน

นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้น "SCGD" เข้าซื้อขายวันแรก (20 ธันวาคม 2566) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ SCGD เป็นบริษัทแกนหลักของเอสซีจีในการดำเนินธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งฐานะทางการเงินเพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและปรับโครงสร้างเงินทุน โดยเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากกว่า 40 ปี และแผนงานลงทุนขยายตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนจะสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ขยายการลงทุนไปแล้วบางส่วน อาทิ 1) โครงการลงทุนเพื่อลดต้นทุนพลังงานและปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในโรงงาน, การใช้ชีวมวลเพื่อผลิตลมร้อนในกระบวนการผลิตผงดินของ ธุรกิจกระเบื้องในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพื่อลดการใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน, การนำความร้อนจากเตามาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตของโรงงานที่เวียดนาม และฟิลิปปินส์, การปรับปรุงสายการผลิตและเตาเผาเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพ เป็นต้น และ 2) โครงการลงทุนสายการผลิต เช่น การจัดตั้งโรงงานกระเบื้องไวนิล SPC ที่สระบุรี, ขยายกำลังการผลิตกระเบื้องขนาดใหญ่และ Glazed Porcelain ในเวียดนาม และศึกษาแผนจัดตั้งโรงงานสุขภัณฑ์แห่งใหม่

บริษัทฯ เห็นโอกาสจากการขยายตลาดสุขภัณฑ์และผลิตภัณฑ์วัสดุตกแต่งพื้นผิวที่หลากหลายยิ่งขึ้นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตได้อีกมากจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของจำนวนและรายได้ประชากร บริษัทฯ จึงได้มีการวางกลยุทธ์หลักเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ได้แก่

  1. ขยายธุรกิจสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ฐานการผลิตที่แข็งแกร่งในไทย การจัดหาสินค้าจากจีนและเวียดนาม การยอมรับในแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงการขยายร้านค้าและช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายในเวียดนาม
  2. ต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจตกแต่งพื้นผิวในไทยสู่อาเซียน โดยมุ่งเพิ่มยอดขายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ศึกษาแผนลงทุนโรงงานกระเบื้องในภาคใต้ของเวียดนาม ขยายตลาดผ่านเครือข่ายช่องทางการขายของเอสซีจี ขยายตลาดกระเบื้องไวนิล SPC ในอาเซียน และเดินหน้าโครงการลงทุนเพื่อขยายและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  3. ขยายผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการให้บริการแบบครบวงจรในธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ ผ่านการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอสินค้าและความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในอาเซียน
  4. บริหารห่วงโซ่อุปทานด้านการผลิตและจัดหาสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อบริหารจัดการต้นทุน การจัดหาสินค้า และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสู่ Smart & Green Factory เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
  5. เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเพิ่มสัดส่วนสินค้า SCG Green Choice เป็น 80% ของยอดขายปี 2573 และมุ่งสู่ Net Zero Carbon ในปี 2593

แม้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2566 ชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม โดยมีรายได้จากการขาย 21,522 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 760 ล้านบาท (หลังปรับปรุงรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำ) อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 7,186 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 280 ล้านบาท (หลังปรับปรุงรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำ) เพิ่มขึ้น 1.1% และ 22.9% จากไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ สะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วและตลาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 0.3 เท่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติม คือ ราคาก๊าซธรรมชาติที่ทยอยลดลง ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า SCGD เป็นบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่งในหลากหลายมิติ ทั้งจุดแข็งด้านการเป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนโดยมีส่วนแบ่งตลาดกระเบื้องเซรามิกเป็นอันดับ 1 ในไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมถึงมีส่วนแบ่งตลาดสุขภัณฑ์เป็นอันดับ 1 ในไทย มีแบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักและยอมรับทั่วภูมิภาคอาเซียนรวมถึงมีสินค้าครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม มีทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เชี่ยวชาญ มีกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมในทุกภูมิภาค และมุ่งเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้กระบวนการผลิตตามหลัก ESG

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้น IPO ของ SCGD ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ และมีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO ที่ 18,975 ล้านบาท ล่าสุดได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน COTTO ที่ได้รับการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ขณะที่การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) รวมถึงการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ COTTO เพื่อแลกหุ้น มีจำนวนทั้งสิ้น 439,100,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.61 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน และผู้ถือหุ้นเดิมของ COTTO ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหุ้น


ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

รวมพลังเพื่อสังคม! พาราไดซ์ พาร์ค ผนึก SET จัดงาน ผ้าเปลี่ยนโลก Craft for Change 2025 รวมเสน่ห์ผ้าทอจากใจชุมชนทั่วไทยกว่า 30 แบรนด์

เดินหน้าส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคมและสร้างโอกาสให้กับชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค จับมือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จัดงาน "ผ้าเปลี่ยนโลก Craft for Change 2025" ตลาดนัดเพื่อสังคมที่รวบรวมเสน่ห์ของเส้นใยธรรมชาติจากทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเสื้อผ้าจากผ้าฝ้าย ผ้าไหม ย้อมสีธรรมชาติ หรือสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมคุณภาพฝีมือชุมชน ทั้งกระเป๋า และงานคราฟท์ สุดเก๋ เพื่อให้คุณได้เลือกช้อปของดีจากท้องถิ่นกว่า 30 ร้านค้า อาทิ ยาโน

บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให... TK รักษามาตรฐานการกำกับดูแล ได้ 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist ต่อเนื่อง 18 ปีซ้อน — บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ราย...

ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... "SNPS" โชว์ศักยภาพธุรกิจ ครึ่งปีแรก 2568 กำไรพุ่ง 60.72 %พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน — ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอ...

นายอาทิตย์ สุริวงศ์ (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายทร... FVC รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้าน ESG — นายอาทิตย์ สุริวงศ์ (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และกิจการทั่วไป บริษัท...

บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้า... DEMCO คว้าเกียรติบัตร "ESG DNA" สร้างวัฒนธรรมองค์กรยั่งยืน — บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน หลังคว้าเกียรติบัตรโครงการ ESG DNA จากต...

นายสมสกุล วินิชบุตร (ขวา) ประธานเจ้าหน้าท... "ทานตะวันอุตสาหกรรม" ติดอาวุธ "ESG DNA" สร้างรากฐานความยั่งยืนทั่วทั้งองค์กร — นายสมสกุล วินิชบุตร (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน-บริหารธุรกิจ การเ...

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือทีทีบี ขยายระบบนิเว... ตลาดหลักทรัพย์ฯ และทีทีบี ผนึกกำลังปลุกธุรกิจไทยวัดคาร์บอน เพิ่มโอกาสเติบโตจากสินเชื่อยั่งยืน — ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือทีทีบี ขยายระบบนิเวศทางการเงินเพื่อค...

บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL... ผู้ถือหุ้น TPL ไฟเขียว "Project Synergy Move" สร้างเครือข่ายรถขนส่ง พัสดุ-บุคลลากร รวมกว่า 1,500 คัน — บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL รายงานมติ...

กลุ่มบริษัทเสนา โดย บริษัท เสนาดีเวลลอปเม... กลุ่มบริษัทเสนา รับมอบเกียรติบัตร "ESG DNA" จาก SET ตอกย้ำความเป็นผู้นำการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน — กลุ่มบริษัทเสนา โดย บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหา...